‘หยก’ ปีนรั้วรอบ 2 ขอ รร.หาจุดร่วมกันคนละครึ่งทาง – ‘ไอซ์ รักชนก’ฟาดระเบียบข้อไหน ‘พ่อแม่’ต้องพามอบตัวเท่านั้น

‘หยก’ ปีนรั้วเข้าโรงเรียนรอบ 2 จี้ถามผอ. หลังไม่มีสถานะนักเรียน มอง ชุดนักเรียนคืออำนาจนิยม ขอ รร.หาจุดร่วมกันคนละครึ่งทาง พร้อมปรับแก้ พ้อเหลือเวลาแค่ 3 ปี – ‘บุ้ง’ คาใจ ไม่สู้ตอนนี้ ให้สู้ตอนไหน เชื่อทำไปเพื่อทุกคน  


วานนี้ (วันที่ 15 มิ.ย.) ทีมข่าวรายงานว่านี่เป็นภาพวินาทีที่ "หยก" เยาวชนนักเคลื่อนไหวทางการเมือง อายุ 15 ปี ตัดสินใจปีนรั้วโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เพื่อเข้าไปเรียน หลังจากที่เจรจากับทาง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนนานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ทางโรงเรียนยังไม่ยอมเปิดประตูรั้วให้

ในช่วงระหว่างการเจรจา และรอเข้าโรงเรียน ทางหยก ซึ่งวันนี้เดินทางมาพร้อมกับ "บุ้ง" ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองของ "หยก" และสมาชิกกลุ่มทะลุวัง ก็ได้ไลฟ์สดในเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วย

โดยระหว่างที่ปืนเข้าไป มีตัวแทนสมาคมผู้ปกครองและครูเข้ามาห้าม จนเกิดเป็นปากเสียงกันเล็กน้อย จากนั้น "หยก" ได้พยายามปีนรั้วหน้าโรงเรียนอีกครั้งจนสำเร็จ แต่เมื่อเข้าไปในโรงเรียนแล้ว ก็มีคุณครูเข้ามาห้าม แต่สุดท้ายก็ยอมปล่อยให้เดินเข้าไปในเรียนได้ ซึ่งวันนี้ ในโรงเรียนมีกิจกรรมพิธีไหว้ครูด้วย

จากนั้นทีมข่าวลงพื้นที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ พบว่า วันนี้ทางโรงเรียนปิดประตูรั้ว มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกลุ่มตัวแทนสมาคมผู้ปกครองและครู เฝ้าสังเกตุการณ์อยู่ด้านในประตูรั้ว

โดยทางหยก บอกว่า ได้อ่านแถลงแถลงการณ์แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนได้รับรู้แล้วว่า "บุ้ง" เป็นผู้ปกครอง โดยมีการจ่ายเงินค่าเทอม และรับมอบตัวเรียบร้อยแล้ว และที่ผ่านมาพยายามติดต่อพ่อแม่มาโดยตลอด แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งตั้งแต่การถูกจับกุมที่ สน.พระราชวัง คราวนั้นก็คุยกับแม่แค่เรื่องคดีกับเรื่องเรียนเท่านั้นเพื่อทำการเลื่อนวันมอบตัวออกไปก่อน ส่วนพ่อนั้นไม่ได้ติดต่อมานานมากแล้ว และหากโรงเรียนไม่พอใจเรื่องการแต่งกาย ก็อยากให้พูดคุยกันเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน ตนเองพร้อมปรับปรุงให้เรียบร้อยขึ้น แต่ยืนยันว่าจะไม่ขอแต่งชุดนักเรียน เพราะมองว่าเป็นอำนาจนิยม

เมื่อถามว่าหากโรงเรียน ยื่นข้อเสนอ ให้เข้าเรียนได้ แต่ต้องแต่งกายตามกฎระเบียบของโรงเรียนนั้น หยก บอกว่า หากเป็นเช่นนั้น นั่นหมายความว่าสาเหตุที่แท้จริงในการไม่ให้เข้าเรียน คือ เรื่องทรงผมและการแต่งกาย

ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามต่อว่า หากโรงเรียนยืนยันใช้เหตุผลเรื่องการมอบตัวและไม่อนุญาตให้เข้าเรียนต่อจะทำอย่างไรในอนาคต หยก ยืนยันว่าก็จะหาหนทางอื่นในการเรียนต่อไป โดยอาจย้ายไปเรียนที่อื่น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามหยกว่า ที่ผ่านมาแม่รับรู้เรื่องราวของเรามาตลอดหรือไม่? หยกตอบว่า ก็น่าจะรับรู้ อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกัน

