สุดจะทน! ชาวเชียงราย รวมตัวแสดงพลัง ยื่นหนังสือผู้ว่าฯ จี้แก้ปัญหาฝุ่น - ชาวสุพรรณฯ ยกมือไหว้ทั้งน้ำตา วอนเลิกเผา

วานนี้ (10 เม.ย. 66) ประชาชนชาวเชียงราย รวมทั้งคณะสงฆ์ และสามเณร จากวัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ กลุ่มแพทย์ใน จ.เชียงราย ภาคเอกชน เยาวชน องค์กรเอกชน ได้ไปรวมตัวจัดกิจกรรมรณรงค์แก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 และขอยื่นหนังสือต่อ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ที่ลานหน้าอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ห้าแยกพ่อขุน อ.เมือง จ.เชียงราย

โดยขอทราบการแก้ไขปัญหาของจังหวัดทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว มีการถือป้ายข้อความต่างๆ บางป้ายเขียนล้อคำขวัญประจำจังหวัด รวมทั้ง เปิดให้ผู้คนเขียนข้อความแสดงความเห็นบนกระดาน ก่อนผลัดกันปราศรัย และมอบน้ำดื่ม เกลือแร่ ที่มีผู้นำไปบริจาคให้กับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า เพื่อนำไปใช้ในภารกิจ ซึ่งมีประมาณ 400 คน และแสดงสัญลักษณ์ด้วยการชูป้ายซึ่งมีข้อความในการต่อต้านและคัดค้านเรื่องของหมอกควันที่ปกคลุมจังหวัดเชียงรายอยู่ในขณะนี้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายทั้งระยะสั้นและระยะยาว

แพทย์หญิงท่านหนึ่ง ที่เข้าร่วมกิจกรรม กล่าวว่า ฝุ่นPM 2.5 มีผลกระทบต่อคนทุกเพศวัยโดยที่คนทั่วไปยังไม่ตื่นตระหนกว่า กรณีเด็กเล็กหากสูดเข้าไปจะส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก ส่วนผู้ใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ปอดจะกระทบหนัก และในระยะยาว จะทำให้ผู้คนที่อยู่ในพื้นที่นี้ อายุสั้นลง 4 ปี ส่วนการป้องกันด้วยหน้าการที่ใช้กันโดยทั่วไป จะไม่ได้ผลกับฝุ่นขนาดเล็กนี้ ต้องใช้หน้ากากแบบ N 95 ขึ้นไปเท่านั้น

ทั้งนี้ ยังมีผู้ปราศรัย ระบุว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ควรจะเป็นปัญหาระดับภูมิภาคนี้เพราะไม่ได้มีแค่ จ.เชียงราย หรือประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบต่อใน สปป.ลาว และเมียนมา ต่างเผชิญกับปัญหาเหมือนกัน ดังนั้น ภาครัฐควรแก้ไขปัญหาระยะยาว เช่น กระทรวงพาณิชย์หารือกับประเทศเพื่อนบ้านเรื่องการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้าน กระทรวงการต่างประเทศหารือเรื่องแนวนโยบายต่อปัญหานี้ร่วมกัน ฯลฯ

เวลาต่อมา นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 และ นายสมเกียรติ ปูกา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงราย ได้ชี้แจงต่อผู้ชุมนุม

ซึ่ง นายวราดิศร ระบุว่า จังหวัดเชียงรายได้วางแผนทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ส่วนไฟป่าในจังหวัดพบว่า เกิดขึ้นเฉพาะพื้นที่ป่าเขาสูงชัน และผู้ก่อเหตุเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปดับไฟจุดใดได้แล้ว ก็จะย้ายไปเผาจุดใหม่อีก ป้จจุบันจึงใช้มาตรการเข้มข้นจับกุมได้แล้วหลายราย

นายสมเกียรติ ประกาศต่อผู้ชุมนุมว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ลักลอบเผาและทำลายป่าได้แล้ว 18 ราย

-------------
เมื่อวานนี้ (10 เม.ย. 66) ที่ศาลปกครองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ มูลนิธินิติธรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมและคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยประชาชนผู้ร่วมฟ้อง นำเอกสารหลักฐาน และรายชื่อประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศ ที่ร่วมกันลงชื่อระหว่างวันที่ 7-9 เม.ย.66 ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 727 คน และทางออนไลน์อีกกว่า 980 คน เข้ายื่นศาลปกครองเชียงใหม่เพื่อฟ้อง... 

• พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
• คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
• คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.)
• คณะกรรมการกำกับตลาดทุน

ที่ไม่ได้ใช้มาตรการทางกฎหมาย กลไกทางสิทธิมนุษยชน นโยบาย และแผนที่มีอยู่ กำหนดมาตรการป้องกัน และจัดทำแผนฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขสถานการณ์วิกฤตฝุ่นควันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ จากกรณีที่ ตั้งแต่เดือน ม.ค. 66 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน สถานการณ์ฝุ่นควัน PM 2.5 ภาคเหนือ มีความเข้มข้นสูงปกคลุมหรืออนุภาคลุ่มแม่น้ำโขงเป็นวิกฤติระดับสูงสุด และมีผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศสะสมแล้วกว่า 2 ล้านคน โดยเฉพาะในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนบนของไทย เช่น จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน ต้องประสบกับผลกระทบทางสุขภาพจากการรับสัมผัสฝุ่นพิษในระดับที่เป็นอันตราย โดยมีฝุ่น PM 2.5 สูงกว่า 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขึ้นไปต่อเนื่องกันนับสัปดาห์ เป็นวิกฤตด้านสาธารณสุขที่ส่งผลอย่างร้ายแรงและถูกเพิกเฉยจากรัฐบาลมายาวนาน ซึ่งการ การฟ้องร้องครั้งนี้มีคอกเรียกร้องสำคัญทางคดี 3 ประการ ได้แก่

1. ฟ้องนายกรัฐมนตรีให้ใช้อำนาจตามมาตรา 9 พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติอย่างร้ายแรงให้มีอำนาจสั่งการให้หน่วยงานทำหน้าที่อย่างเข้มข้น เนื่องจากนายกรัฐมนตรีไม่ได้ใช้อำนาจนี้จนการแก้ไขปัญหาวิกฤตฝุ่น PM 2.5 มีความล่าช้าไม่ทันต่อความร้ายแรงของสถานการณ์

2. ฟ้องคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติให้ปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ " การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง" ซึ่งรัฐบาลประกาศแผนนี้มาตั้งแต่ปี 2562 เนื่องจากในระยะเวลา 4 ปี ในการใช้แผนนี้แทบจะไม่เห็นความคืบหน้าและปัญหายังคงความรุนแรงอยู่ ถือเป็นความผิดปกติที่ไม่สามารถยอมรับได้

3. ฟ้องคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และคณะกรรมการกำกับตลาดทุนในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลซึ่งมีหน้าที่ครอบคลุมถึงพันธกรณีนอกอาณาเขตให้กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการจัดทำรายงานการเปิดเผยข้อมูลอย่างรอบด้านเพิ่มในแบบรายงาน 66-1 One Report หรือแบบอื่นๆในฐานะเอกสารสำคัญ สำหรับการตรวจสอบข้อมูลตลอดห่วงโซ่อุปทานอันเกี่ยวเนื่องกับแหล่งกำเนิดฝุ่น PM 2.5 ซึ่งส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมาอย่างประเทศไทย
-------------

ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยผลรายงาน จุดไฟป่าเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา 96 จุด ค่าฝุ่น ต.จองคำ อ.เมือง 122 มคก./ลบ.ม. , อ.ปาย 259 มคก./ลบ.ม. และ อ.แม่สะเรียง 81 มคก./ลบ.ม.

จากรายงานดังกล่าว จะเห็นว่าจุดไฟป่าได้เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ยังคงสูง และเกินค่ามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ทัศนวิสัยในการมองเห็นทางอากาศ ลดต่ำเช่นเดิม คือวัดได้ 2 กม. และพอช่วงบ่ายเป็นต้นไป ค่าทัศนวิสัยจะดีขึ้น วัดได้ 5-8 กม.ทุกวัน สาเหตุมาจากช่วงนี้อากาศร้อนและมีลมพัดเข้าสู่พื้นที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน อย่างต่อเนื่องทำให้ค่าทัศนวิสัยดีขึ้น ทั้งนี้ ค่าอุณหภูมิของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ได้สูงถึง 40 องศาเซลเซียส ต่อเนื่องมาแล้ว 3 วัน

สำหรับสถานการณ์ไฟป่า นายกู้ชาติ สง่าศรี หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าแม่สะเรียง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 9 เม.ย.66 ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ เวลา 20.00 น.เกิดไฟป่า บริเวณ ป่าวัดถ้ำน้ำอบ บ้านท่าข้าม ม.1 ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เริ่มดับเวลา 20.05 น. ดับเสร็จเวลา 20.40 น. พื้นที่ที่ถูกเผาไหม้ 7 ไร่ สาเหตุหาของป่า ป่าเต็งรัง เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ยวมฝั่งซ้าย

จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว พบว่า เส้นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 108 สายแม่ฮ่องสอน - ขุนยวม พบว่า ป่าสองข้างทาง ถูกไฟป่าเผาทำลายตลอดระยะ ทาง 70 กม.และยังคงมีไฟป่าที่ไหม้ขอนไม้ / ตอไม้ ข้างทาง เป็นจำนวนมาก และส่งให้เกิดควันไฟป่าลอยสู่ท้องฟ้า ซึ่งเป็นสาเหตุให้ควันไฟป่ายังคงหนาแน่นเช่นเดิม ทั้งนี้ บริเวณหลักกิโลเมตร ที่บอกระยะทางของ แขวงทางหลวง ทุกหลัก กม. จะถูกไฟป่าเผาเศษไม้ใบตองที่ร่วงหล่นสู่พื้นทุกหลัก กม.
-------------
วานนี้ (10 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดสุพรรณบุรี นายเฉลย เพียรทอง นายมงคล เพ็งคล้าย กรรมการป่าชุมชนบ้านลูกแก หมู่ 10 ตำบลพลับพลาไชย อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมกรรมการป่าชุมชน และชาวบ้านลูกแก เกือบ 10 คนเดินเท้า แบกอุปกรณ์การดับไฟ มีทั้งแกลอนใส่น้ำ ไม้ตบ เครื่องเป่าลม ขึ้นไปช่วยกันดับไฟที่กำลังลุกไหม้ป่าชุมชนบนเขาบ้องกัญชา บ้านลูกแก หลังเกิดไฟไหม้ 3 วันติดต่อกัน สร้างความเสียหายกว่า 300 ไร่

