สังคม

คู่กรณีขอขมาศพ “ป้าต้อย” เสียใจมาก รักและรู้จักมาตั้งแต่เด็ก เผยขี่จยย.มาทางโค้ง-มืด เบรกไม่ทัน

โดย paranee_s

7 ส.ค. 2566

3.6K views

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 7 สิงหาคม 2566 ที่วัดนครอินทร์ ศาลา 2 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายทักษิณ อายุ 27 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์ชน นายสมชาย ยุ่นสุ่น หรือป้าต้อย แม่ค้าขนมใส่ไส้คนดังของจังหวัดนนทบุรี เสียชีวิต ระหว่างขี่รถไปรับน้องสาวเดินทางกลับบ้านเป็นประจำทุกวัน บริเวณ ถ.เลี่ยงเมือง ฝั่งตรงข้ามร้านลงขัน อ.เมือง จ.นนทบุรี ช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 4 สิงหาคม 66 ที่ผ่านมา


นายทักษิณ พร้อมน้องสาว ได้เดินทางมาที่วัดนครอินทร์ ศาลา 2 เพื่อมาจุดธูปขอขมาและขออโหสิกรรมกับป้าต้อย ผู้ล่วงลับไปแล้ว พร้อมขอขมากับ นางสุทิศา อายุ 52 ปี น้องสาวของป้าต้อย ซึ่งทางด้านนางสุทิศาให้อภัยกับนายทักษิณ และเข้าใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น


นายทักษิณ เล่าว่า เหตุการณ์วันนั้นตนไปรับน้องกลับจากที่ทำงาน ซึ่งตนไปรับน้องทุกวัน และเป็นเส้นทางที่ตนขี่รถกลับทุกครั้ง ไม่เคยมีอะไร แต่วันที่เกิดอุบัติเหตุ ระหว่างตนขี่กลับปกติ จนถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางโค้งและมืดมาก และก่อนเลี้ยวโค้งตนไม่เห็นว่ามีรถย้อนศรมาหรือไม่ และไม่เห็นป้าต้อยเลย


เจ้าตัวยืนยันไม่ได้มาเร็ว เพราะน้องสาวซ้อนท้ายมาด้วย วิ่งรถประมาณ 40-50 กม. พอเลี้ยวโค้งหลุดโค้งออกมา ตนก็เห็นป้าต้อยอยู่ข้างหน้าของรถตน ระยะห่างประมาณ 4-5 เมตร ตนพยายามเต็มที่แล้วในการเบรก แต่ไม่ทันทำให้รถชนป้าต้อยอย่างจัง เป็นเหตุสุดวิสัยตนไม่ได้ตั้งใจ


ซึ่งตนก็ได้รับบาดเจ็บที่แขนต้องใส่เฝือกตลอด เอ็นฉีกที่ข้อมือขวา ส่วนแขนข้างซ้ายเป็นแผล ตั้งแต่หัวไหล่ แขน เข่า ในระหว่างที่ตนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตนติดต่อป้าต้อยตลอด ตั้งแต่ไปถึงโรงพยาบาล หรือว่าต้องแยกโรงพยาบาลกัน ตนพยายามให้น้องไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพักและโทรคุยกับญาติป้าต้อยตลอดว่าต้องการอะไรไหม อยากได้อะไรไหม ให้ช่วยเหลืออะไรไหม ให้แจ้งมาได้เลยตนสะดวกทุกอย่าง


ตอนที่เกิดเหตุตนไม่รู้ว่าเป็นป้าต้อยคนดัง เพราะตนก็เจ็บ ตอนนั้นมีรถกู้ภัยมา 2 คัน นำป้าต้อยส่ง รพ.พระนั่งเกล้า ส่วนของตนส่งโรงพยาบาลที่มีประกันสังคม คือโรงพยาบาลวิภาราม และตนได้โทรคุยกับญาติเรียบร้อยแล้ว


นายทักษิณ กล่าวอีกว่า วันนี้มาขอขมาป้าต้อย ขอให้ไปเป็นนางฟ้าบนสรวงสวรรค์ มีความสุขมาก ๆ เพราะตนเสียใจมากกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ เป็นตราบาปในชีวิตตลอดไป เพราะตัวของตนเองรู้จักกับป้าต้อยมาตั้งแต่เด็ก เข็นรถขายขนมใส่ไส้ตั้งแต่ตนเด็กยันโต เวลามีงานบวชที่เป็นของญาติตน ป้าต้อยก็จะไปแห่นาคให้ตลอด และพอเกิดเหตุขึ้นเป็นคนใกล้ตัวตนรู้สึกเสียใจมากๆ


ซึ่งตนก็อยากฝากบอกคอมเมนต์ว่า ตนไม่ได้หนีไปไหน แค่อยู่ในระหว่างรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และอยากจะกราบขอโทษญาติป้าต้อย และคนที่รักป้าต้อยทุกคน ตัวของตนเองก็เป็นคนที่รักป้าต้อยเหมือนกัน เห็นป้าต้อยมาตั้งแต่เด็ก และป้าต้อยก็ได้รู้จักกับญาติของตน จึงเสียใจมาก เพราะตนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวขนาดนี้ พอตนได้ออกจากโรงพยาบาลตนก็รีบมาหาป้าต้อยทันที


นางสุทิศา ยุ่นสุ่น น้องสาวต่างมารดาของป้าต้อย เล่าว่า ตนไม่ได้ติดใจอะไรกับคู่กรณี เพราะเขายังเด็กอนาคตของเขายังอีกไกล ตนคิดไว้แต่แรกแล้วว่ามันคืออุบัติเหตุ ตนไม่คิดจะเอาอะไรจากเขา ไปถามเขาได้ ตนไม่เคยไปเรียกร้องเอาอะไรกับเขาเลย เมื่อครู่ตนก็บอกเขา ที่อยากให้เขารับผิดชอบก็คือให้ตัวเขามาขอขมาศพ ขอแค่นี้เพราะว่ามันดีกับตัวเขา ไม่ได้ดีกับตัวใคร เพราะเขาเป็นคนชน ตนต้องการแค่นี้


และสิ่งแรกที่วันแรกที่อยากเจอเขา ตนก็ไม่ได้อยากเจออะไร แค่ต้องการพวกเอกสารต่าง ๆ มาทำให้พี่ต้อยแค่นั้น ไม่เคยเรียกร้องอะไร ตนอยากให้แค่ตัวเขามา และครอบครัวเขามาเคารพศพ ตนไม่เรียกร้องอะไรเขา เขามาก็ไม่ได้พูดอะไร เขาพูดแค่ว่าป้า "ผมเสียใจด้วยนะครับ ป้าต้อยแกดีกับผม ผมรักและเคารพ เพราะว่าที่บ้านผมบวชป้าต้อยก็ไป" ตนก็อโหสิกรรมให้ไม่ติดใจ สมมุติถ้าเป็นตัวพี่ต้อยเอง พี่ต้อยก็อโหสิกรรมให้เหมือนกัน

คุณอาจสนใจ

Related News