สังคม

แม่ร้อง ลูกวัย 16 โดน ม.ต้นรุมกระทืบในรร. เข้าแจ้งความถูกตำรวจไล่กลับบ้าน

โดย paranee_s

2 ก.พ. 2566

431 views

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า "เด็ก ม.2-3 ราว 20 คน โดนทำร้ายที่โรงเรียนย่านบางบัวทอง ซึ่งย้ายไปเรียนได้ 2 เดือน ตอนเกิดเหตุมีเพื่อนของน้องไอซ์ 3 คน วิ่งเข้าไปช่วย แต่ช่วยยังไงก็ช่วยไม่ได้ เพราะคนพวกนั้น เขาเล็งแต่แค่น้องไอซ์คนเดียว เลยไม่สามารถช่วยได้ นานกว่า 5 นาที ถึงจะมีครูมาช่วย ในตอนนั้นเลือดของน้องไอซ์ออกเยอะมากๆ ทั้งที่ปาก และหลังหัว แต่ครูของโรงเรียนนั้น ไม่ถ่ายรูปหรือให้ถ่ายวิดีโอเอาไว้เลย ว่าสภาพเป็นยังไงบ้าง เพื่อจะนำไปดำเนินคดีต่อ ครูให้ล้างเลือดเช็ดทุกอย่างออกหมดเลย และเรียกแค่เข้าไปนั่งคุยเฉย ๆ และให้ผู้ปกครองมาคุยกัน


หลังจากคุยกันวันที่ 30 มกราคม 66 ทางบ้านของน้องไอซ์ ก็ได้พาน้องไอซ์ไปโรงพยาบาล ให้เอกซเรย์ต่าง ๆ เพราะน้องไอซ์มีการกระทบกระเทือนหลายที่ และที่เสื้อของน้องมีรอยเท้า อยู่เต็มเสื้อเลยค่ะ และมีเลือดออกที่หลังหัว และโดนเข่ากระแทกเข้าหน้า และฟัน ทำให้ฟันของน้องไอซ์ถูกกระแทก ฟันล่างเกือบจะหัก 2 ซี่ และมีฟันบนแตก และเป็นแผลใหญ่บวม รอยแผลเต็มตัว มีรอยช้ำเลือด เพราะมีคนนำกุญแจรถมอเตอร์ไซค์กำไว้ที่มือ และต่อยน้อง


หลังกลับจากโรงพยาบาลก็ไปที่โรงพักเพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ซึ่งทางผู้ปกครองของน้องไอซ์ได้ไปคุยกับฝั่งผู้ก่อเหตุ พ่อแม่ของเขาไม่ยอม ฝั่งครูของโรงเรียนย่านบางบัวทองก็เหมือนจะให้ความร่วมมือ แต่ไม่มาก รวมถึงตำรวจของโรงพักบางบัวทองก็เข้าข้างฝั่งคนทำรุมทำร้ายด้วยค่ะ ตำรวจไม่ช่วย เข้าข้างผู้ก่อเหตุ ไม่รับแจ้งความ ไม่พิมพ์สำนวน หรือทำอะไรทั้งสิ้น แถมไล่กลับบ้านเลยด้วยค่ะ ฝั่งของน้องไอซ์ คือไม่มีคนช่วย และไม่สามารถทำอะไรได้เลยจริง ๆ ค่ะ น้องไอซ์ก็เจ็บแต่เรียกร้องอะไรไม่ได้เลย และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่กลับบ้าน”


ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวกับผู้บาดเจ็บ อายุ 16 ปี และนางน้ำเพชร อายุ 46 ปี ผู้เป็นแม่ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เนื่องจากทางครอบครัวรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และเจ็บใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ ต้องออกค่ารักษาพยาบาลเอง จำนวน 2,900 บาท


ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า วันเกิดเหตุเป็นช่วงกีฬาสี คู่กรณีมากัน 3 คน เดินผ่านไปมา ระหว่างนั้นตนได้เดินไปหาเพื่อน ด้วยความที่สายตาตนไม่ดีมองไม่ค่อยชัดทำให้หาเพื่อนไม่เจอเลยเดินกลับ คู่กรณีเดินมาหาตน 5 คน และถามตนว่า “มึงมีอาการหรอ เห็นมองหน้า” ตนบอกว่า “ไม่ได้มีอะไร ไม่ได้มองหน้าเอ็งเลย” คู่กรณีเลยสวนกลับมาว่า “ไม่ได้มองแม่มึงดิ” ตนเลยรู้สึกว่ามาด่าแม่ตนทำไม และท้าตนให้ไปต่อยในห้องน้ำ


