ส.ว.ซากีย์ ยืนยันยึดเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนเป็นที่ตั้งในการโหวตนายกรอบ 2

วันที่ 18 ก.ค. 66 ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายซากีย์ พิทักษ์คุมพล หนึ่งในสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงประเด็นร้อนทางการเมือง หลังการประชุมสภาฯ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ช่วงของการโหวตนายกรัฐมนตรี นายซากีย์ เป็น 1 ใน 13 ส.ว. ที่โหวตเห็นชอบให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีนั้น

โดย นายซากีย์ ยืนยันว่า ถึงตอนนี้ตนก็ยังยึดมั่นในหลักการเดิม ถ้ายังมีการเสนอชื่อ นายพิธา ก็คงจะโหวตให้อยู่เหมือนเดิม เพราะเป็นเรื่องของหลักการที่เราควรเคารพ พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งสูงสุด และสามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ เป็นหลักการที่ชุมชนในอารยประเทศถือปฏิบัติ เป็นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย ที่ให้โอกาสพรรคที่ได้รับเสียงอันดับ 1 หรือพรรคที่สามารถร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้ มีสิทธิเสนอชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นอันดับแรกก่อน จึงขอยืนยันในหลักการเดิม

ส่วนปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่ติดหล่มอยู่ ความขัดแย้งมีมาตั้งแต่การปฏิวัติ เมื่อปี 2549 คงไม่มีวิธีการใดที่เหมาะสมไปกว่าการมายืนอยู่บนหลักการของประชาธิปไตย ที่ได้รับการยอมรับจากอารยประเทศ มองว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุด ให้ประชาชนเห็นเองว่า คนที่คุณเลือกไม่สามารถทำตามสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับคุณได้ หากเป็นเช่นนั้นคุณก็สามารถพิจารณาคนอื่นเข้ามาแทนที่ได้ ในระยะเวลา 4 ปี เพราะฉะนั้น ส่วนตัวคิดว่าการให้โอกาส ก็เป็นหลักการหนึ่งของประชาธิปไตย

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวถามต่อ ถึงประเด็นมาตรา 272 ที่พรรคก้าวไกล ได้เข้ายื่นหนังสือต่อประธานสภาฯ ให้พิจารณาปิดสวิตช์ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น นายซากีย์ เผยว่า เรื่องนี้ต้องไปถามท่านประธานสภา ว่า ท่านจะอนุญาตให้มีการประชุมร่วมของ 2 สภา ในประเด็นนี้ตอนไหน ก่อนหรือหลังการโหวต แต่ตนคิดว่า ก่อนการโหวตคงเป็นไม่ได้ คงจะต้องเป็นหลังวันที่ 19 กรกฎาคม 66

ซึ่งหมายความว่า ต้องหลังการโหวตเลือกนายกฯ รอบ 2 แต่ส่วนตัวเห็นด้วยกับการตัดอำนาจ ส.ว. มาตั้งแต่ต้น โดยช่วงที่มีการโหวตประเด็นนี้กัน ขณะนั้นตนเองอยู่ที่ซาอุดิอาระเบีย บุคคลที่เห็นด้วยกับการตัดอำนาจ ส.ว. ก็แพ้ไป เพราะฉะนั้นเมื่ออำนาจตามบทเฉพาะกาลมันคงอยู่ จึงขอยืนยันใช้สิทธิในการโหวตต่อไป

ทั้งนี้อย่างที่เห็นว่า มี ส.ว.บางส่วน (อีก 12 คน) ที่ยอมตัดอำนาจตัวเอง เพราะเขาคิดว่าการตัดอำนาจตัวเองเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ เขาก็ยังยืนยันว่า จะให้โอกาสกับพรรคที่ได้รับเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่ง สิ่งที่น่าสนใจก็คือปีที่ผ่านมา มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งถึง 70 กว่าเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมากกว่าการเลือกตั้งครั้งผ่านๆ มา ฉะนั้นข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นตัวเลขที่ควรเอามาพิจารณาในการตัดสินใจด้วย ส่วนการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 กรกฎาคม นี้ ส่วนตัวของ ส.ว.ซากีย์ จะไปร่วมทำหน้าที่โหวตตามรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน