สังคม

'นอท' ปัดขายสลากเกินราคา ยันลูกค้ายินยอมจ่าย แนะวิธีรับมือ ถ้า ตร.บุกบ้านให้เป็นพยาน

โดย nattachat_c

3 ก.พ. 2566

429 views

‘นอท กองสลากพลัส’ ปฏิเสธข้อหาขายสลากเกินราคา ทั้ง 8 คดี ยันขาย 80 บาท ส่วนคิดค่าบริการลูกค้ากดยิมยอมจ่าย-สนับสนุนด้วยตนเอง ลั่นผมไม่เคยทำอะไรผิด เผยบุคคลคล้ายตำรวจคุกคามลูกค้ากว่า 50 ราย ให้มาเป็นพยาน โอดโดนอายัดทรัพย์สิน ไร้เงินต้องขายเสื้อ-ทำรีวิวท่องเที่ยว ขณะที่ ตำรวจ ปคบ.ให้ส่งคำให้การภายในวันที่ 10 ก.พ.ก่อนส่งฟ้องศาลแขวง


สืบเนื่องจาก 'สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล' ได้มอบนิติกร มาร้องทุกข์กล่าวโทษ 'กองสลากพลัส' และนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ 'นอท กองสลากพลัส' ในข้อหาร่วมกันร่วมกันเสนอจำหน่าย  และจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ยังไม่ได้ออกรางวัลเกินราคาที่กฎหมายกำหนด โดยมี กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เป็นผู้ที่รับเรื่องร้องทุกข์


โดย วานนี้ (2 ก.พ. 66) 'นอท กองสลากพลัส' เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน ด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมพูดว่า “ยังไม่มีอะไรครับ” 


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาอะไรบ้าง นายพันธ์ธวัช ตอบว่า “ยังไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย” แต่ยืนยันว่าไม่เคยได้รับหมายเรียกครั้งที่ 2 และปฏิเสธข้อกล่าวหาอยู่แล้ว เพราะไม่เคยทำอะไรผิด ก่อนจะเดินเข้าห้องไปพบพนักงานสอบสวน


ภายหลังรับทราบข้อกล่าวหานานกว่า 2 ชั่วโมง นายพันธ์ธวัช เปิดเผยว่า ตนเองปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในข้อหาจำหน่ายสลากเกินราคา โดยยืนยันว่าไม่ได้จำหน่ายเกินราคา ซึ่งตนเองขายในราคา 80 บาท และมีค่าบริการ ลูกค้าที่เข้ามาซื้อในแพลตฟอร์มก็กดยินยอม และยินดีที่สนับสนุนและจ่ายค่าบริการ ซึ่งคนร้องทุกข์คดีนี้คือ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล


จึงอยากถามกลับไปว่า ถ้าคนซื้อเขาไม่เต็มใจซื้อจะยินยอมในช่องให้ความยินยอมทำไม และที่ต้องคิดค่าบริการ เพราะตนเองต้องไปขวนขวายหาสลากมา และดำเนินการให้ทุกอย่าง


ลูกค้าที่ซื้อก็โอนเงินเองกับมือ ก่อนที่จะจ่ายเงินก็กดในช่องยินยอมเอง หรือที่กดยินยอมเพราะไม่มีสติ ซึ่งมองว่าคดีจำหน่ายสลากเกินราคา เสียเวลาทำมาหากินของตนเอง


นายพันธ์ธวัช บอกด้วยว่า ไม่อยากให้โฟกัสที่ตนเองโดนข้อหาจำหน่ายสลากเกินราคา แต่อยากให้โฟกัสไปที่กรณีที่ลูกค้าของตนเองถูกคุกคาม หลังจากที่ตนเองได้รับข้อมูล และโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งบุคคลที่มาคุกคามอ้างว่าเป็นตำรวจแต่งกายนอกเครื่องแบบ เดินทางไปถึงหน้าบ้านของลูกค้า และบังคับให้ลูกค้าของตนเองมาเป็นพยานเอาผิดตนเอง ฐานจำหน่ายสลากเกินราคา โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ


ซึ่งพฤติกรรมที่เกิดขึ้น เหมือนไม่ใช่ตำรวจ บางรายก็ไปตอน 2-3 ทุ่ม  ทำให้ลูกค้าของตนเองเกิดความกังวล และมีที่โดนคุกคามไปถึงหน้าบ้านแล้วทั่วประเทศ มากกว่า 50 ราย


