ชาวบ้านเจอพระทองเหลือง 13 องค์ ถูกทิ้งซุกซ่อนไว้ในป่า

(25 เม.ย.) ที่ จ.อุบลราชธานี ร.ต.ท จิรพงษ์ ไพรเราะ รองสารวัตรสอบสวน สภ. เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากสายตรวจตำบลจาระแม มีพลเมืองดี พบพระพุทธรูปทองเหลืองถูกซุกซ่อนไว้ในป่าข้างร้านผ้าไหมทัศนีย์ถนนแจ้งสนิท ตำบลแจระแมอำเภอเมืองอุบลราชธานี ซึ่งคาดว่าจะเป็นพระที่ถูกโจรกรรมจากหลายอำเภอในจังหวัดอุบล ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา




หลังรับแจ้งจึงได้เข้าตรวจสอบพบพระทองเหลืองขนาดหน้าตัก 3-9 นิ้วปรางต่างๆ ถูกซุกไว้ ในป่า พื้นที่ว่าง ริมถนน ถูก เอาใบขี้เหล็ก ปิดครับอำพรางเอาไว้ จากการสอบถาม นายไมตรี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลจาละแม เปิดเผยว่าในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาตนเองได้รับแจ้งจากชาวบ้านและวัดในพื้นที่ว่าถูกโจรกรรมพระพุทธรูป ออกไปจากโบสถ์และวิหาร จำนวนหลายวัดซึ่งได้มีการแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้แต่ยังไม่ทราบตัวผู้ก่อเหตุ





ล่าสุดวันนี้ช่วงเช้าจนได้รับแจ้งจาก เจ้าของร้านผ้าไหมใกล้เคียงที่เกิดเหตุว่าพบพระพุทธรูป ถูกทิ้งไว้ ในป่า ข้างร้าน ซึ่งเป็นที่ว่างไม่มีผู้คนสัญจร จากการตรวจสอบ พบ พระพุทธรูปจำนวน 13 องค์ 4 องค์ที่พบเป็นของวัดบ้านหนองจาน ห่างจากจุดที่พบเพียง 1 กิโลเมตร จึงได้ประสานทางพระผู้ดูแล เข้าตรวจสอบ นายไมตรี ยังเปิดเผยอีกว่านอกจากวัดบ้านหนองจานแล้วยังมีวัดหนองมะเขือและวัดในอำเภอพิบูลมังสาหารอำเภอวารินชำราบที่ถูกโจรกรรมพระพุทธรูปเช่นกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานวัดต่างๆเพื่อเข้าตรวจสอบพระที่พบ ว่าเป็นของ ใครบ้าง




ด้านพระอัญชลี อายุ 40 ปี พระลูกบ้านหนองจาน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีพระพุทธรูปทองเหลือง 4 องค์ที่เป็นของวัดบางองค์อยู่บนโต๊ะหมู่บูชาบางองค์ตั้งอยู่ในศาลา พบเห็นครั้งสุดท้ายคือวันที่ 17 เมษายน ซึ่ง เป็นการนำ พระ ดังกล่าวไปทำพิธีทางศาสนาให้กับชาวบ้านหลังจากนั้นก็ไม่ ได้สังเกตอีก จนกระทั่ง เมื่อ 3 วันก่อน 22 เมษายน พระ ในวัดได้แจ้ง ว่า พระพุทธรูปอยู่ในศาลาและโต๊ะหมู่บูชาได้หายไปจึงได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแต่ไม่พบ จึงต้องแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้นำชุมชนทราบจากนั้น ก็มาพบว่าพระที่หายไปถูกนำมาวางทิ้งดังกล่าว ส่วนตัวเชื่อว่า ผู้ที่นำไป คงจะ ถูกสิ่งที่มองไม่เห็นรังควานให้นำเอามาคืน





สำหรับเหตุการณ์ ลักทรัพย์พระพุทธรูป ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมามีหัวขโมยออกโจรกรรมพระพุทธรูปทองเหลืองตามวัดต่างๆ ในหลายพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานีจนเป็นที่หวาดระแวงของวัดต่างๆ นอกจากไป พื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานีแล้วยังมีพื้นที่อำเภอวารินชำราบอำเภอพิบูลมังสาหารซึ่งหลังเกิดเหตุได้มีการโพสต์ภาพพระและแชร์ ตามเพจดังของจังหวัดอุบลราชธานีอย่างต่อเนื่อง จึงอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ คนร้ายนำพระมาทอด ประกอบกับ การกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามแผนภาพต่างๆจึงทำให้คนร้ายไม่กล้าที่จะนำพระออกมาจำหน่าย