ครูสาว รร.พัทลุง ฉุนเด็ก 5 ขวบ ขูดเก๋งเป็นรอยถลอก อ้างตีครั้งเดียว แต่พ่อไม่เชื่อเพราะรอยแดงเต็มหลัง

วานนี้ (28 มิ.ย. 66) นายธนพงษ์พันธ์ ฤทธิ์ธนสิทธิ์ อายุ 38 ปี เข้าแจ้งความ กับ สภ.ป่าพะยอม และร้องให้ผู้สื่อข่าวช่วย หลังพบว่าครูสาวโรงเรียนใน ต.เกาะเต่า อ.ป่าพะยอม ใช้ฝ่ามือตีลูกชาย น้องต้นพีด อายุ 5 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ตรงแผ่นหลัง จนเป็นรอยเขียวช้ำ ทำให้เด็กเจ็บปวด และหวาดกลัว

ผู้เป็นพ่อ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันจันทร์ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา ครูทราย ที่เป็นครูสอนเด็กปฐมวัย โทรมาบอกว่า ลูกชายได้ขูดรถเก๋งของครู ได้รับความเสียหาย ซึ่งหลังทราบข่าว จนได้รีบมาโรงเรียน พร้อมทั้งยกมือไหว้ขอโทษครูทราย และยอมรับผิดชอบแทนลูกทุกอย่าง โดยได้พูดคุยกัน เพื่อที่จะนำรถที่ได้รับความเสียหายจากการขีดข่วนของลูกชาย ให้ช่างตีประเมินราคา

ช่างได้สำรวจพบว่า รอยขีดข่วนมีทั้งรอยเก่ารอยใหม่ แต่ก็ไม่เป็นไร พร้อมจะชดใช้ พร้อมถามกลับไปหาครูทรายอีกครั้งว่า รถที่มีร่องรอย มีทั้งรอยเก่ารอยใหม่ แต่ครูทรายยืนยันว่า ลูกชายตนเอง เป็นคนทำ

ก่อนที่ครูทรายได้โทรสอบถามสามีอีกครั้งว่า ตรงประตูและด้านหน้า มีรอยขีดข่วนและสีถลอกนานยัง สามีครูทรายบอกว่า แกเป็นคนทำให้รถสีถลอกเอง ตอนที่นำรถไปขับ

ช่างตีราคาซ่อม 1,500 บาท ตนก็ยินดีชดใช้ให้ แต่ครูทรายบอกว่า จะไม่ซ่อมที่อู่ จะนำไปซ่อมที่ศูนย์ โดยสะดวกวันไหนจะประสานอีกที ก่อนตกลงกันได้

ต่อมา ตนได้นำลูกชายกลับบ้าน ก่อนที่จะอาบน้ำ กำลังถอดเสื้อลูกชาย ลูกชายอกพ่อหนูเจ็บ พอถอดเสื้อออกพบว่า ตรงแผ่นหลังลูกชายมีรอยช้ำเหมือนโดนทำร้าย ด้วยความโมโหได้ส่งรูปและข้อความ และได้โทรไปหาครูทราย ครูทรายบอกได้ตีลูกชายตนเองไป 1 ครั้ง แต่ตนไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากเห็นรอยช้ำแล้ว มันมากกว่า 1 ครั้ง แน่นอน

ก่อนที่จะนำลูกชายไปหาหมอ และแจ้งความบันทึกประจำต่อพนักงานสอบสวน สภ.ป่าพะยอม เพื่อที่จะเอาผิดกับครูทราย

ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า ถ้าครูบอกสักคำว่า ก่อนที่จะโทรหาพ่อ ได้ตีลูกตนไปเพื่ออบรมสั่งสอน แต่กลับไม่บอก ปกปิดจนตนเองมาเจอ ทำให้รับไม่ได้ เมื่อเห็นรอยซ้ำบนแผ่นหลัง มันเจ็บจี๊ด จนบอกไม่ถูก

และตอนไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เด็กร้องและกลัวจนตัวสั่น ครูได้แค่ขอโทษ และบอกจะขอโอกาส ซึ่งตนเองมองว่าไม่ใช่

สุดท้าย จึงเดินหน้าแจ้งความเอาผิดครู ที่ทำเกินกว่าเหตุ และไม่อยากให้ลูกชายต้องตกเป็นทาสอารมณ์ของครูสาวคนนี้อีก

---------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/pEDcjw14RMQ