อีก 5 วันช้างพลายสุรินทร์พ้นระยะกักตัวแล้วอาการดีขึ้นตามลำดับ

วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ขณะนี้เข้าสู่วันที่ 26 ของการกักตัว และเฝ้าระวังโรคของช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ อายุ 30 ปี ช้างไทย งายาว เพศผู้ ที่กักตัวอยู่ภายในพื้นที่ศูนย์วิจัย และเฝ้าระวังโรค สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งเป็นสถานที่แรกรับแห่งแรก เป็นบ้านหลังแรก ในประเทศไทย หลังช้างเชือกนี้ ได้กลับมาตุภูมิ ได้กลับบ้านเกิด หลังไปเป็นทูตสันถวไมนตรี ที่ประเทศศรีลังกานานกว่า 20 ปี กระทั่งเกิดเจ็บป่วย จึงมีการพากลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย นับเป็นภาพแห่งความดีใจของประชาชนชาวไทย ที่ได้เห็นช้างได้กลับบ้านเกิด และเหยียบแผ่นดินไทยครั้งแรก เมื่อเดินทางมาถึง จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา

ขณะนี้การกักตัวเหลือเพียงระยะเวลาอีก 5 วัน เท่านั้น ก็จะพ้นระยะเฝ้าระวัง และกักตัว ภายในพื้นที่แรกรับ ที่มีมาตรการดูแลตามระเบียบของกรมปศุสัตว์ ในการเฝ้าระวังโรคในสัตว์ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ จะต้องเฝ้าระวังกักตัวเป็นระยะเวลา 30 วัน โดยที่จะไม่ให้ปะปนกับสัตว์ชนิดอื่น หรือช้างเชือกอื่น เพื่อป้องกันโรคติดต่อแพร่เชื้อบางชนิด นอกจากนี้ ยังต้องมีการเจาะเลือดช้างไปตรวจทางห้องปฎิบัติการด้วย ซึ่งสัตวแพทย์ดำเนินการมาแล้ว 2 ครั้ง ในช่วงกักตัวเริ่มแรก และในช่วงครบ 15 วัน ที่ผ่านมา และครั้งสุดท้ายจะมีการเจาะตรวจเลือดซ้ำรอบที่ 3 ในรอบกักตัวครบ 30 วัน เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ว่า ช้างเชือกนี้ ปลอดภัยไม่มีเชื้อ หรือโรคติดต่อใดๆ ซึ่งผลตรวจเลือดที่ผ่านมา ไม่น่าห่วงอะไร

ซึ่งถึงแม้ใกล้จะครบการเฝ้าระวังกักตัวของช้างเชือกนี้ ที่เหลืออีกเพียง 5 วัน แต่เจ้าหน้าที่ของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง ก็ยังคุมเข้มพื้นที่ มีการตั้งจุดตรวจอยู่ด่านหน้าทางเข้าสถานที่ศูนย์วิจัย และเฝ้าระวังช้างอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้ ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมถึงสื่อมวลชน เข้าไปภายใน เพื่อปฎิบัติตามมาตรการควบคุมโรค และเฝ้าระวังโรคเต็มรูปแบบ ตามระเบียบกรมปศุสัตว์ ซึ่งในทุกวัน นอกจากทีมสัตวแพทย์ โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จะเข้าไปตรวจสุขภาพ และรักษาแผลฝีหนองของช้างแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เข้ามาตรวจสอบสถานที่ และรับรายงานการตรวจภาพรวมทุกด้านของช้างในทุกวันด้วย เพื่อเตรียมพร้อม นับถอยหลังที่ช้างเชือกนี้ จะออกมาสู้โลกภายนอก ได้ข้ามมารักษา และอยู่ในความดูแลยังภายในศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย และโรงพยาบาลช้าง ที่อยู่อีกฝั่งของสถานที่แรกรับกักตัว

จากวันแรกๆ ที่ได้เห็นช้างเชือกนี้กลับมาประเทศไทย มาถึง จ.ลำปาง จะเห็นว่า ร่างกายของช้างดูผอม แต่หลังจากที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทั้งการรักษาบาดแผลฝีหนอง การกินอาหารที่มีประโยชน์ และอย่างเต็มที่ รวมถึงการดูแลเอาใจใส่จากควาญช้างไทย ในชีวิตประจำวัน ในการปรับพฤติกรรมช้าง ทำให้ร่างกาย ซึ่งเป็นสุขภาพหลักที่สำคัญของช้างดีขึ้นต่อเนื่อง จนดูอ้วนถ้วนสมบูรณ์ขึ้นมาก จะเห็นว่า ผิวหนังของช้างดูดีขึ้น เมื่ออาบน้ำช้าง ได้รับการขัดผิวช้าง ก็เห็นว่า ผิวช้างที่ดำเข้ม มีสุขภาพที่ดีขึ้นต่อเนื่อง หลายๆ คนที่ติดตาม ก็จะบอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่า ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ หล่อขึ้น เท่ห์ขึ้น และสมบูรณ์ขึ้น ดีขึ้น ทั้งสุขภาพร่างกาย และจิตใจ ที่ช้างได้กลับมาอยู่บ้านที่ประเทศไทย