สุดเศร้า ‘หลินฮุ่ย’ ลาไปดาวหมี พบเลือดออกจมูกก่อนตาย รอผู้เชี่ยวชาญจีนร่วมผ่าพิสูจน์หาสาเหตุ

สวนสัตว์เชียงใหม่ แถลงข่าวกรณีแพนด้าหลินฮุ่ยเสียชีวิต รอผู้เชี่ยวชาญจีนมาร่วมผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายหลินฮุ่ย หมอสุดกลั้น เล่าทั้งน้ำตา อยู่จนนาทีสุดท้าย ก่อนหลินฮุ่ยสิ้นใจ เผยมีเลือดออกทางจมูก หลังกินอาหารตามปกติช่วงสายวานนี้ ทีมสัตวแพทย์ไทยรักษาตามคำแนะนำทางการจีนตลอดทั้งคืน ก่อนหลินฮุ่ยมีอาการเกร็ง และจากไปอย่างสงบกลางดึกที่ผ่านมา เผยมีประกันชีวิต 15 ล้านบาท

วานนี้ (19 เม.ย.66) ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ นายเดชบุญ มาประเสริฐ ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยและนายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ รวมทั้งสัตวแพทย์ผู้ดูแลหมีแพนด้า ร่วมกันแถลงข่าวการตายของ “หลินฮุ่ย”


นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ แถลงว่า เมื่อวันที่ 18 เมษายน เวลา 11.30 ได้รับรายงาน จากคณะทำงาน วิจัย และจัดแสดง ว่าหลินฮุ่ย มีเลือดซึมที่บริเวณจมูก จึงได้ประสานไปที่ สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าสาธารณรัฐประชาขนจีน ที่ปักกิ่ง ปักกิ่งให้เราไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ที่ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า มณฑล เฉิงตู เราได้ระดมสัตวแพทย์ มาช่วยเหลือกัน ซึ่งเราได้รับการแนะนำจากทางเฉิงตู เราได้ทำตามคำแนะนำ


พอช่วงเย็นๆ หลินฮุ่ยอยู่ในภาวะวิกฤต ซึ่งทางสวนสัตว์ได้ปรึกษาสถานกงศุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาขนจีน ประจำเชียงใหม่ ได้ส่ง พณ ท่านหยางโจว เดินทางมาด้วยตัวเอง โดยทีมของ สถานกงศุลใหญ่ฯ เข้ามาถึงในเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ระหว่างนั้น ตัวแทน สถานกงศุลใหญ่จีน ได้แชทไปยังเฉิงตู ซึ่งทางนั้นได้แนะนำการรักษา แบบวีดีโอคอล นาทีต่อนาที ทางเราก็ทำเต็มที่ เกือบเที่ยงคืน ทางคณะสถานกงศุลใหญ่ฯ ก็เดินทางกลับ และเข้ามาใหม่ ตอนตี 1 กว่าหมีแพนด้ามีอาการเกร็ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ แพนด้าหลินฮุ่ยจากเราไปเมื่อเวลา 01.10 น. (วันที่ 19 เมษายน)


นายสัตวแพทย์เทวราช เวชมนัส รักษาการหัวหน้างานสุขภาพสัตว์ และปฏิบัติหน้าที่ นายสัตวแพทย์ประจำโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้า ระบุว่า หลินฮุ่ย เป็นหมีแพนด้าที่เข้าสู่วัยชรา มีสุขภาพปกติตามอายุของเขา ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต มีพฤติกรรมที่ปกติทุกอย่าง กินอาหารได้ เรามีการตรวจสุขภาพหลินฮุ่ยทุกวัน ก่อนที่จะปล่อยออกสู่ของส่วนของการแสดง ซึ่งทุกอย่างปกติดี ไม่มีสัญญาณอะไร


