สังคม

เพื่อนน้ำเพชรยันน้ำเพชรไม่ได้ทำผิด

โดย onjira_n

18 เม.ย. 2566

337 views

เมื่อเวลาประมาณ 10:00 มีเพื่อนรุ่นพี่ของ น.ส.น้ำเพชรประมาณ 3 คน เดินทางมาเพื่อเยี่ยมน้ำเพชร ซึ่งปรากฎว่า เพื่อน 2 คนนั้นได้รีบหลบหน้าสื่อไป เหลือเพื่อนรุ่นพี่ 1 คนที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน



โดยเพื่อนรุ่นพี่คนนี้ยืนยันว่า น.ส.น้ำเพชรไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ น้ำเพชรเป็นคนดี รักครอบครัวและเป็นกำลังหลักของครอบครัว เฟรนลี่ ชอบช่วยเหลือทุกคน พร้อมเล่าที่มาที่ไปว่า น.ส.น้ำเพชรคบกับนาย WANG เมื่อปี 2565 ประมาณ 1 ปีเต็ม ซึ่งรู้จักจากการทำงานร่วมกัน แล้วเพิ่งมาเลิกกันเมื่อสิ้นปี 2565 โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่จากนั้นไม่นาน  ก็มีนายกายซึ่งจริง ๆ ชื่อว่านายบอส ได้มาคบหากับ น.ส.น้ำเพชร จากการเที่ยวสถานบันเทิง ในช่วงเดือนมกราคม 2566 จนกระทั่งเดือนมีนาคม 2566 นาย WANG ก็กลับมาตามง้อขอคืนดีกับ น.ส.น้ำเพชรจนกลับมาคบกันเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ และเลิกกับนายกายหรือบอสในที่สุด



ทั้งนี้ ช่วงที่น้ำเพชรคบกับผู้เสียหาย ทางผู้เสียหายก็ให้เงินดูแลน้ำเพชรอยู่เยอะมาก แต่ตนไม่ทราบว่าเท่าไหร่ และน้ำเพชรก็มีเงินมีทอง มีการมีงานดี ไม่เคยมีปัญหาด้านการเงิน ที่ผ่านมาตนก็พยายามห้ามปราม น.ส.น้ำเพชร มาโดยตลอดว่าทำไมถึงต้องคบกับนายกายหรือนายบอส เพราะนายกายหรือบอสเองมีพฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรและชอบเล่นการพนัน อีกทั้งมาอยู่เกาะอาศัยอยู่กับน้ำเพชรโดยไม่ได้ทำอาชีพอะไรเลย แต่ไม่เคยเล่านายกายหรือบอสขอเงินน้ำเพชรไหม ซึ่งตนเชื่อว่า เหตุการณ์ครั้งนี้น้ำเพชรไม่ใช่คนทำ แต่เป็นนายกายหรือบอสที่เป็นคนต้นเรื่องและก่อเหตุทั้งหมด มองว่าที่นายบอสทำไปเพราะความหึงหวงและนายกายหรือบอสอาจจะมีปัญหาเรื่องเงินที่นำไปเล่นการพนันเนื่องจากก่อนหน้านี้น้ำเพชรเคยเล่าวว่า กายหรือบอสมีปัญหาทางการเงิน อย่างไรก็ตามตนไม่ทราบว่าน้ำเพชรกับคนจีนมีปัญหาอะไรไหม



ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่า น.ส.น้ำเพชรเคยถูกข่มขู่หรือถูกบังคับจากนายกายหรือบอสมาก่อนหรือไม่ก่อนเกิดเหตุ ส่วนรถยนต์ BMW ที่ผู้เสียหายชาวจีนซื้อให้น้ำเพชรนั้น นายกายหรือบอสมักจะชอบเอาไปขับเป็นปกติอยู่แล้ว ส่วนคีย์การ์ดคอนโดผู้เสียหาย คาดว่าเป็นความประมาทของน้ำเพชรที่ทิ้งคีย์การ์ดไว้ในรถ อีกทั้งตัวนายกายหรือบอสเขาก็รู้ข้อมูลห้องของผู้เสียหายอยู่แล้วจากการเคยกดเรียกรถให้ไปรับน้ำเพชรจากคอนโดของผู้เสียหาย จึงทำให้รู้สถานที่ ชั้นและห้องผู้เสียหายเป็นอย่างดี