ตนเป็นเด็กใหม่กลัวโดนรุมเลยไม่ยอมไป กลุ่มคู่กรณีก็เดินกลับไป ตนเลยเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกรู้จักจะพาไปคุยด้วย แต่คู่กรณีกลับไม่ยอมคุย พร้อมตะโกนด่าตน ตนเลยเลือกที่จะเดินออกไปตรงอื่น คู่กรณีก็ไปตามพวกมาเกือบ 20 คน มายืนล้อมตนและบอกว่า “มึงมีอะไรกับเพื่อนกู มึงเอากับกูเปล่า” และมีหนึ่งในกลุ่มคู่กรณีเดินมาล็อกคอตน ตนสะบัดจึงทำให้ถูกคู่กรณีรุมต่อย ตนเดินหนีแต่มีอีกกลุ่มเข้ามารุมกระทืบ เพื่อนตนมาช่วยแต่ช่วยไม่ไหว เพราะคู่กรณีมีพวกเยอะ


ตนจำได้แค่ว่าเหมือนโดนรุมอยู่คนเดียวจนตนนอนไปกองกับพื้น คู่กรณีได้เตะเข่าตนเข้าที่บริเวณปากทำให้ฟันโยกและปากแตก สักพักคุณครูจึงเข้ามาห้าม พาไปห้องพยาบาลเช็ดเลือดและพาไปห้องปกครอง


หลังจากนั้นครูฝ่ายปกครองได้ถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นและก็แยกย้ายกันกลับบ้าน บอกให้รอผู้ปกครองมาพรุ่งนี้ โดยกลุ่มคู่กรณีที่ทำร้ายตนมีทั้งม.2 และ ม.3 เกือบ 20 คน ตนได้รับบาดเจ็บที่ปาก ฟันโยก ท้ายทอยก็มีแผล ตนโดนกลุ่มคู่กรณีกระทืบทั้งตัว ตกเย็นแม่พาตนไปแจ้งความและพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล


พอไปถึงสถานีตำรวจก็ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ อีกวันมาโรงเรียนก็ได้มีการพูดคุยกับครู และครอบครัวของคู่กรณี ได้มีการสอบถามถึงค่าเสียหาย แม่ตนเลยเรียกไป 50,000 บาท ทางพ่อของคู่กรณีบอกว่างั้นให้ลูกเข้าไปอยู่ในคุกสักพักดีกว่า พูดเชิงว่าพ่อของคู่กรณีก็โตมาในคุก พวกในปากเกร็ดก็มี คุยแบบข่ม ๆ ตน


หลังจากนั้นเลยพากันไปที่โรงพัก พอคู่กรณีเจอตำรวจก็ทักทายแบบคนรู้จักกัน และบอกตำรวจว่าได้มีเรื่องยกพวกตีกัน แต่จริง ๆ คือคู่กรณียอมรับว่ารุมกระทืบตนตอนอยู่ในห้องปกครองที่โรงเรียนแล้ว ตนไปโรงพักเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายรูปบาดแผลตนและคู่กรณี แต่คู่กรณีพูดเยาะเย้ยทำนองว่า “มีแต่หมัดที่เปื้อนเลือดเท่านั้นที่ไปต่อยปากเขา”


หลังจากนั้นตนกลับไปเอากล้องวงจรปิดกับแม่ที่โรงเรียน เจอคู่กรณีกลับมาที่โรงเรียนกับพ่อเขา และพูดว่า “เดี๋ยวโดนอีกๆ” ซึ่งเขากลับมาโรงเรียนโดยไม่รอตนกับแม่เพื่อที่โรงพัก ตนได้กล้องวงจรปิดแล้วจึงกลับมาหาตำรวจเขาบอกว่าทำไมมาวันนี้ ทำไมไม่มาวันอื่น พูดบ่ายเบี่ยง บอกกับแม่และตนว่า “ทำงานตั้งแต่ 8 โมง บ่ายโมงแล้วยังไม่ได้กินข้าวเลย ยังไม่ได้พักเดี๋ยวไปเรือนจำอีก” พูดเหมือนไม่อยากรับคดี ซึ่งแม่ตนและตนเป็นฝ่ายผู้เสียหายจึงได้บอกให้ตำรวจช่วยดูให้ แต่ก็ทำแบบส่ง ๆ ไม่ได้เต็มใจ