ส่วนจะมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ แต่เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะบางรายก็ไปหาที่หน้าบ้านช่วงเวลากลางคืน แต่ลูกค้าบางรายก็ต่อว่ากลับไป และยืนยันว่าเขาเต็มใจซื้อเอง


และการที่ลูกค้าคือผู้ซื้อยินยอมเอง และถ้าไปเป็นพยานก็อาจจะโดนตนเองฟ้องกลับได้ด้วย แต่นี่ตนเองไม่ได้คิดอะไร ส่วนลูกค้าจะฟ้องกลับเจ้าหน้าที่หรือไม่ ที่ไปหาถึงหน้าบ้านนั้น ก็ถือเป็นสิทธิของลูกค้าเราไม่สามารถไปบังคับได้


อยากฝากบอกลูกค้าว่า ลูกค้าสามารถปฏิเสธการไปเป็นพยานได้ เพราะเสียเวลาที่จะต้องไปสถานีตำรวจและไปศาล ที่จะต้องไปเจอตนเอง และลูกค้าก็ยินยอมที่จะซื้อด้วย และมองว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ คือตนเองจะต้องเสียเวลาเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาทั่วประเทศ ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ กับการขายสลากในแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ นายพันธ์ธวัช ตอบว่า “คงไม่ได้เลือกหรอก แต่จับของผมที่เดียว”


สำหรับกรณีที่มีคนเฝ้ารอให้กองสลากพลัสกลับมาดำเนินกิจการอีกนั้น นายพันธ์ธวัช ระบุว่า ต้องดูตามข้อกฎหมายหากมีลูกค้าสนับสนุน ก็ต้องหาทางทำมาหากินกันต่อไป แต่ตอนนี้ตนไม่มีเงินเลย จะต้องหาเงินมาใช้ก่อน เริ่มจากการขายเสื้อกองสลากพลัส ราคา 299 บาท เพื่อนำมาเป็นทุนในการเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา และตนจะทำรีวิวท่องเที่ยวด้วย เป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส


กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ก็ได้อายัดทรัพย์สินอื่นๆ นอกจากบัญชีธนาคารนั้น ขณะนี้ดีเอสไอก็ได้อายัดไว้หมดแล้ว เช่น บ้าน คอนโด


นอกจากนี้ ก่อนเดินทางกลับ นายพันธ์ธวัช ยังได้พูดกับสื่อมวลชนว่า ยังไหวๆ และบอกอีกว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. บอกกับตนว่า ปคบ. เพียงแค่ทำตามหน้าที่ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับตน

-------------

พลตำรวจตรี อนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมการสอบปากคำนายพันธ์ธวัช ว่าวันนี้นายพันธ์ธวัชได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐานจำหน่ายสลากเกินราคา ทั้งหมด 8 คดี และเป็นการเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครั้งที่ 2


พร้อมยืนยัน ที่ผ่านมามีการดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มลอตเตอรี่ออนไลน์หลายแพลตฟอร์มที่กระทำผิดกฎหมาย ฐานจำหน่ายสลากเกินราคาไปแล้วกว่า 10 แพลตฟอร์ม ไม่ใช่การเลือกปฏิบัติแต่เพียงกองสลากพลัสเท่านั้น และมีเจ้าหน้าที่ติดตามการกระทำผิดออนไลน์อยู่แล้ว เมื่อพบการกระทำผิดก็ดำเนินการไปตามขั้นตอนกฎหมาย ครั้งนี้ก็ดำเนินการตามที่มีผู้มาร้องทุกข์แจ้งความกับ ปคบ. ตามขั้นตอน

-------------

ด้าน พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด ยอมรับว่า ได้สั่งการให้ตำรวจ ติดต่อประสานงานไปยังประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 4,281 ราย ซึ่งเป็นผู้ซื้อสลากเกินราคาจากแพลตฟอร์มกองสลากพลัส เพื่อขอให้มาพบตำรวจถึงข้อมูลเกี่ยวกับความจริงที่เกิดขึ้น


ทั้งนี้ ไม่ใช่การบังคับขู่เข็ญ ซึ่งหากประชาชนรายใด มีความประสงค์จะไปร้องทุกข์กล่าวเอง ก็สามารถทำได้ โดยผู้ที่ออกมาเป็นพยานในกรณีขายสลากแพงเกินกว่ากำหนด จะได้รับเงินนำจับจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 1,000 บาท


