AOT สรุปสาเหตุทางเลื่อนดูดขาผู้โดยสาร เกิดจากแผ่นพื้นหลุดออกจากโครอยึด

เมื่อเวลา 15.00 น. ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชนหรือ AOT ได้มีการแถลงข่าวสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีอุบัติเหตุบริเวณทางเลื่อนของอาคารผู้โดยสารภายในประเทศอาคาร2 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา


โดย ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย เรืออากาศเอก ธรรมาวุธ นนทรีย์ รองผู้อำนวยการใหญ่ (ส่วนงานมาตรฐานท่าอากาศยานและการบิน) ในฐานะ หัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้แถลงสรุปข้อเท็จจริงกรณีอุบัติเหตุทางเลือกของอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานดอนเมือง


เรืออากาศเอก ธรรมาวุธ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางท่าอากาศยานดอนเมืองได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยการตรวจสอบประวัติทางเลื่อนที่เกิดเหตุ และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องรวมถึง เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำ


ซึ่งในระยะเวลารวมนับตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน 22 วัน คณะกรรมการ ได้รับพยานวัตถุ 10 รายการ พยานเอกสาร 23 รายการพยานบุคคล 34 ราย


ซึ่งทั้ง 34 รายเชิญมาให้ถ้อยคำ 39 ครั้ง ทั้งพยานผู้เห็นเหตุการณ์ที่ปรากฏใน CCTV หรือผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ก็ถูกเชิญมาให้ถ้อยคำ


โดยพยานหลักฐานที่มีนัยยะสำคัญ นำไปสู่การไขข้อสงสัย และสามารถสรุปสาเหตุที่ปรากฏเป็นข้อเท็จจริง พิจารณาจากภาพเคลื่อนไหวกล้องCCTV จำนวน 4 กล้อง และแผ่นทางเลื่อนที่หลุดออก


ในการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาหลักฐาน ตั้งสมมุติฐานการเกิดเหตุเป็น 2 แนวทาง คือ แนวทางแรก ทางเลื่อนได้ดูดขาติดลงไป โดยสมมุติฐานนี้ได้ตรวจสอบจากซี่หวีพบว่า เกิดเป็นช่องว่าง ขนาด 4 เซนติเมตร จึงทำให้เกิดการเข้าใจว่าจะทำให้เกิดแรงดูดเกิดขึ้น ซึ่งหากมีแรงดูดเกิดขึ้นจริง ต้องเป็นการดูดขนาดใหญ่จนสามารถดูดวัตถุที่มีขนาดใหญ่กว่าลงไปได้ แต่อุปกรณ์ดังกล่าวยังอยู่ในสภาพปกติ ชานพักทุกตัว ยังแข็งแรง ซึ่งหากมีแรงดูดจริงต้องมีความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรองเท้า และเท้าของผู้บาดเจ็บทางคณะกรรมการจะพิจารณาแล้วเห็นว่าแนวทางที่ 1 จึงเป็นไปไม่ได้


ส่วนสมมุติฐานที่ 2 คือแผ่นทางเลื่อนมีช่องเปิด ทำให้ขาผู้โดยสารตกลงไปจากการตรวจสอบพบว่า หลังเกิดเหตุได้มีการขยับทั้งเลื่อนเพื่อตรวจสอบ ทำให้ทราบว่ามีการหลุดของแผ่นพื้นทางเลื่อน ชิ้นที่เกิดเหตุออกจากเฟรมเลื่อน และยังพบว่า นอต ยึดทางเลื่อน หลุดออกจากแผ่นพื้น ทำให้เชื่อได้ว่าจะเป็นแผ่นทางเลื่อน ที่เกิดเหตุหลุด ก่อนที่ผู้โดยสารจะเดินเข้าทางเลื่อน


จากการคำนวณของคณะกรรมการที่ตรวจสอบ ยังพบว่า แผ่นทางเลื่อนหลุดออกก่อนที่ผู้โดยสารรายนี้จะเดินไปถึง ซึ่งระยะห่าง อยู่ประมาณ 10 แผ่น ซึ่งหากคำนวณตามเวลาของวงจรปิดกับผู้โดยสารที่อยู่หน้าแผ่นที่ชำรุด ได้ประมาณ 24 วินาที ก่อนที่ผู้โดยสารผู้บาดเจ็บจะเดินไปทัน ดังนั้นจึงมีความเห็นว่ามีช่องเปิดเกิดขึ้นจริง จะมีความเป็นไปได้ตามสมมุติฐาน


สำหรับ ข้อกำหนดเรื่องการตรวจสอบทางเลื่อนภายในท่าอากาศยาน คณะตรวจสอบข้อเท็จจริงไปตรวจสอบพบว่า มีข้อบกพร่องในการตรวจสอบ เนื่องจากไม่ได้มีการดำเนินการตามข้อกำหนด โดยไม่ได้มีการตรวจสอบเป็นรายวันอย่างที่เคยแถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ และผู้ที่เซ็นรับรองในการตรวจสอบก็ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในการรับรองจริง และคุณสมบัติไม่ตรงตามสัญญาจ้าง


ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้น ท่าอากาศยานดอนเมือง หาข้อตกลงในการฟื้นฟูความมั่นใจในการใช้อุปกรณ์แก่ผู้โดยสาร โดยจ้างหน่วยงานซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านลิฟต์และบันไดเลื่อนมาดำเนินการตรวจสอบปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยตามมาตรฐาน เช่นการติดตั้งตัวตรวจจับกรณีแผ่นทางเลื่อนชำรุด และการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจจับในกรณีที่ทางเลื่อนมีปัญหา


สำหรับการเยียวยา คณะผู้บริหารท่าอากาศยานดอนเมืองได้มีการเข้าเยี่ยมและติดตามกระบวนการรักษาของผู้บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด พบว่าปัจจุบันทางผู้บาดเจ็บมีภาวะทางร่างกายและจิตใจที่ดีขึ้น พ้นขีดอันตรายแล้ว อยู่ในกระบวนการทำกายภาพบำบัดเพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับปกติที่สุด ทางท่าอากาศยานดอนเมือง พร้อมที่จะรับผิดชอบดูแลค่ารักษาพยาบาลตลอดจนเรื่องของค่าชดเชยเยียวยาอย่างถึงที่สุด


โดยหลังจากนี้ทางท่าอากาศยาน จะมีการนำข้อเท็จจริง และหลักฐานเพื่อแจ้งความเอาผิดกับบริษัทคู่สัญญา และเจ้าหน้าที่ของ ทอท. เพื่อดำเนินการเอาผิดทางแพ่งและอาญา


ทั้งนี้ ประวัติความเป็นมาเป็นอุปกรณ์ทางเลื่อนติดตั้งครั้งแรก 2530 มีการปรับปรุงครั้งใหญ่มีการเปลี่ยนอะไหล่เมื่อปี 2558 โดยผู้รับจ้าง ทอท.ได้ว่าจ้าง ซึ่งผู้รับจ้างนั้นเป็นตัวแทนของเจ้าของผลิตภัณฑ์โดยตรง โดยมีการสำรวจสภาพอุปกรณ์เดิม และมีการเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ แต่ไม่มีหลักฐานปรากฏที่แสดงว่า มีการเปลี่ยนแผ่นพื้นทางเลื่อน โครงยึดแผ่นพื้น และนอตที่ยึดแผ่นพื้นและ โครง