สำหรับในคืนเกิดเหตุนั้น 14 เมษายน ช่วงเวลาเกิดเหตุประมาณ 1 ทุ่มถึงสามทุ่ม น้ำเพชรไปเที่ยวสงกรานต์แถวถนนพระราม 9 แต่ปรากฎว่าช่วงเวลา 01:59 น้ำเพชรโทรมาหาตนว่า เขาโทรหานาย WANG ผู้เสียหายไม่ได้ โดยโทรติดต่อครั้งสุดท้ายตอน 23:30 ซึ่งนาย WANG กล่าวแค่ว่า ไม่ต้องเป็นห่วงและไม่ต้องมาที่คอนโดผู้เสียหายแถวถนนวิทยุ เพราะคืนนี้มีเพื่อนมาหา ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงบ่าย ๆ นาย WANG โทรหาน้ำเพชรว่าเดี๋ยวจะไปปาร์ตี้ที่รังสิต ทำให้น้ำเพชรเริ่มเอะใจว่าทำไมถึงไม่ให้กลับห้อง ทั้งที่ปกติเพื่อนผู้เสียหายมาห้อง น้ำเพชรก็อยู่ได้ตามปกติ ตอนแรกจึงคิดว่าผู้เสียหายพาหญิงอื่นมาห้อง อีกทั้งเพื่อนผู้เสียหายช่วยดูวงจรปิดของคอนโดแล้วพบว่าผู้เสียหายยืนคุยกับผู้ชายกับผู้หญิง จึงพยายามโทรหานาย WANG จึงไม่ติด เลยโทรให้ตนเดินทางไปที่คอนโดแถวถนนวิทยุพร้อมกันเพื่อตามหานาย WANG



พอถึงคอนโด ตนกับน้ำเพชรจะขอดูวงจรปิดแต่นิติบุคคลไม่อนุญาต กอปรกับ รปภ.ของคอนโดเห็นว่านาย WANG ยืนคุยกับชายและหญิงตอนประมาณ 18:30-19:00 // จนกระทั่งประมาณ 02:30 นาย WANG โทรมาหาน้ำเพชรสั้น ๆ ว่า ตอนนี้อยู่พัทยากับเพื่อน ไม่ต้องเป็นห่วงและไม่ต้องมาหาที่ห้อง ซึ่งตนกับน้ำเพชรก็เอะใจว่า ทำไมเพื่อนทุกคนของนายหวังโทรหาไม่ติด มีแต่น้ำเพชรคนเดียวที่นายหวังโทรหา และเอะใจว่าทำไมนาย WANG ถึงไปพัทยา ทั้งที่ตอนแรกจะไปรังสิตด้วยซ้ำ



หลังจากนั้นเมื่อเห็นว่าเวลาอันสมควรเพราะดึกเกินไป ตนจึงแยกย้ายกับน้ำเพชรกลับไปพักผ่อน กระทั่งช่วงเช้าวันเดียวกัน น้ำเพชรก็ไม่สามารถติดต่อพี่หวังได้อีกครั้ง น้ำเพชรจึงตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจ สน.ลุมพินี แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความเนื่องจากยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง จากนั้นน้ำเพชรก็อยู่ที่คอนโดย่านสุขุมวิทเรื่อยมาโดยที่ไม่ทราบเหตุการณ์ จนถูกจับกุมเมื่อวานนี้



ส่วนตัวกังวลว่า ตอนนี้น้ำเพชรตกเป็นจำเลยสังคมและถูกต่อว่าอย่างหนักจึงไม่สบายใจอย่างมาก โดยเฉพาะข่าวจากบางเพจที่อ้างว่าน้องรับสารภาพซึ่งเชื่อว่าไม่เป็นความจริง เพราะน้องไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือทำผิดในครั้งนี้ หากนายกายหรือบอสจะให้การซักทอดก็นำพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงมาต่อสู้ยืนยันได้เลย อยากให้สังคมอย่าพึงตัดสินเพื่อนของคนจากเพียงแค่คำให้การของบอส




คุณอาจสนใจ