ส่วนที่ปรากฏข่าวว่า มีการข่มขู่บังคับให้ชาวบ้านไปแจ้งความดำเนินคดีกับกองสลากพลัส ยืนยันว่า ไม่ได้สั่งการแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมา ตำรวจมีพยานหลักฐานเรื่องการจำหน่ายสลากเกินราคาอยู่แล้ว


ส่วนการที่ตำรวจบางนายไปกระทำการดังกล่าวอย่างไม่เหมาะสม ก็ได้กำชับไปยังผู้บังคับบัญชาในพื้นที่นั้นๆ แล้ว หากพบก็ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด


ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า วันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการประชุมสรุปการปฏิบัติงานว่า มีประชาชนแจ้งความเกี่ยวกับการจำหน่ายสลากเกินราคามากน้อยเพียงใด พร้อมยืนยัน คนซื้อสลาก ไม่มีความผิด แต่คนจำหน่ายเกินราคา มีความผิดอยู่แล้ว
-------------

เฟซบุ๊ก นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ได้โพสต์รูปหนังสือ บันทึกข้อความ ที่มีรายละเอียดสำคัญดังนี้


คำสั่งให้ตำรวจทั่วประเทศ (นครบาล และภาค 1-9) ดำเนินคดีกับกองสลากพลัสและผม โดยให้ตำรวจทั่วประเทศ เรียกลูกค้าเพื่อมาเป็นพยานในคดีดังกล่าว 


โดย เรื่องนี้เป็นนโยบายเร่งด่วน และถ้าออกหมายเรียกครั้งที่ 2 แล้วยังไม่ไป จะออกหมายจับ

-------------
เพจกองสลากพลัสได้แชร์โพสต์ ตำรวจขอให้ไปเป็นพยาน เคส จ.เชียงใหม่ โดยข้อความระบุว่า

“ตอนนี้มีแบบนี้ทั่วประเทศ ลูกค้าส่วนใหญ่จะปฎิเสธ ผมว่าเคสนี้ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ


1. ไม่ทำตัวเป็นกลางชี้นำให้อีกฝ่ายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ เรื่องที่ไม่มีมูล

2. ลูกค้าบางรายแจ้งเราว่ามีการพูดถึงรางวัลนำจับ 1,000 บาทซึ่งส่วนนี้ ตำรวจจะได้ส่วนแบ่งด้วยไม่่เกิน 2,000 บาท มีจะเป็นการรับผลประโยชน์นะครับ


ลูกค้าท่านใดที่เจอกรณีแบบนี้สามารถปฎิเสธได้เลยนะครับ ท่านไม่มีความผิด


ยังไงผมก็ต้องต้อสู้คดี เพราะผมไม่ได้จำหน่ายเกินราคา และลูกค้าทุกท่านก็เต็มใจที่จะชำระค่าบริการ ลูกค้าคงไม่เสียเวลาไปศาล


เรื่องนี้ผมห่วงว่าคนที่เดือนร้อนจะเป็นตำรวจ ถ้าผู้เสียหายรวมตัวกันร้อง 157 นะครับ”

------------

นอท กองสลากพลัส ได้ออกมาโพสต์ ถึงแนวทางปฏิบัติกรณีมีตำรวจมาขอให้เป็นพยานคดีจำหน่ายสลากเกินราคาของกองสลากพลัส โดยระบุแนวทางปฏิบัติ ดังนี้


1. ให้ตรวจสอบว่าเป็นตำรวจหรือมิจฉาชีพ เช่น แต่งเครื่องแบบหรือไม่ ขอดูบัตรประจำตัวได้ ถ้าไม่มั่นใจก็ปฏิเสธการคุยทันที

2. ให้ตรวจสอบความถูกต้องของหมายเรียก ถ้าไม่มีหมายเรียกให้ปฏิเสธการพูดคุย อาจเป็นมิฉาชีพ

3. ถ้ามีหมายเรียกให้ตรวจสอบความถูกต้องของหมายเรียกว่า ใช่ชื่อทานหรือไม่ ชื่อถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ชื่อตัวเองให้ปฏิเสธในการรับหมาย

4. ถ้ามีหมายถูกต้องและเป็นตำรวจจริง แต่ถ้าในวันนัดติดงานก็สามารถขอเลื่อนได้ เอาวันที่เราสะดวก

5. กรณีที่ตำรวจปฏิบัติถูกต้อง ท่านจำเป็นต้องไป แต่ท่านสามารถที่จะเลือกตอบคำถามได้ สามารถปฎิเสธไม่ให้ปากคำได้เลย