การพบเลือดออกที่จมูกของหลินฮุ่ย เป็นช่วงที่หลินฮุ่ย นอนพัก หลังจากที่กินอาหารแล้ว เขาก็ขึ้นไปนอน มีเลือดค่อยๆซึมออกมา ซึ่งไม่มีสัญญาณอะไรบอกเลยว่า เขาป่วยอะไร เขาก็ไม่รู้ตัว เขานอนค่อนข้างนาน ถึงเริ่มรู้ คล้ายเลือดกำเดาไหล พอไหลระยะหนึ่งจะหายใจไม่ออก เหมือนมีน้ำจากจมูกเข้าปาก เขาเริ่มไม่สบายตัว เราจึงสังเกตเห็น ซึ่งต้องรอผลตรวจจากเลือด และผลวินิจฉัยละเอียด เนื่องจากไม่มีการบ่งชี้


ผู้สื่อข่าวถามว่าฝุ่นมีผลต่อหลินฮุ่ยหรือไม่ สัตวแพทย์ตอบว่า เป็นเรื่องที่แล้วแต่สัตว์ แต่ละชนิดว่ามีความไวในเรื่องนี้อย่างไร แต่หลินฮุ่ยอยู่ในส่วนการแสดงที่ปิด อยู่ในห้องที่อากาศดีที่สุดของสวนสัตว์ โอกาสที่ฝุ่นจะเข้าไป น้อยกว่าสัตว์ชนิดอื่น


สัตวแพทย์หญิง กรรณิการ์ จันทรังษี หรือ หมอก้อย สัตวแพทย์ประจำทีมดูแลแพนด้า สวนสัตว์เชียงใหม่ ผู้ที่ดูแลหลินฮุ่ย และ ช่วง ช่วง มา 20 กว่าปี เล่าว่า เราอยู่ในทุกช่วงการเจริญเติบโต ก็ผูกพัน รอบนี้ มีโอกาส ได้คุยกับเขาก่อน อยู่กัน ได้บอกหลินฮุ่ย ว่า “ ไม่เป็นไร ไม่ไหวก็ไป เราอยู่ด้วยกันจนนาทีสุดท้าย ” หมอก้อยระบุด้วยว่า ที่ผ่านมาการเสียชีวิต ของแพนด้าตัวอื่นทั่วโลก มีรายงานบ้าง เรื่อง อาการเลือดกำเดาไหล ความดันของร่างกาย แต่เราต้องสืบค้นเพิ่มเติมในทุกอาการที่เกิดขึ้นต้องรอการชันสูตร ซึ่งต้องทำงานร่วมกับจีนตามข้อตกลง


ขณะที่ นายเดชบุญ กล่าวว่า ทุกฝ่ายได้ช่วยกันให้การรักษาหลินฮุ่ย อย่างเต็มที่แล้ว และ ได้รับการรักษาทันทีตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เพราะเป็นทูตสันถวไมตรีไทย-จีน ที่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์แน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศ และตามกำหนดเดิมทางองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เตรียมที่จะต้องส่งคืน "หลินฮุ่ย" ให้กับทางการจีนในวันที่ 12 ต.ค.66 นี้แล้ว เนื่องจากครบกำหนดสัญญา 20 ปี แต่มาเกิดเหตุความสูญเสียในครั้งนี้เสียก่อน


เบื้องต้น ได้จัดเก็บซากของ "หลินฮุ่ย" ไว้เป็นอย่างดีแล้วตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจีน และเมื่อทำการผ่าพิสูจน์เสร็จแล้ว จะต้องส่งซากของ "หลินฮุ่ย" คืนให้กับทางการจีนด้วย ตามข้อตกลงในสัญญา สำหรับค่าธรรมเนียมที่จะต้องจ่ายให้ทางการจีนกรณีหมีแพนด้าเสียชีวิตนั้น มีการทำประกันไว้วงเงิน 15 ล้านบาท ซึ่งน่าจะครอบคลุมเพียงพอ ส่วนอนาคตตจะมีการส่งหมีแพนด้าจากจีนมาอยู่ในประเทศไทยอีกหรือไม่ จะต้องมีการหารือและพิจารณาร่วมกับทางการจีนอีกครั้ง


ซึ่งการเสียชีวิตของ "หลินฮุ่ย" ด้วยอายุ 21 ปี 7 เดือนนั้น ถือว่าเป็นการเสียชีวิตลงในช่วงอายุขัยเฉลี่ยปกติของหมีแพนด้าที่อยู่ที่ประมาณ 20 ปี ซึ่งหากเทียบกับมนุษย์แล้ว "หลินฮุ่ย" ถือว่าอยู่ในวัยชรา อายุประมาณ 80 ปี.

