สังคม

หลายมุมมองกับปรากฎการณ์ #Save หยก

โดย onjira_n

15 มิ.ย. 2566

6.3K views

นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีเคสหยก ระบุว่า โพสต์นี้อาจไม่ถูกใจบางคน แต่ก็อยากจะพูดในฐานะคนทำงานด้านสิทธิมนุษยชนที่ต้องยืนยันหลักการ ตาม #แถลงการณ์ของโรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2566 แสดงเหตุผลของโรงเรียนต่อกรณีสภาพการเป็นนักเรียนของหยก คือ การรายงานตัวที่ต้องมีผู้ปกครอง (ตามกฎหมาย) มาร่วมในการรายงานตัวเด็กที่โรงเรียนภายในวันที่ 10 มิถุนายน 2566 แถลงการณ์ระบุว่า "... แต่นักเรียนไม่ได้ดำเนินการดังกล่าว ทำให้ไม่มีฐานข้อมูลในระบบ จึงไม่ได้เป็นนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ในปีการศึกษา 2566"



หากดูใน live ที่หยกติดต่อกับผู้ปกครอง ก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าใครคือผู้ปกครอง ทั้งนี้ ในส่วนของ "ผู้เยาว์ – minor" ตามกฎหมายไทย และกฎหมายระหว่างประเทศให้ความสำคัญกับ #ผู้ปกครอง มาก ในอารัมภบทของ #อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ขององค์การสหประชาชาติ (Convention on the Rights of the Child- #CRC) ย่อหน้าที่ 5 ระบุว่า



"เชื่อว่า ครอบครัวในฐานะเป็นกลุ่มพื้นฐานของสังคมและเป็นสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ สำหรับการเจริญเติบโตและการกินดีอยู่ดีของสมาชิกทุกคนโดยเฉพาะเด็กควรได้รับการคุ้มครองและการช่วยเหลือที่จำเป็น เพื่อที่จะสามารถมีความรับผิดชอบในชุมชนของตนได้เต็มที่"

"ยอมรับว่า เพื่อให้พัฒนาบุคลิกภาพได้อย่างกลมกลืนและเต็มที่ เด็กควรจะเติบโตในสิ่งแวดล้อมของครอบครัว .." (ย่อหน้าที่ 6) และ



"คำนึงถึงว่า ตามที่ได้ระบุในปฏิญญาว่าด้วยสิทธิเด็กนั้น เด็กโดยเหตุที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ทั้งทางร่างกายและจิตใจ จึงต้องการการพิทักษ์และดูแลเป็นพิเศษ รวมถึงต้องการการคุ้มครองทางกฎหมายที่เหมาะสมทั้งก่อนและหลังการเกิด" (ย่อหน้า 9)

ผู้ปกครอง (พ่อแม่) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินการต่างๆต่อเด็ก (อายุต่ำกว่า 18 ปี) ไม่ใช่ให้ใครก็ได้มาเป็นผู้ปกครองแทน ซึ่งตามกฎหมายผู้ปกครอง คือ พ่อแม่ หากพ่อแม่ไม่มีความสามารถ หรือเป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือกรณีที่เด็กไม่มีพ่อแม่ รัฐมีหน้าที่ต้องให้ความคุ้มครองต่อเด็ก

ในส่วนการศึกษา เด็กมีสิทธิปฏิเสธระบบการศึกษาของรัฐ โดยผู้ปกครองสามารถจัดการศึกษาตามความต้องการและเหมาะสมกับเด็กได้ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาทางเลือก เช่น home school รวมถึงการศึกษาในรูปแบบเรียนรู้อื่นๆ ที่เด็กๆหลายคนมีความสุขและประสบความสำเร็จกับการศึกษาที่เหมาะสมกับตัวเอง ... กรณีของหยก ผู้ปกครอง (แม่) ควรออกมาการปกป้องสิทธิเด็ก และดำเนินการต่างๆเพื่อ #ประโยชน์สูงสุดของเด็ก (best interest of the child)

#เครื่องแบบนักเรียน ไม่ใช่ปัญหา



สุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาองค์กรสิทธิมนุษยชนนานาชาติฮิวแมนไรท์วอทช์

ทวีตข้อความว่า #saveหยก ปัญหาด่วน และร้ายแรง คือ แม่ตัดขาดติดต่อไม่ได้ จึงต้องหาทางให้การแต่งตั้งผู้ปกครองที่จะมาดูแล #หยก มีผลทางกฎหมายโดยเร็วที่สุด ไม่งั้นจะเข้าเรียนที่ไหนก็ไม่ได้ แล้วถ้าถูกจับ หรือถูกฟ้องคดี #ม112 เพิ่มก็อาจโดนส่งเข้าบ้านปราณีอีก เพราะไม่มีผู้ปกครอง #ส่องทวิตยามเช้า