อ่อ พยานสามารถสอบถามหาค่าพาหนะในการเดินทางได้ด้วยนะครับ


"ข้อ 8 ค่าตอบแทนตามข้อ 6 และข้อ " ให้จ่ายในอัตรา ดังต่อไปนี้

(1) พยานผู้ที่มีที่พักอาศัยอยู่ในเขตจังหวัดที่มาให้ข้อเท็จจริงยังที่ทำการพนักงานผู้มีอำนาจ สืบสวนคดีอาญา พนักงานผู้มีอำนาจสอบสวนคดีอาญา พนักงานผู้มีอำนาจฟ้องคดีอาญา หรือศาล ได้รับค่าตอบแทนครั้งละสามร้อยบาท
------------

ทั้งนี้ นอท กองสลากพลัส ได้โพสต์เฟซบุ๊กรัวๆ ไม่ว่าจะเป็น 


พังงา

ฝากตำรวจใส่ชุดมาด้วยนะครับ ลูกค้าส่งมาครับ ไปหาลูกค้าหน้าบ้าน ถ้าเจอแบบนี้เดินหนีได้เลยครับ ปล.หมายเรียกแรกมาแล้ว สภ.ทับปุด พังงา ผมน่าจะได้ทำ vlog เที่ยวทั่วประเทศละ


ชลบุรี

วงจรปิดบักทึกภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ช่วงเกือบ 4 โมง มีตำรวจ 3 นาย นอกเครื่องแบบ ขับรถกระบะมาจอดหน้าบ้านแล้วเรียกชื่อชายในคลิป ก่อนจะเปิดโทรศัพท์มือถือดูว่า มีรายชื่อ เกี่ยวกับการซื้อขายสลากในกองสลากพลัส จึงจะขอความร่วมมือไปให้ปากคำที่โรงพัก


ทีมข่าวได้วีดีโอคอล พูดคุยกับชายรายหนึ่ง ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ของจังหวัดชลบุรี (ขอไม่เปิดเผย สภ.) เดินทางมาหาถึงหน้าบ้านพัก เพื่อเชิญไปให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน บอกว่าตอนนั้นตนตกใจ และก็ไม่ได้มีหมายเรียกใดๆ ตนไม่รู้ว่าสามารถปฏิเสธได้หรือไม่ และไปเกี่ยวข้องอะไรด้วย


ก่อนที่ช่วงเย็น เลยตัดสินใจไปให้ปากคำที่โรงพัก พอไปถึงก็ถามตำรวจว่า ให้ตนมาในฐานะอะไร ตำรวจบอกว่ามาในฐานะพยาน ว่าตนได้ซื้อลอตเตอรี่งวดประจำวันที่ 16 มีนาคม 2565 ในราคา 380 บาทจำนวน 4 ใบหรือไม่ ซึงตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้วในมือ เพียงแต่ถามเพื่อยืนยัน แต่ตนจำไม่ได้ ก่อนที่จะให้หาสเตทเมนต์การโอนเงินเพื่อใช้เป็นหลักฐาน


ส่วนตัวรู้สึกว่าตนเองยินยอม และเต็มใจในการซื้อราคานี้ และทุกคนก็ซื้อกัน ตนสงสัยว่าข้างนอก ก็มีขบยเกินราคาอยู่แล้ว ถ้าพูดตามหลักความเป็นจริง แล้วทำไมคนที่โดนแทงชื่อมา ต้องเป็นตนเองด้วย


ทั้งนี้ ยอมรับว่าตกใจ ที่ตำรวจมาที่หน้าบ้าน เพราะตนไม่ได้กระทำความผิดอะไร และไม่ได้มีหมายอะไรมา แม้ตำรวจจะพูดและขอความร่วมมืออย่างดีก็ตาม ไม่ได้มีการข่มขู่ แต่ในเวลานั้นตนก็ไม่ทราบว่า สามารถปฏิเสธการไปให้ข้อมูลได้หรือไม่ ซึ่งเพิ่งมาทราบภายหลังว่าปฏิเสธได้


ขณะเดียวกัน จากการสอบถามผู้ที่ถูกเชิญไปให้ข้อมูล จะคล้ายกันคือมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบที่หน้าบ้าน และเชิญไปให้ข้อมูลที่โรงพัก โดยส่วนใหญ่จะเป็นการสอบถามเกี่ยวกับการซื้อสลากกับทางกองสลากพลัส ในงวดต่างๆ และขอหลักฐานการโอนเงินซื้อสลากในงวดนั้นๆ

-------------

คุณอาจสนใจ

Related News