สังคม

เชียงใหม่เริ่มอ่วมขึ้นอันดับ 13 ของโลก หมอกควันพุ่งสูงอำเภอฮอดเข้าเกณฑ์สีแดง กระทบสุขภาพ

โดย kanyapak_w

1 ก.พ. 2566

89 views

หมอกควันพุ่งสูงอำเภอฮอดเข้าเกณฑ์สีแดงตัวเมืองเริ่มอ่วมขึ้นอันดับ13 ของโลก




สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือพุ่งพรวด เชียงใหม่ที่อำเภอฮอดทะลุเกณฑ์สีแดงมีพลกระทบกับสุขภาพ PM2.5 พุ่งไปที่ 93 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ในตัวเมืองขึ้นมาอยูในระดับสีส้มเกณฑ์ที่ส่งผลกระทบกับคนในพื้นที่แล้ว ส่วนอันดับโลกเมืองมลพิษทางอากาศ กรุงเทพกันดับที่ 5 เชียงใหม่ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 13



สถานการณ์หมอกควัน และมลพิษในอากาศของภาคเหนือเช้านี้ส่อเค้าว่าจะเข้าสู่ระดับวิกฤติในไม่ช้า หลังพบว่าหลายพื้นที่ของ 17 จังหวัดภาคเหนือมีค่ามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กอานุภาคต่ำกว่า 2.5 ไมครอน หรือค่า PM2.5 สูงเกินกว่ามาตรฐาน มาอยู่ใระดับสีส้มแล้วทั้ง 17 จังหวัด ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษเมื่อเวลา 7 นาฬิกาพบว่า ที่อำเภอฮอด จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นอำเภอทางตอนล่าง ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศพบว่าค่า PM2.5 สูงสุดของภาคเหนือ พุ่งสูงถึง 93 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 203 AQI ยกระดับขึ้นมาอยู่ในระดับสีแดงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนในพื้นที่แล้ว



ส่วนในตัวเมืองเชียงใหม่ ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดค่า PM 2.5 ได้ 56 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 114 AQI ที่ ศูนย์ราชการตำบลช้างเผือกวัดได้ 46 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 84 AQI ที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว 47 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 88 AQI อยู่ในระดับสีเหลือง และสีส้มแล้ว



ขณะที่ เว็บไซด์ iqair ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลกพบว่า ประเทศไทยมี 2 หัวเมืองหลักที่ติดอันดับเมืองที่มีวิกฤติคุณภาพอากาศของโลกคือ กรุงเทพมหานคร อยู่อันดับที่ 5 ค่า PM2.5 วัดได้ 97.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศขึ้นมาอยู่ที่ 173 US AQI ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ คุณภาพอากาศติดอันดับที่ 13 ของโลก ค่า PM2.5 วัดได้ 70.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศขึ้นมาอยู่ที่ 159 US AQI ส่วนอันดับ 1 เป็นของเมืองมุมไบ ประเทศ อินเดียค่า PM2.5 อยู่ที่ 122.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศ 185 US AQI




อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์หมอกควันที่เริ่มสะสมตัวหนาแน่นขึ้นเกินค่ามาตรฐานส่งผลให้ตั้งแต่คืนที่ผ่านมาชาวเชียงใหม่ส่วนหนึ่งเริ่มบ่นเรื่องของสุขภาพและผลกระทบจากปัญหาเรื่องของหมอกควันหลายคนเริ่มปิดหน้าต่าง เปิดแอร์ เปิดเครื่องฟอกอากาศทั้งๆ ที่มีอากาศที่เย็นสบาย 14-16 องศาเซลเซียส เนื่องจากหลายคนที่เป็นกลุ่มเปราะปรางอย่างผู้ที่เป็นภูมิแพ้ และโรคทางเดินหายใจเริ่มมีอาการแสบตา แสบคอ แสบจมูกกันแล้ว เชื่อว่าหากสภาพอากาศยังแห้งแล้ง ไม่มีฝนหรือลมเข้ามาช่วยชะล้างหมอกควันอาจจะส่งผลให้สภาพวิกฤติทางอากาศจะมาเยือนพื้นที่ภาคเหนือแล้ว



แท็กที่เกี่ยวข้อง  เชียงใหม่ ,ค่าฝุ่น ,ฝุ่นpm2.5

คุณอาจสนใจ

Related News