คุณสุนัย ทวีตอีกหลายข้อความระบุว่า ถ้าจริงจังกับ #saveหยก ต้องถามว่าโรงเรียน และผู้ที่ดูแล #หยก ทำอะไรไปบ้างเพื่อรักษาสิทธิ์ในการรับการศึกษาของน้อง ซึ่งไม่สามารถเอาผู้ปกครองตัวจริง (แม่) มาทำเอกสารมอบตัวลงทะเบียนเรียนได้ตามระเบียบ นี่เป็นความรับผิดชอบของทั้งสองฝ่าย อย่าหลงประเด็น #ส่องทวิตยามเช้า

เช่นทางเลือกหนึ่ง ถ้าแม่ไม่ยอมลงนาม หรือตัดขาดการติดต่อก็ให้หยกไปแจ้งตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้ แล้วไปร้องศาลครอบครัวมีคำสั่งให้แต่งตั้งผู้ปกครอง



ขณะที่รองศาสตราจารย์ ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า

ห้องเรียนที่สาธิตธรรมศาสตร์ นักเรียนถอดรองเท้า ครูก็ถอดรองเท้า หลักเสมอภาคข้อความอีกโพสต์ ระบุว่า โรงเรียนที่นักเรียนไม่มีชุดนักเรียน แต่งชุดที่ตนรัก จะขาสั้นขายาวก็แต่งไปเถอะ ถ้าชอบ ไว้ผมสีอะไรก็ตามใจ ผมจะยาวแค่ไหนอย่างไรก็เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนตัว ภาพจากเฟสของโรงเรียนสาธิตธรรมศาสตร์เพื่อให้พ่อแม่ได้เห็นลูกๆ ในโรงเรียน ที่ไม่มีความลับ วันกิจกรรมพบปะสนุกของ ม.1 ม.4 เมื่อวานนี้ มีการเปิดเผยพี่รหัส มีการแสดงจากกลุ่มที่รักในดนตรี ร้องเพลง dance มีพ่อแม่ร่วมกันเอาของกินมาแจกฟรีให้ทุกคน โรงเรียนที่มายซันโครตรัก เพราะสาธิตธรรมศาสตร์ สอนให้ฉันค้นหาศักยภาพและความฝันของตนเอง และสอนให้รักประชาชน อย่างมีความสุข โลกนี้สร้างสรรค์ให้ดีขึ้นได้ด้วยมือของเยาวชนรุ่นใหม่ #หยก #โรงเรียน



ขณะที่ ดร.แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศพรรค

ประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณี "หยก" เยาวชนที่มีพฤติกรรมต่อต้านระบบระเบียบวินัยทางโรงเรียน รวมไปถึงจารีตทางสังคมไทยจนเป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดีและมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรงนั้น เกิดจากสาเหตุจากการเสพข่าวและรับสารทางการเมืองของลัทธิคลั่งเสรีภาพแบบก้าวร้าวสุดโต่ง ของพรรคการเมืองหนึ่งที่มองทุกอย่างในสังคมไทยในแง่ลบแง่ร้ายซึ่งเกิดจากการป้อนข้อมูลและทัศนคติทางการเมืองแบบต่อต้านผ่านกลไกการสื่อสารทั้งทางโซเชียลมีเดีย การทำกิจกรรมกลุ่ม การคบคุ้นกับรวมกลุ่มเพื่อนที่มีทัศนคติโน้มเอียงแบบต่อต้านสังคม

ตนอยากให้ทางคณาจารย์ใช้ความอดทนอดกลั้นให้มากและหาโปรแกรมทางจิตวิทยาเชิญผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเหลือดูแล"หยก" และมองหาทางออกร่วมกันกับครอบครัวและสังคม เพื่อเสริมหนุนให้เขาได้มีทางรอดทางอื่นไม่ผลักไสให้ไปตกเป็นเหยื่อของกลุ่มขบวนการลัทธิคลั่งเสรีภาพแบบก้าวร้าวสุดโต่ง ที่ขับเคลื่อนโดยพรรคการเมืองบางพรรคที่เน้นปลุกปั่นไปที่เด็กและเยาวชนจนตนอดห่วงไม่ได้ว่าในอนาคตเราจะมีเหยื่อแบบหยกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

คุณอาจสนใจ