เพื่อไทยเปิดปราศรัยใหญ่เมืองแปดริ้ว ฟาดแรง “บิ๊กตู่” เป็นยุคการเมืองเลวร้ายที่สุด

พรรคเพื่อไทยเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ลานหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งวันนี้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ไม่ได้เดินทางมาด้วยตนเองแต่ได้มีการปราศรัยผ่านระบบซูมเนื่องจากไม่สามารถเดินทางไกลได้แล้ว ขณะที่แกนนำคนอื่นๆก็มาร่วมขึ้นเวทีอย่างพร้อมเพรียงรวมถึงนายสุชาติ ตันเจริญ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง ในฐานะเจ้าบ้านฉะเชิงเทรา และมดดำ คชาภาตันเจริญก็มาร่วมขึ้นเวทีด้วยให้กำลังใจนายสุชาติแล้ว



ทั้งนี้นางสาวแพทองธาร กล่าวปราศรัยผ่านระบบซูมว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วที่จะเห็นชีวิตพี่น้องกินดีอยู่ดีอีกครั้ง พรรคเพื่อไทยจะทำให้หนี้สินของพี่น้องประชาชนหมดไป เพราะเพื่อไทยเข้าใจปัญหาของประชาชนตั้งแต่แรกเริ่มจนทำนโยบายโดยยึดประชาชนเป็นหลักเพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุดในแต่ละจังหวัด



วันนี้พี่น้องมีปัญหาเรื่องการเกษตร พรรคเพื่อไทยจะช่วยตั้งแต่ต้นทุนการผลิตทั้งเรื่องปุ๋ยเมล็ดพันธุ์และเรื่องการตลาด



ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะลดค่าไฟค่าแก๊สทันที และภายในต้นปีหน้าค่าแรงต้องขยับขึ้นแน่นอน



จากนั้นมีตัวแทนประชาชน ซึ่งเป็นอสม.มาร่วมพูดคุยกับนางสาวแพทองธาร ขอให้ดูแลอสม. และอุปกรณ์ของโรงพยาบาล รพสต. ก็ขาดแคลน อีกทั้ง อสม. ส่วนใหญ่ ก็เป็นเกษตรกรจึงอยากฝากให้พรรคเพื่อไทยดูแลด้วย พร้อมขอให้นางสาวแพทองธารและพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล



ขณะที่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า สิ่งประชาชนขอมาอยู่ในนโยบายของพรรคเพื่อไทยแล้ว และสินค้าเกษตรขึ้นยกแผงแน่นอน



จากนั้นเป็นคิวของนายสุชาติ ตันเจริญ ขึ้นปราศรัย โดยพิธีกรแนะนำว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะได้ขึ้นเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ในตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร



ทำให้นายสุชาติ ตอบกลับว่า ยังไม่ทันขึ้นเวทีนาย อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ซึ่งทำหน้าที่พิธีกรก็กั๊กแล้วไม่ยอมให้ไปเป็นรัฐมนตรี ยังไม่ทันได้ถามเจ้าตัวเลยว่าจะเอาหรือเปล่าเพราะ “เพราะเจอข่าวที่แล้วทำหน้าที่ประธานเจอไอ้ตู่เบื่อชิบหายเลย เป็นนายกภาษาอะไรเป็นรัฐบาลภาษาอะไร ปล่อยสภาล่มตลอด หาความรับผิดชอบไม่มีเลย”



การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นปรากฎการณ์พี่น้องจะต้องจดจำไว้ ว่าที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยทั้ง 4 คน ประกอบด้วยนางฐิติมา ฉายแสง นายพงศ์ศรันย์ อัศวชัยโสภณ นายศักดิ์ชาย ตันเจริญ นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง เป็นการรวมกันจองสามครอบครัว มาร่วมมือกันในครอบครัวเพื่อไทย มาคิดใหญ่ทำเป็นเอาประโยชน์ให้กับประชาชน จะทำให้ฉะเชิงเทราแลนด์สไลด์ได้ง่ายขึ้น การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีความจำเป็นเพราะถ้าหากไม่แลนด์สไลด์ ความทุกข์ยากที่พี่น้องทนอยู่มาแปดปีก็ยังจะอยู่ต่อไป การปฏิรูปการเมืองที่พลเอกประยุทธ์สัญญาไว้ก็ทำให้การเมืองเลวร้ายลง ไม่เคยมียุคไหนสมัยไหนที่ไล่ซื้อผู้แทนเข้าคอก ซื้อกันแบบโจ๋งครึ่มเท่ายุคนี้ ซึ่งวันที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกก็มีการแจกเงินในสภา การเมืองเลวร้ายที่สุดในยุคที่พลเอกประยุทธ์เป็นนายก นอกจากไม่รักษาคำพูดไม่รักษาสัจจะ

แล้วก็ยังไม่มีความจริงใจ เพราะพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกที่ถูกเสนอชื่อมาจากพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นพรรคเก่าของตนและตนก็เคยยกมือเลือกพลเอกประยุทธ์เป็นนายกด้วย แต่สุดท้ายเป็นรัฐบาล 4 ปี นโยบายที่เคยหาเสียงไว้ เช่น โฉนดทองคำ มารดาประชารัฐ ก็ไม่เคยทำได้ไปที่ไหนก็มีแต่ถูกต่อว่า แล้วจะให้อยู่พลังประชารัฐต่อได้อย่างไร ประกอบกับลูกชายมดดำ บอกให้กลับบ้านเก่าคือพรรคเพื่อไทย



พลเอกประยุทธ์ อยู่มา 4 ปีพอใกล้จะเลือกตั้งก็เพิ่งคิดได้ว่าต้องขึ้นเงินเดือนให้ อบต. ตน เห็นด้วยที่เงินเดือนแต่ควรขึ้นตั้งนานแล้ว

และหากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลตนจะผลักดันให้ค่าตอบแทนมากกว่านี้ และจะให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นนายทะเบียนอำเภอ แจ้งเกิดแจ้งเจ็บจนตายก็ทำในพื้นที่ไม่ต้องเดินทางมาอำเภอ



ดังนั้นการเลือกตั้ง 14 พ.ค.ครั้งนี้ขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ทั้งจังหวัด