รวบแก๊งขายอาหารนกท่าแพ หลังคลิปว่อนมีปากเสียงนักท่องเที่ยว

ตำรวจบุกรวบแก๊งขายอาหารนกประตูท่าแพ หลังคลิปว่อนมีปากเสียงนักท่องเที่ยวห้ามไล่นก ข่มขู่ไม่ซื้อไม่ให้ถ่ายภาพ ทำเสื่อมเสียภาพลักษณ์ท่องเที่ยวเชียงใหม่

ก่อนหน้านี้ได้มีสื่อโซเชียลเสนอข่าว กรณีมีคนแอบขายอาหารนก พูดลักษณะก่อกวนข่มขู่นักท่องเที่ยว และมีพฤติการณ์ลักลอบขายอาหารนกให้กับนักท่องเที่ยว ก่อนจะถ่ายภาพให้ และขอเงินเป็นค่าตอบแทน หากนักท่องเที่ยวไม่สนใจก็จะก่อกวนสร้างความรำคาญ ทำให้เสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้มีข้อห่วงใยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นห้วงเทศกาลปีใหม่ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในสังคมและเหมาะสม ได้สั่งการให้ สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินการตรวจสอบจับกุมแก๊งขายอาหารนก ที่มาก่อกวนนักท่องเที่ยวอย่างเด็ดขาด

ต่อมา วันที่ 24 ธ.ค.68 พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่, พ.ต.ท.ทัตตวีย์ ด่านพิทักษ์ตระกูล รอง ผกก.ป. พร้อมกำลังตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่บริเวณลานประตูท่าแพ ก่อนจะจับกุมกลุ่มคนขายอาหารนก ได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 10 ราย พร้อมยึดของกลางอาหารนก เม็ดข้าวโพด ไม้ตีไล่นก และขวดน้ำพลาสติก

จากการสอบสวน ผู้ต้องหากลุ่มคนขายอาหารนกเหล่านี้ให้การว่า อ้างว่าที่ผ่านมาพยายามหางานทำอย่างอื่นแต่ไม่มีใครรับเนื่องจากไม่มีวุฒิการศึกษา ประกอบกับมีอายุมากแล้ว ไปที่ไหนก็ไม่มีใครรับ เห็นคนอื่นมาทำก็เลยอยากมาทำด้วย เพื่อให้มีรายได้พอประทังชีวิตเท่านั้น และไม่ได้อยากให้ภาพลักษณ์จังหวัดเชียงใหม่เสียหายแต่อย่างใด ต่อไปจะหาอาชีพอื่นทำ

เบื้องต้นตำรวจได้มีการทำประวัติผู้ต้องหาและตรวจปัสสาวะผู้ต้องหาทุกคน พร้อมกับตั้งข้อหา โดยผู้ต้องหาที่ 1–5 ข้อหา “ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่นอันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ” ฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และผู้ต้องหาที่ 6–10 ข้อหา “ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่นอันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ” และ “ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ของแข็งตกลง ณ ที่ใด ๆ โดยประการที่น่าจะเป็นอันตรายหรือเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคล หรือเป็นอันตรายแก่ทรัพย์ หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ของโสโครกเปรอะเปื้อนหรือน่าจะเปรอะเปื้อนตัวบุคคล หรือทรัพย์ หรือแกล้งทำให้ของโสโครกเป็นที่เดือดร้อนรำคาญ”

ก่อนควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ และได้ทำการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย คนละ 1,000 บาท อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจได้มีการกำชับให้กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดอย่าทำอีก หากตรวจพบอีกก็จะมีการจับกุมดำเนินคดีอีก