สังคม

พบกระดูกมนุษย์โบราณโผล่ขอนแก่น เจ้าของที่รอกรมศิลป์ขึ้นป้ายห้ามขอโชค

โดย taweelap_b

19 มี.ค. 2566

5.4K views

กรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ ฮักแวงน้อย โพสต์ภาพโครงกระดูกมนุษย์ พร้อมข้อความระบุว่า "ได้ข่าวว่าที่แวงน้อย ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณกลางทุ่งนา ตอนนี้แจ้งกรมศิลป์ขอนแก่น เข้ามาตรวจสอบแล้ว"


ล่าสุดวันที่ 19 มี.ค. 66 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังที่นาของ น.ส.ณัฐฐกาณฑ์ คำชมภู อายุ 52 ปี ตั้งอยู่ทิศใต้ของหมู่บ้าน พาผู้สื่อข่าวดูจุดที่พบโครงกระดูกดังกล่าว ก่อนที่เจ้าของที่จะพาไปดูนั้นได้จุดธูป 9 ดอก เพื่อขอขมา และพาผู้สื่อข่าวเดินดูบริเวณที่ขุดพบกับบริเวณที่คาดว่าจะมีโครงกระดูก ทั้งนี้ พบว่ามีอีก 2 จุดที่คิดว่าจะมีโครงกระดูก และยังพบเศษเครื่องปั้นดินเผาที่คาดว่าจะเป็นหม้อดิน ไหดิน อยู่ในบริเวณดังกล่าวอีกจำนวนมาก


น.ส.ณัฐฐกาณฑ์ กล่าวว่า จากคำพูดของร่างทรงบอกว่า จุดนี้เป็นเหมือนบ้านคน มีทั้งห้องครัว ซึ่งมีข้าวของเครื่องใช้หลายชนิด ในลักษณะที่แตกเป็นชิ้นน้อยชิ้นใหญ่ แต่ก็ต้องรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่กรมศิปล์ก่อน จึงจะยืนยันได้ชัดเจน บริเวณนี้เรียกว่าโนนสาวเอ้ ซึ่งเรียกกันมาตั้งแต่โบราณ เป็นโนนบ้านเก่า ตนซื้อที่นาผืนนี้มาตั้งแต่ 7-8 ปีที่ผ่านมา จำนวน 12 ไร่ 2 งาน ที่ผ่านมาก็ไม่มีเหตุการณ์อะไร แต่มีความรู้สึกว่าเป็นที่ที่แรง ลักษณะเหมือนมีความรู้สึกอะไรบางอย่าง


กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความสึกแปลก ๆ อีกครั้ง ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนตัว จึงไปหาร่างทรงพระแม่อุมา และท้าวเวสสุวรรณที่ตนให้ความศรัทธา และถ่ายโฉนดที่ดินที่นาผืนนี้ให้กับร่างทรงดู ร่างทรงได้เข้าทรงและบอกว่า มีโครงกระดูกมนุษย์อยู่ในดิน เป็นแม่ย่าผมหอม กับพ่อปู่คำแสน ขณะนี้อยากจะขึ้นมา เพราะท่านรอคอยลูกมานานแล้ว เห็นลูกหลานแล้วอยากให้นำเอาขึ้น อีกทั้ง ตนก็ตั้งใจจะเคลียร์พื้นที่เพาะปลูกด้วย จึงได้นิมนต์พระสงฆ์ที่วัดในหมู่บ้าน มาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับแม่ย่าผมหอม และพ่อปู่คำแสน ตามความเชื่อและตามคำของร่างทรง ถวายสังฆทาน ทำบุญอุทศส่วนกุศลให้แม่ย่าผมหอม พ่อปู่คำแสน ก่อนจะจ้างรถแบ็กโฮมาขุด


ในวันแรกเหตุการณ์ผ่านไปไม่มีอะไร ต่อมาวันที่ 2 ของการขุดเตรียมดิน (10 มี.ค. 66) เวลาประมาณ 10.00 น. ห่างจากจุดที่พบโครงกระดูกไปประมาณ 2 วา ขณะที่รถแบ็กโฮทำงาน มีนกกาบินมาจับที่มือแบ็กโฮสักพัก ก่อนจะบินวนไปวนมาระหว่างต้นไม้ 3 ต้นที่อยู่กลางทุ่งนา พร้อมกับลงมาจิกมือแบ็กโฮ และส่งเสียงร้องแข่งกับเสียงรถ ตนเห็นผิดสังเกตจึงโทรศัพท์ไปหาร่างทรง เขาบอกว่าให้แบ็กโฮทำงานเบา ๆ ใกล้จะขุดเจอโครงกระดูกแล้ว เพราะบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าจะเจอโครงกระดูกบริเวณนี้ ตนจึงเดินไปบอกให้คนขับเบา ๆ


"พอแบ็กโฮเคลื่อนที่ออกจากจุดนี้ นกกาที่บินอยู่บนท้องฟ้าหายไปหมด สิ่งนี้เป็นคำพูดของร่างทรง บอกว่าแม่ย่าผมหอม และพ่อปู่คำแสน ไปสื่อกับร่างทรงว่าถึงเวลาแล้วอยากขึ้นมา ให้พาคนมาหาร่างพาขึ้นมาให้หน่อย มีชาวบ้านหลายคนมาหาช่วยกัน ก่อนจะใช้ช้อนและมือขุดจนพบโครงกระดูกลักษณะกระดูกขาวสวยงาม แต่หลังจากชาวบ้านทราบก็มาจับเยอะ อีกทั้งโดนอากาศ จากกระดูกขาวก็เริ่มหม่นตามระยะเวลา นอกจากจุดที่ร่างทรงบอกว่ามีโครงกระดูกของพ่อปู่แม่ย่าแล้ว ยังได้ขุดบริเวณใกล้ ๆ บนที่นาผืนเดียวกัน พบข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ อยู่ใต้ดินจำนวนมาก ร่างทรงเป็นคนพาชี้ตำแหน่งและบอกว่า ทั้ง 2 ร่างนั้นทับกันอยู่เป็นร่างของแม่ย่าผมหอม และพ่อปู่คำแสน และยังชี้ให้ดูอีกว่าถัดไปติดกันมีอีกร่าง จึงล้อมมาร์กจุดเอาไว้ทั้งหมดเพื่อรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมศิลป์เข้ามาตรวจสอบยืนยันตามขั้นตอน" เจ้าของพี่ดิน กล่าว


หลังจากที่พบโครงกระดูกก็มีคนไม่หวังดี นิมนต์พระสงฆ์บุกรุกเข้ามาทำพิธีหาเลขไปเสี่ยงดวง และถูกหวยกันไปได้เงินกันเป็นหลักล้านบาท ในจุดนี้เองในฐานะที่เป็นเจ้าของที่รู้สึกน้อยใจ และโกรธบุกคลเหล่านั้นที่มาทำพิธีต่าง ๆ โดยไม่ได้บอกกล่าวเจ้าของที่นา ซึ่งเป็นการบุกรุกที่คนอื่นในยามวิกาลด้วย แล้วยังมาทำพิธีหาเลขไปเสี่ยงดวงจนถูกรางวัล แต่คนที่นี่ ชาวบ้านที่นี่ และเป็นเจ้าของกลับไม่ได้รับโชคนั้น จึงได้นำป้ายมาติดเอาไว้ไม่ให้ใครมาถ่ายภาพ หรือบุกรุกทำพิธีอะไรอีก จนกว่ากรมศิลป์จะตรวจสอบก่อน และตก็ไม่ได้หวงหรือกีดกันไม่ให้เข้ามา แต่เพียงต้องการให้เจ้าหน้าที่กรมศิลป์ได้ตรวจสอบยืนยันก่อนว่าเป็นโครงกระดูกโบราณจริงหรือไม่ และที่ขุดพบนั้นคืออะไรบ้าง ขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่จากกรมศิลป์เข้ามาตรวจสอบ แต่มีตำรวจและหน่วยงานอื่น ๆ เข้ามาตรวจสอบแล้ว


