สังคม
เชียงใหม่วิกฤติหนัก! ค่ามลพิษอากาศฝุ่นควันพุ่งติดอันดับ 3 ของโลก
โดย kanyapak_w
23 มี.ค. 2566
205 views
สถานการณ์หมอกควัน และมลพิษทางอากาศของภาคเหนือ และเชียงใหม่เข้าสู่วิกฤติอีกครั้ง เช้านี้เชียงใหม่พุ่งขึ้นมาอยูอันดับที่ 3 ของโลกหัวเมืองที่มีมลพิษทางอากาศ ส่วนที่ ดอยหลวงเชียงดาว ถูกไฟไหม้ลุกลามต่อเนื่อง ต้องส่งเฮลิคอปเตอร์โปรยน้ำดับไฟเป็นวันที่ 2 ขณะเดียวกันจุดความร้อนทั้งในประเทศ และพม่า-ลาว ล้อมภาคเหนือพุ่งสูงขึ้นอีกจนแผนที่แทบจะกลายเป็นสีแดง สัญญาณเตือนภัยให้เตรียมรับมือสถานการณ์หนัก
เช้าวันนี้ เว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองใหญ่ที่มีมลพิษทั่วโลก รายงานว่าจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 8.00 น. ติดอันดับ 3 เมืองที่มลพิษสูงของโลกอีกครั้ง สอดคล้องกับสภาพอากาศซึ่งท้องฟ้าเหนือตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นควัน ที่เริ่มกลับมาหนาแน่น ด้านการรายงานคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษพบว่า ฝุ่นควันในจังหวัดเชียงใหม่กลับมาเกินมาตรฐานทั้ง 6 จุดที่มีสถานีตรวจวัด อยู่ในระดับสีส้มและสีแดง วัดค่า PM2.5 ได้ระหว่าง 76 – 169 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
เช้านี้เมื่อเวลา 8.00 น. ที่ศูนย์ราชการตำบลช้างเผือกวัดได้ 77 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 167 AQI ที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดค่า PM 2.5 ได้ 76 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 164 AQI ที่ ดอยสุเทพ ยังไม่อัพเดทข้อมูล ที่ ต.หางดง อ.ฮอด 95 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 205 AQI ขณะที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ตอนบนของจังหวัดเชียงใหม่ สูงสุดของเชียงใหม่อยู่ในเกณฑ์สีแดง ซึ่งเกิดไฟป่ามากสุดของเชียงใหม่ และเกิดปัญหาไฟป่าที่ดอยหลวงเชียงดาวในขณะนี้ ค่า PM2.5 วัดได้ 176 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 286 AQI
แม้เช้าวันนี้จะมีจุดความร้อนเกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่เพียง 37 จุด กระจายอยู่ใน 9 อำเภอ แต่จุดความร้อนที่เกินขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก ทำให้มีฝุ่นควันจากการเผาไหม้ ถูกพัดพาเข้ามาสะสมในจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นพื้นที่แอ่งกระทะเพิ่ม ขณะเดียวกันที่บริเวณดอยหลวงเชียงดาว ในตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เกิดไฟไหม้ป่าลุกลามในป่าเบญจพรรณ ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ จึงมีการ ระดมกำลังกว่า 80 นายช่วยดับไฟอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติงานควบคุมไฟป่า แต่ไฟไหมลุกลามไปอย่างรวดเร็ว จังหวัดเชียงใหม่ส่งเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บินโปรยน้ำดับไฟในพื้นที่ไป 12 เที่ยวบินจนสถานการณ์คลี่คลาย แต่ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมาเกิดไฟไหม้ขึ้นในพื้นที่สูงชันของดอยหลวงเชียงดาวขึ้นอีก เช้าวันนี้จึงได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ KA ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธาณภัย เปิดปฏิบัติการบินโปรยน้ำเพื่อบรรเทาความรุนแรงของเชื้อไฟตั้งแต่เช้า
ขณะเดียวกันแผนที่ภาพถ่ายจุดความ้อนหรือจุดความร้อน ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบว่าจุดความร้อนในพื้นที่ภาคเหนือเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากอากาศที่ร้อน และแห้งแล้วยิ่งทำให้ไฟป่าลุดลามเร็ว ขณะเดียวกันในประเทศเพื่อบ้านทั้งประเทศพม่า และลาวที่มีชายแดนล้อมภาคเหนือของไทยอยู่จุดความร้อนเพิ่มสูงขึ้นจนแผนที่แทบจะกลายเป็นสีแดงเต็มพื้นที่ไปหมด ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าวิกฤติหมอกควันจะกลับมา และอาจจะหนักหน่วงกว่าเดิมประชาชนในพื้นที่รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะยกระดับมาตรการในการป้องกัน และรับมือสถานการณ์หมอกควัน ซึ่งตรงกับสถิติเรื่องของการเกิดหมอกควันภาคเหนือจะวิกฤติหนักที่สุดในช่วงตั้งแต่เดือนมีนาคมและเดือนเมษายน และจะเริ่มคลี่คลายลงในช่วงปลายเดือนเมษาบน และพฤษภาคม
แท็กที่เกี่ยวข้อง ฝุ่น ,ฝุ่นpm2.5 ,เชียงใหม่