นางน้ำเพชร (แม่ผู้บาดเจ็บ) กล่าวว่า ลูกตนโดนรุมกระทืบที่โรงเรียนเกือบ 20 คน ตนเลิกงานกลับมาบ้านถึงรู้เพราะลูกไม่ยอมบอก ตนเลยพาลูกไปแจ้งความก่อนเพราะยังไม่ได้คุยอะไรกับครู ลูกอาจจะไม่อยากให้ตนรู้กลัวจะเป็นห่วง ตนได้พาลูกมาลงบันทึกประจำวันเพื่อหวังจะไกล่เกลี่ย เพราะเด็กทั้งคู่ไม่อยากให้มีเรื่องอีก


แต่พอมาคุยที่โรงเรียนกับคู่กรณี เจอพ่อแม่และคู่กรณี 2 ครอบครัว อยู่ในห้องปกครองก่อนแล้ว ตนเข้าไปพูดคุยเจอคุณครูดี ๆ ก็มีเพราะเขาเห็นว่าลูกตนไม่ผิด บอกให้ตนเอาให้หนัก ๆ เลย ให้ถึงที่สุด ตนนั่งรออยู่กับครอบครัวของคู่กรณี ครอบครัวที่ 1 ทางฝั่งนั้นก็บอกให้ลูกเขาซึ่งเป็นคู่กรณีสวัสดีตน รวมถึงพ่อแม่ของคู่กรณีด้วย ตนก็รับไหว้ทั้งที่ลูกตนโดนกระทำจนเจ็บ


พ่อแม่ของคู่กรณี ครอบครัวที่ 1 พูดกับตนว่าปกติลูกเขาไม่เคยเปิดเรื่องกับใคร ถ้ามีเรื่องก็จะหนีเข้าบ้าน แต่ทำไมครั้งนี้ลูกเขามากระทืบลูกตนแบบนี้ ตนเลยถามกลับว่า “นั่นซิ ทำไมต้องหมาหมู่ด้วย คนเดียวมารุมกันเกือบ 20 คนทำไม” พ่อแม่ของคู่กรณี ครอบครัวที่ 1 จึงถามลูกเขาว่ามาทำลูกตนตอนไหน ลูกของคู่กรณีเลยบอกว่ามันมี 2 กลุ่มที่มารุมกระทืบลูกตน ตนได้ยินในขณะที่ยังไม่เห็นคลิปยังอึ้ง และเงียบ เพราะไม่อยากคุยต่อแล้ว สักพักคุณครูก็เรียกเข้าไป


ระหว่างนั้นได้เดินสวนกับคู่กรณี ครอบครัวที่ 2 ที่เป็นคู่กรณีด้วยกัน เขาพูดกับคู่กรณี ครอบครัวที่ 1 ว่า “กูช่วยมึงแล้วนะ” ตนได้ยินแล้วรู้สึกว่าลูกตนต้องไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องมีเส้นมีสายกันหรอ แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีและเดินเข้าไปคุยกับคุณครูในห้อง หลังจากนั้นพ่อของคู่กรณี ครอบครัวที่ 2 เลยถามว่าตนจะเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ ซึ่งลูกตนบาดเจ็บฟันโยก ถ้าทำใหม่ซี่นึงประมาณ 7-80,000 บาท และถ้าสมองกระทบกระเทือนอีกจะเป็นยังไง ตนเรียกไป 50,000 บาท กับครอบครัวที่เห็นชัดๆ 5 คน คนที่เห็นไม่ชัดและไม่ยอมรับก็ไม่ได้เรียก ตกแค่คนละ 10,000 บาท ไม่ได้มากมาย พ่อของคู่กรณี ครอบครัวที่ 2 จึงพูดว่า “งั้นยอมให้ลูกติดศูนย์เยาวชนดีกว่า ยอมให้ลูกติดคุกไปเลย เพราะเขาก็โตมาจากในคุก เขาไม่สนใจหรอก เดี๋ยวส่งข้าวส่งน้ำให้นะลูก” เขาหันไปคุยกับลูกเขา


หลังจากนั้นจึงไปสถานีตำรวจกัน คู่กรณี ครอบครัวที่ 2 ไปถึงก่อน ตนเลยนั่งรอร้อยเวร แต่ไม่ใช่คนเดียวกับคนที่ตนไปแจ้งความวันแรก ตำรวจคนที่รับเรื่องดีมาก เขาถามตนว่ามาทำไม ตนเลยเล่าให้ฟังว่าเรื่องไม่จบเหมือนที่ตำรวจคนแรกรับเรื่องไว้และให้เบอร์ติดต่อมา


ตนเล่าให้ตำรวจฟังว่าเรียกคู่กรณีไป 50,000 บาท ตำรวจบอกกับตนว่า เรียกน้อยไป เพราะทำขนาดนี้ หลังจากนั้นตนจึงนั่งรอร้อยเวรเจ้าของคดี โดยที่คู่กรณีทั้ง 2 ครอบครัวรออยู่ข้างนอก สักพักร้อยเวรมาเขาก็ทักกับครอบครัวคู่กรณีแบบสนิทสนม ซึ่งคือผู้เสียหายมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูกแทนที่เขาจะมาทักตนก่อน มาสนใจตน แต่กลับไปถามเรื่องราวกับฝั่งครอบครัวของคู่กรณี


ฝั่งครอบครัวของคู่กรณีได้พูดว่าเรื่องธรรมดา แค่นัดตีกัน ซึ่งมันไม่ใช่ความจริงและไม่เหมือนที่พูดกับคุณครูที่ห้องปกครอง ที่ยอมรับว่าลูกของเขากระทำลูกของตนจริงๆ ต่อว่าลูกเขาทุกอย่าง แต่พอมาถึงโรงพักพูดอีกอย่าง ตนเลยปรี่เข้าไปกลางวงและบอกว่าไม่ใช่ หนังคนละม้วนแล้ว


ร้อยเวรหันมาดุตนบอกให้ตนใจเย็น ๆ ตนเลยถามว่าจะให้ตนใจเย็นได้ยังไงในเมื่อเรื่องที่ครอบครัวคู่กรณีพูดมันไม่เป็นความจริง ตนจึงขอไปเอากล้องวงจรปิดที่โรงเรียน ในกล้องเห็นลูกตนโดนรุมเยอะมาก เห็นแล้วยังไม่รู้เลยว่าลูกตนรอดมาได้ยังไง รู้สึกบอกไม่ถูก ทั้งเจ็บ ทั้งแค้น


หลังจากไปเอากล้องวงจรปิดซึ่งทางโรงเรียนก็ได้ให้ความร่วมมือ แต่พอตนกลับมาโรงพัก คู่กรณีก็พาลูกมาส่งโรงเรียนโดยที่ไม่รอไกล่เกลี่ยกับตน ตนโทรเข้าเบอร์ร้อยเวรก็ไม่รับ ให้ประชาสัมพันธ์โทรก็ไม่รับ ซึ่งพอตนเดินมาหาที่ชั้น 2 กลับเจอร้อยเวรนั่งอยู่ พอให้ดูกล้องวงจรปิดก็กระตุก ตนเลยต้องกลับไปเอาคลิปวงจรปิดมาใหม่


โดยตนได้สอบถามร้อยเวรว่าจะให้ตนมาอีกทีวันไหน เขาบอกกับตนว่า “ยังไม่รู้เลย งานยุ่งมากมาทำอะไรตอนนี้ เขามาโรงพักตั้งแต่ 8 โมง บ่ายโมงแล้วยังไม่ได้กินข้าวเลย ยังไม่ได้ออกจากโรงพักเลย” ตนก็เกรงใจแต่อยากรู้ว่าจะนัดวันไหน ตำรวจก็ตอบบ่ายเบี่ยงตลอด จะให้ตนรออะไร ตนบอกไปแล้วว่าตนเดือดร้อน เมื่อวานพาลูกไปหาหมอ พรุ่งนี้ต้องพาลูกไปทำฟัน ต้องจ่ายเงินก่อนและคู่กรณีจะรับผิดชอบมั้ย ร้อยเวรบอกต้องรอเพราะเป็นคดีแพ่ง บอกแค่ยังไม่รู้และให้ตนรอ ตนเลยต้องกลับ เหมือนตำรวจพยายามไล่ตนกลับ ตนกลับมานั่งคิดว่ามันคืออะไร นอนไม่หลับ ห่วงลูกว่าจะทำยังไงดี เราต้องไม่ได้รับความเป็นธรรมแน่ เพราะครอบครัวคู่กรณีรู้จักกับตำรวจ ร้อยเวรปล่อยกลุ่มผู้ก่อเหตุกลับไปได้ยังไง ตนยังไม่ได้ความเป็นธรรมหรือรับรู้ความคืบหน้า ยังไม่ได้สอบปากคำ ซึ่งลูกตนก็บาดเจ็บหลายจุด ตอนนี้ยังไม่ได้พาลูกไปหาหมอฟันเพราะกลัวจะแพงตนไม่มีเงินจ่ายก่อน แต่ค่ารักษาพยาบาลได้มีการจ่ายไปก่อนบ้างแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News