อย่างไรก็ตาม ตำรวจบอกว่าไม่น่าจะใช่ศพที่ตายในเร็ว ๆ นี้ และไม่มีเกี่ยวกับการแจ้งคนหายในห้วงระยะเวลานี้ แต่ลักษณะเหมือนกับเสียชีวิตมานานแล้ว และหลังจากที่ขุดพบก็รู้สึกดีใจเชื่อว่าท่านมาให้โชคให้ลาภ จึงอยากให้กรมศิลป์มาตรวจเพื่อจะได้นำโครงกระดูกทุกชิ้นขึ้นมาทำบุญ อุทิศส่วนกุศล ให้ดวงวิญญาณไปสุคติคติภพภูมิที่ดี


ขณะที่นายสมบูรณ์ นาอุดม อายุ 73 ปี ชาวอ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านนี้ตั้งแต่อายุ 28 ปี และทำนาอยู่ที่นี่มาตลอดทั้งชีวิต ขณะที่นอนอยู่เถียงนาก็เห็นเหตุการณ์แปลก ๆ หลายครั้ง ฝันแปลก ๆ หลายครั้ง แต่สิ่งที่เห็นบ่อยคือแสงบางอย่างพุ่งลงตรงที่นาผืนนี้ เป็นแสงสีเขียว ๆ ขาว ๆไม่ได้เกิดขึ้นแค่วันเดียว แต่เกิดขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ แต่ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่าอาจจะเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติทั่วไป และยังมีความฝันแปลก ๆ อยู่ตลอดที่สอดคล้องกับเรื่องเล่าของคนในหมู่บ้านว่าตรงนี้คือ โนนสาวเอ้ เป็นภาษาอีสาน แปลว่า พื้นที่สำหรับผู้หญิงที่แต่งตัวสวยเตรียมไปอวดชาวบ้าน โดยฝันว่าโนนสาวเอ้ ถึงมีแต่ผู้หญิง ไม่มีผู้ชาย


นอกจากนี้ ยังฝันว่ามีเด็ก ๆ มาเล่นน้ำแล้วบอกให้ซื้อหวย 11 ซึ่งขณะนั้นตาก็ซื้อเป็นเงิน 5 บาท ก็ถูกหวย และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้คิดว่าจะมาพบโครงกระดูกดังกล่าว และตาก็อยู่เฝ้าแถวนี้มาหลายปีแล้ว ก็ไม่ได้ฝันเกี่ยวกับกระดูกมาก่อน จะฝันเห็นแต่ผู้หญิง ตามคำเล่าบอกต่อกันมาตั้งแต่โบราณว่า ประวัติโนนสาวเอ้ ในสมัยก่อน จะมีผู้หญิงทั้งในหมู่บ้านและนอกหมู่บ้าน แต่งตัวสวยเตรียมไปร่วมงานบุญต่าง ๆ โดยจะมาแต่งตัวอยู่แถวนี้ทุกวันก่อนจะเดินทางไปร่วมงานต่าง ๆ ที่ตั้งใจไว้ และใกล้กันก็จะมีอีกหลายโนน แต่ละโนนก็จะเป็นพื้นที่หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรอย่างที่เห็นตามสองข้างทาง และพื้นที่บริเวณนี้ชาวบ้านเชื่อกันมาว่าเป็นพื้นที่เมืองโบราณ มีความเจริญรุ่งเรืองตั้งเป็นหมู่บ้านก่อนที่กาลเวลาจะผ่านไปกลายเป็นโนนสาวเอ้ในปัจจุบัน

คุณอาจสนใจ

Related News