สำหรับ “หลินฮุ่ย” เป็นแพนด้ายักษ์เพศเมีย เกิดเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2544 ที่ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้ายักษ์ เขตอนุรักษ์วู่หลง เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน “หลินฮุ่ย” เกิดจากพ่อหมีแพนด้าชื่อ Pan Pan (พ่าน พ่าน) และแม่หมีแพนด้าชื่อ Tang Tang (ถัง ถัง)

 ถูกส่งมาไทย และอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2546 เพื่อเป็นทูตสันถวไมตรีระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยจัดแสดงคู่กับ “ช่วงช่วง” แพนด้ายักษ์เพศผู้ / หลินฮุ่ยเคยได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทองแดง ประเภทแพนด้าบุคลิกภาพยอดเยี่ยม จากการโหวตของแฟนคลับทั่วโลกผ่านเว็บไซต์ Giant Panda Zoo.com / "หลินฮุ่ย" ยังมีชื่อไทยว่า “เทวี” และมีชื่อล้านนาว่า “คำเอื้อย”

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 หรือกหลังจากอยู่ไทยเข้าสู่ปีที่ 6 “หลินฮุ่ย” ได้ให้กำเนิดลูกแพนด้าเพศเมีย น้ำหนักประมาณ 200 กรัม จำนวน 1 ตัว ซึ่งเป็นผลจากการผสมเทียมกับ “ช่วงช่วง” เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 อายุครรภ์ประมาณ 3 เดือน นับเป็นแพนด้าตัวแรกของโลกที่เกิดในประเทศเขตศูนย์สูตร ในเดือนนอกฤดูผสมพันธุ์ของหมีแพนด้า

 ซึ่งตอนนั้นเกิดกระแส “แพนด้าน้อยฟีเวอร์” เพราะสวนสัตว์เชียงใหม่เปิดให้คนไทยทั้งประเทศ โหวตตั้งชื่อให้กับแพนด้าตัวนี้ผ่าน จดหมาย และไปรษณียบัตร ซึ่งอันดับ 1 ได้แก่ชื่อ “หลินปิง” ซึ่งได้รับเสียงโหวตท้วมท้น กว่า 13 ล้านฉบับ

และเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2562 คู่ของ “หลินฮุ่ย” คือ "ช่วงช่วง" ได้ตายลงที่สวนสัตว์เชียงใหม่ สาเหตุการตาย คณะผู้เชี่ยวชาญจาก ไทย และ จีน พบว่าเกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลว ส่งผลให้อวัยวะภายในทั่วร่างกายขาดออกซิเจนเป็นเหตุให้ตาย

และเมื่อวันที่ 28 ก.ย. ปีที่แล้ว นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ น.ส.หยาง โจ่ง รองกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเชียงใหม่ เพิ่งจัดงานฉลองวันคล้ายวันเกิด 21 ปีของหลินฮุ่ย โดยมีแฟนคลับมาร่วมร้องเพลง Happy Birthday และอวยพรวันเกิด

และเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ “หลินฮุ่ย” ได้จากไปหลังมีอาการผิดปกติตั้งแต่เมื่อวาน เจ้าหน้าที่จึงนำไปตรวจ ขณะเดียวกันได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของจีน ก่อนที่ช่วงเช้าวันนี้ ได้รับการยืนยันว่าหลินฮุ่ยได้ตายแล้ว

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/7CjX_zlyJnI