โซเชียลเดือดประตูโรงงานมหาชนทับดับ รปภ.

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 มีนาคม นายรณรงค์ ท้วมเจริญ ผู้ประสานงานศูนย์เรียนรู้เฝ้าระวังและปกป้องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพระยอง ได้เผยภาพจากกล้องวงจรปิดที่ถูกโพสต์ลงในโซเชียล โดยผู้ใช้ เฟซบุ๊ก หนุ่ยกู้ภัย สว่างพรเมืองระยอง ที่ระบุข้อความประตูเหล็ก โรงงาน ล้มทับ ร.ป.ภ.สาหัส 1 บาดเจ็บ 1 รายสาหัสเสียชีวิตในเวลาต่อมา # ขอแสดงความเสียใจต่อเพื่อนร่วมอาชีพด้วยครับ # ฝากถึงผู้ประกอบการและท่านที่มีประตูเหล็กบานใหญ่ๆมันตรวจตาดูความมั่นคงของอุปกรณ์ประตูของท่านด้วยวันเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีก



นายรณรงค์ เล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านต่างหวาดกลัวในวันนี้จึงเดินทางมาถามข้อเท็จกับโรงงานดังกล่าว แต่เมื่อมาถึงทางเจ้าหน้าที่โรงงานผู้รับผิดชอบ ไม่อยู่จึงต้องทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้เพื่อรอคำตอบในข้อเท็จจริง



กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่โรงงานผู้รับผิดชอบได้ติดต่อกลับมาพร้อมให้รายละเอียดถึงเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเวลาประมาณ 09.00 น. เศษของวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งจะเห็นภาพ รปภ.2 คน ใส่ชุดสีน้ำตาลถูกประตูเหล็กล้มทับ ในขณะกำลังปฏิบัติงานที่ประตู 5 ด้านหลังของโรงงานทางฝั่งมุ่งหน้าทะเลหาดหนองแฟบ เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด จ.ระยอง



จากภาพจะเห็นประตูเลื่อนซึ่งเป็นประตูเหล็กขนาดใหญ่ สูง 2.5 ม. ยาว 5 ม.ได้ล้มลงมาทับร่างของพนักงาน รปภ.ทั้งสองราย จนเป็นเหตุให้พนักงานเสียชีวิต 1 ราย จากการถูกประตูเหล็กทับที่หน้าอก ขณะที่อีกรายขาหักและไหล่หลุด จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทันที โดยในขณะนี้ทางโรงงานได้เข้ามารับผิดชอบทางครอบครัวของ 2 รปภ.แล้ว



นายรณรงค์ เล่าอีกว่า โรงงานมหาชนขนาดนี้เหตุการณ์เช่นนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะก่อนที่จะก่อสร้างโรงงานมีขั้นตอนที่จะต้องทำ EHIA ส่งมอบสวยหรู ทำโครงการส่งการส่ง สพ.แต่แค่ประตูรั้วนั้นเป็นอุบัติเหตุขั้นพื้นฐาน ทำไมถึงเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขนาดนี้และหากเกิดเหตุร้ายแรงกว่านี้ความเป็นอยู่ของประชาชนจะเป็นอย่างไร ส่วนที่มาในวันนี้เพราะสงสัยว่าทำไมโรงงานไม่ออกมาขี้แจงในเหตุที่เกิดขึ้น



ด้าน นางอารี  อายุ 52 ปี แม่ของ นายจักรกฤษณ์ อายุ 29 ปี หนุ่ม รปภ. ที่เสียชีวิตจากเหตุประตูล้มทับ ได้เปิดเผยถึงความเสียใจที่ต้องสูญเสียลูกชายไปอย่างไม่คาดคิด ซึ่งตนเองอยากฝากถึงโรงงานควรมีความปลอดภัยมากกว่านี้ถึงแม้โรงงานจะเข้ามาดูแลรับผิดชอบทุกอย่างแต่ก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์ จะได้ไม่ไปเกิดกับคนอื่นอีก



อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทได้ติดต่อโทรศัพท์กลับมายังผู้สื่อข่าว พร้อมระบุว่าในขณะนี้สาเหตุที่แท้จริงกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บทางบริษัทได้เข้าไปเยียวยาและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายแล้วทั้งหมด หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป