ร้านขนมไทยชื่อดังโอดราคาไข่ไก่แพง ต้องแบกรับต้นทุนสูงขึ้น วอนรัฐบาลใหม่เร่งแก้ไขปัญหาปากท้อง

วันนี้ (16 ก.ค. 2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากทางเครือข่ายสหกรณ์ ผู้เลี้ยงไก่ไข่ประกอบด้วย สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จำกัด สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี จำกัดสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน จำกัด และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย จำกัด ประกาศปรับขึ้นราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอีก 20 สตางค์ต่อฟอง หรือ 6 บาทต่อแผง จากเดิม 3.80 บาท เป็น 4.00 บาทต่อฟอง มีผลตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.2566 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนั้น ได้ส่งผลกระทบไปยังผู้ประกอบธุรกิจที่ใช้ไข่ไก่เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าเพื่อจำหน่าย โดยเฉพาะร้านขายขนมไทยและร้านเบเกอรี่ ที่ใช้ไข่ไก่เป็นวัตถุดิบหลักในการทำขนม



ซึ่งทางร้านบ้านขนมไทย ร้านจำหน่ายขนมไทยและเบเกอรี่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ที่เปิดขายมานานกว่า 30 ปี ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากราคาของไข่ไก่ที่พุ่งสูงขึ้นโดยนางสุดา เหรียญมณี เจ้าของร้านบ้านขนมไทย เปิดเผยว่า ที่ร้านของตนนั้นขายทั้งขนมไทยและเบเกอรี่ซึ่งจำเป็นที่จะต้องใช้ทั้งไข่เป็นและไข่ไก่ในการทำขนม ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาไข่เป็ดและไก่มีราคาเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะไข่ไก่ที่เพิ่งมีการปรับราคาขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ร้านของตนได้รับผลกระทบมาโดยตลอดโดยเฉพาะอย่างน้อยปีนี้ก็มีการปรับขึ้นถึง 3 ครั้งแล้ว และบางช่วงทั้งไข่เป็นและไข่ไก่ยังขาดตลาดอีก อย่างไรก็ตามตนก็ไม่สามารถปรับราคาขนมที่ขายภายในร้านเพิ่มขึ้นได้เนื่องจากกลัวลูกค้าไม่ซื้อซึ่งตนก็ต้องทนแบกรับต้นทุนไข่ไก่ที่เพิ่มสูงขึ้น และอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ตนยังสามารถแบกต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ได้ก็คือตนไม่ต้องเสียค่าเช่าร้านเพราะที่ตรงนี้เป็นที่ของตนอยู่แล้ว เพราะถ้าเสียค่าเช่าที่อีกตนคงแบกรับภาระไม่ไหว จึงอยากฝากไปยังว่าที่รัฐบาลอยากให้เร่งช่วยแก้ไขเรื่องปัญหาของแพงและปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นอันดับแรก