หยก เผยต่อว่า หลังจากที่โดนจับคุณแม่ได้มอบหมายให้นายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือเก็ท เป็นผู้ปกครองของตน ซึ่งเป็นการมอบหมายผ่านทางโทรศัพท์ โดยเหตุการณ์ใน สน.พระราชวัง เกิดขึ้นช่วงเย็น ลากยาวถึงดึก จึงไม่มีเวลาในการทำอะไร ตอนเช้าก็ต้องถูกส่งตัวไปที่ศาลแล้ว


ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าหากโรงเรียนขอให้ปฏิบัติตามกฎโรงเรียนเพื่อจะได้เข้าเรียน ยินยอมหรือไม่? หยก กล่าวว่า ต้องหาจุดร่วมกันคนละครึ่งที่เหมาะสม เรื่องการแต่งชุดถ้าขอให้อยู่ในหลักว่าเรียบร้อย คุณก็บอกมาว่าไม่เรียบร้อยตรงไหน เราก็พร้อมปรับแก้เสมออยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดเห็นอย่างไรหากโรงเรียนยื่นข้อเสนอให้แต่งชุดนักเรียน จึงกลับไปเรียนได้? หยก กล่าวว่า แสดงว่าการที่ไล่ตนออกเป็นเพราะเครื่องแต่งกายและเรื่องทรงผม ซึ่งไม่ใช่เรื่องการมอบตัว ควรมาคุยกันด้วยข้อเท็จจริงมากกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่าในท้ายที่สุดถ้าโรงเรียนบอกว่าเป็นเพราะการมอบตัวไม่สำเร็จ ทำให้ไม่ได้เข้าเรียน? หยก กล่าวว่า โรงเรียนจะคิดคำพูดตนเอง ตนก็ยังยืนยันคำเดิมว่าจะสู้ต่อ จะไม่หยุด ซึ่งอาจไม่ใช่โรงเรียนนี้ถ้าหากไม่ให้เรียนจริงๆ และจะศึกษาต่อไป

“หนูเหลือเวลาเพียงแค่ 3 ปี ในระบอบการศึกษาไทยในชั้นมัธยมศึกษา มันก็แค่ 3 ปีเท่านั้น” หยก กล่าวทิ้งท้าย

หลังจากปีนเข้าไปได้ประมาณ 30 นาที พบว่ามีตัวแทนสมาคมผู้ปกครอง ไปบอกให้อาจารย์ประจำชั้นหยุดสอน และเชิญตัวหยกออกจากห้องเรียน โดยให้เหตุผลผลว่า หยกคือบุคคลภายนอก หยกจึงยอมออก และต่อสายมาหาบุ้ง เนติพร นักกิจกรรมจากกลุ่มทะลุวัง ที่รออยู่หน้าโรงเรียน เพื่อให้คุยกับตัวแทนสมาคมผู้ปกครอง ซึ่งปลายสายชี้แจงกับบุ้งว่า ในเมื่อไม่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียนได้ ก็ควรออกจากโรงเรียน ไปเรียนที่อื่น ก่อนจะมีการโต้เถียงกันว่า ถ้ากฎระเบียบมันละเมิดสิทธิมนุษยชน ก็ไม่มีที่ไหนรับได้ หลังจากนั้นหยกก็ลงมาพูดคุยกับบุ้ง และกลุ่มทะลุวัง ผ่านประตูรั้ว หยกยืนยันว่าจะไม่กลับบ้าน และจะรอเข้าเรียนในคาบบ่าย

ด้าน บุ้ง ยืนยันว่าหยกต้องการเข้าเรียน หลังสามารถสอบเข้าได้ตามปกติ แต่ไม่สามารถติดต่อผู้ปกครองได้เลย ทั้ง พ่อและแม่ รวมถึงโรงเรียนเองก็ไม่สามารถติดต่อพ่อแม่หยกได้เช่นกัน ปัจจุบันหยกพักอยู่อาศัยกับบุ้ง และได้จ่ายค่าเทอมให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในขณะนั้น ผู้อำนวยการโรงเรียนก็ยินดี ให้ถือว่าการมอบตัวของหยกนั้นเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว แต่พอมาเมื่อวานกลับไม่ให้เข้าเรียนและพอวันนี้ก็เช่นกัน