นายมงคล เพ็งคล้าย อายุ 63 ปี กรรมการป่าชุมชนบ้านลูกแก หมู่ 10 ตำบลพลับพลาไชย กล่าวว่ากรรมการป่าชุมชน และชาวบ้านลูกแกเกือบ 10 คนไ ด้มาช่วยกันดับไฟป่าบนภูเขาสูงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 7 ได้เกิดไฟไหม้ขึ้นที่บนภูเขาบ้องกัญชา ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าชุมชน หมู่ 10 บ้านลูกแก กรรมการหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชาวบ้านชาวบ้านเกือบ 20 คน ได้พากันเดินเท้านำอุปกรณ์ดับไฟที่พอหาได้ เดินขึ้นภูเขาที่สูงชันเพื่อช่วยกันดับไฟไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้าง ใช้เวลาเกือบทั้งคืนจึงสามารถดับไฟได้

หลังจากดับไฟช่วงกลางคืนเสร็จก็พากันลงมาพักผ่อน ได้ไม่นานก็ได้รับแจ้งว่ามีไฟไหม้บริเวณใกล้เคียงอีก พวกตนก็รีบพากันขึ้นไปช่วยกันดับ และสามารถดับได้ เสร็จแล้วก็ลงมาพักผ่อน หลังจากพักผ่อนได้ไม่นานไฟก็ไหม้อีก พวกตนก็พากันรีบขึ้นไปดับ กระทั่งเมื่อวานนี้ (10 เม.ย.) ช่วงสายได้เกิดไฟไหม้ขึ้นใกล้กับจุดเดิมจึงพากันไปดับ เสร็จแล้วก็พากันกลับ

ตกเย็นประมาณ 16.00 น.ก็เกิดไฟไหม้ป่าบนภูเขา บ้องกัญชา ที่พวกตนเพิ่งจะดับไปเมื่อช่วงสาย ซึ่งได้พักผ่อนกันเพียงเล็กน้อยกำลังคนส่วนมากก็ไม่ไหวเหลือเพียง 4-5 คน ที่ยังพอไหว จึงประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ อำเภอด่านช้างมาช่วยสนับสนุน ปีนเขาแบกอุปกรณ์ แกลอนใส่น้ำ เครื่องเป่าลม ขึ้นไปดับไฟด้วยความยากลำบากท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว พวกตนแต่ละคนก็อายุ 50 กว่า อย่างตนก็อายุ 63 แล้วต้องปีนขึ้นภูเขาสูงทุกวัน สุขภาพร่างกายก็จะไม่ไหวแต่ก็ต้องฝืน และวันนี้เราก็สามารถควบคุมไฟเอาไว้ได้ พร้อมกับช่วยกันทำแนวกันไฟเอาไว้

อยากฝากถามคนที่ลักลอบจุดไฟเผาป่าว่าทำไปเพื่ออะไร รู้หรือไม่ว่าป่าชุมชนเป็นป่าที่กรรมการและชาวบ้านช่วยกันรักษาไว้เพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่มีแหล่งอาหาร ไว้หากิน เช่น หน่อไม้ ผักหวาน หรือเห็ดป่าเห็ดโคนต่างๆ และเราก็ช่วยกันรักษาป่าไว้ให้อุดมสมบูรณ์

ซึ่งต้นไม้ในผืนป่าแห่งนี้ ที่ชาวบ้านช่วยกันปลูกช่วยกันดูแลรักษากำลังเริ่มโต ป่ากำลังสมบูรณ์แต่กลับมาถูกมือดีลักลอบเผาติดต่อกันหลายวัน อยากจะรู้ว่าเผาทำไม เผาเพื่ออะไร สงสารพวกเรากรรมการป่าชุมชนและชาวบ้านบ้างไหม

แล้วป่าที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้ ซึ่งมีทั้งนกที่กำลังออกไข่ ไก่ป่า หมูป่า ต่างๆ ต้องมาถูกไฟเผา ตนขอยกมือ 10 นิ้ว กราบขอร้องให้เลิกเผาเถอะ สงสารพวกเรา สงสารชาวบ้าน สงสารสัตว์ป่า หยุดทำลายป่า หยุดทำลายธรรมชาติ เพราะสิ่งแวดล้อมต่างๆ พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Nkb1RjgIYCE