ตนมองว่า โรงเรียนควรมองสิ่งสำคัญที่สุดก่อน ก็คือ การศึกษาของเด็ก และเมื่อเจอพ่อแม่ของหยก จึงค่อยมาดำเนินการต่อได้หรือไม่ ส่วนเรื่องการแต่งกายที่ไม่ถูกต้องก็มาพูดคุยกัน และช่วงบ่าย ทราบว่าหยกได้เข้าเรียนตามปกติ ซึ่งหลังจากนี้ตนก็จะคุยกับหยกว่าจะเอายังไงต่อ

ทีมข่าวพยายามติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์ผู้อำนวยการโรงเรียน เกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ทางตัวแทนปฏิเสธให้สัมภาษณ์ บอกเพียงว่า รายละเอียดทั้งหมดได้ชี้แจงผ่านแถลงการณ์ไปแล้ว จะไม่มีการให้สัมภาษณ์อีก

--------------------------------------

ไอซ์ รักชนก ฟาด ระเบียบข้อไหนต้องพาแต่ ‘พ่อแม่’ มามอบตัวเข้าเรียน จ่อร้อง กมธ.ศึกษาตรวจสอบด่วน

ด้าน น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ ไอซ์ ว่าที่ ส.ส.กทม. เขตบางบอน หนองแขม จอมทอง แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กโดยตั้งคำถามถึงประเด็นดังกล่าว ระบุว่า “กฎระเบียบข้อไหนกันที่บังคับให้ต้องเอา พ่อแม่ มาเท่านั้นถึงจะมอบตัวได้ แล้วแบบนี้เด็กกำพร้าที่ไม่มีทั้งพ่อและแม่ไม่ต้องมอบตัว ไม่ต้องเรียนหนังสือหรือไง ถ้ากลไกสภายังทำงานอยู่ ไอซ์จะร้องเรื่องนี้ให้กรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องตอบคำถามสังคม

ไอซ์ขอยืนยันจุดยืน ไม่ควรมีเด็กคนไหนต้องหลุดออกจากระบบการศึกษาด้วยความไม่สมัครใจ ไม่ว่าด้วยกฎระเบียบข้อบังคับใดก็ตาม

ลองถามใจลึกๆ ดูว่าควรมีเด็กคนไหนในประเทศนี้ต้องออกจากระบบการศึกษาไป เพราะสังคมบางส่วนรู้สึกว่าน้องทำตัวไม่น่ารัก หรือเพราะไม่เคารพกฎระเบียบแบบเดิมๆ หรือเปล่า เรากำลังต่อสู้กับขนบเดิมๆ กันอยู่ไม่ใช่หรือ”

---------------------------------------------------------

"คุณปลื้ม" ยกเท้าโชว์ในรายการ  "The Daily Dose โลกการเมือง"  ถามแบบนี้เป็นสิทธิ์หรือป่าว

ขณะที่ ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งโพสต์คลิปส่วนหนึ่งของรายการ “The Daily Dose โลกการเมือง” ทางเพจเฟซบุ๊ก Voice TV ดำเนินรายการโดย ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ "คุณปลื้ม" ในช่วงหนึ่งมีการพูดถึงกรณีน้องหยก ระบุว่า ผู้ใหญ่ทางการเมือง ฝ่ายประชาธิปไตยที่คอยให้ท้ายเด็ก คุณไม่ต้องให้ท้ายเด็ก แต่คุณต้องหัดอบรมเด็กบ้าง แล้วเด็กรุ่นต่อไปจะเติมโตขึ้นมาจะได้รู้สึกภาคภูมิใจกัน

ถ้าพูดถึงเรื่องสิทธิ์ คุณปลื้ม ได้นำเข้าขึ้นมาวางบนเก้าอี๋โชว์ พร้อมกับพูดว่า ทำแบบนี้เป็นสิทธิ์ของปลื้มหรือป่าว แต่สิทธิ์หรือคุณอยากตบกระบาลผมตอนนี้ ถ้าผมเป็นคุณผมจะเดินไปตบกระบาลไอ้ปลื้มเหมือนกัน แบบนี้มันเป็นสิทธิ์หรือป่าว มันไม่ใช้สิทธิที่จะทำตามอำเภอใจ การเคารพผู้อื่นมันเป็นสิ่งที่ต้องมี

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/AqhJHc3--ok