สังคม

'ครูบาไก่' ไม่ตกใจ โดนแฉภาพเล่นน้ำตก-ขี่เจ็ทสกี ชี้ไม่ได้ผิดมาก - 'แพรรี่' ถามครูบาไก่เป็นนักบวชอย่างไหน?

โดย nattachat_c

23 ม.ค. 2566

8.2K views

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา โลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆ ใน จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพพระสงฆ์รูปหนึ่ง โดยระบุว่าเป็นพระสุวิทย์ ชินวโร หรือครูบาไก่ นั่งอยู่บนเตียงในกุฏิตัวเอง และเป็นเตียงเดียวกับที่มีการเผยแพร่ภาพโชว์ของลับส่งให้กับชายวัยรุ่นชื่อเจน โดยกล่าวหาว่าคบหากับครูบาไก่ และมีอะไรกันแล้ว พร้อมข้อความระบุว่า


“เทอๆ ภาพเชื่อมโยงของลับครูบาไก่ มีลูกศิษย์ออกมาแฉอีก ผ้าห่ม ผ้าปูเตียง บรรยากาศโดยรอบ ภาพเซ็ตต่อมา อาบน้ำมีบริวารลูบไล้ และอีกภาพถอดสบงทรงเจ็ตสกีไปเล๊ยยยย”


ต่อมาวานนี้ (วันที่ 22 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม วัดครูบาไก่ บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น และที่ศาลาบุญภายในพักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม มีญาติโยม สายบุญมาทำบุญและถวายภัตตาหารเช้าแด่ ครูบาไก่และพระสงฆ์สามเณรในวัดกันตามปกติ


ภายหลังฉันท์ภัตตาหารเช้าเรียบร้อย พระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร หรือ ครูบาไก่ อายุ 30 ปี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพ สรงน้ำในบริเวณน้ำตก ที่มีชายหนุ่มห้อมล้อม รวมถึงภาพนั่งเจ็ตสกี ที่ทะเล และภาพผ้าห่ม ขณะนั่งห่มผ้าในห้องนอน ที่กำลังแชร์ในโซเชียลในขณะนี้


ครูบาไก่ กล่าวว่า เห็นภาพที่ที่มีการแชร์ในโซเชียลแล้ว ไม่ได้ตกใจ แต่คิดว่าภาพทั้งหมดนั้น เกิดจากโยม 2 คน ที่ชื่ออิคคิวและบุ๋ม เพราะสองคนนี้เคยมาอยู่ที่วัด และติดตามไปด้วยทุกที่ ที่มีกิจนิมนต์ต่างจังหวัด


ภาพถ่ายที่มีผู้ชายหลายคนรายล้อมนั้น สองคนนั้นถ่ายไว้เมื่อครั้งไปกิจนิมนต์ไปที่จังหวัดกำแพงเพชร และที่พักอยู่ใกล้กับน้ำตกคลองลาน ลูกหลานจึงชวนลงเล่นน้ำในน้ำตก จึงลงไปสรงน้ำด้วย แต่ตอนนั้นไม่คิดอะไร เห็นสองคนนั้นถ่ายรูปไว้จำนวนมาก ก็ไม่คิดอะไร รวมถึงเมื่อครั้งรับกิจนิมนต์ไปที่กรุงเทพฯ จึงนั่งเครื่องบินไปเจอกับคณะของทางวัดที่กรุงเทพฯและถูกนิมนต์ให้พาเด็กวัดไปเที่ยวที่จังหวัดชายทะเล ซึ่งสองคนนั้นก็ติดตามไปด้วย โดยมีการถ่ายรูปตอนนั่งเจ็ตสกี แต่ตอนนั้นไม่คิดอะไร คิดเพียงว่า ให้เด็กวัดและคนติดตามได้เล่นน้ำทะเลกัน ได้สนุกสนานกัน ซึ่งอิคคิวและบุ๋มก็ถ่ายภาพเก็บไว้จำนวนมาก และไม่คิดว่าจะนำภาพเหล่านั้นมาทำร้ายในวันนี้


ส่วนภาพผ้าห่มที่ถ่ายออกมาและแชร์กันนั้น ก็ยอมรับว่าเป็นผ่าห่มที่ห่มจริงๆ แต่การห่มผ้าและการถ่ายภาพในห้องนั้น เป็นเรื่องปกติที่ลูกศิษย์คนใกล้ชิดสามารถเข้าออกห้องได้ และเป็นภาพที่ถ่ายในช่วงที่อิคคิวและบุ๋ม นำหลานชายมาบวชที่วัด จึงให้ครูบาดูแลหลายและพามานอนในห้องด้วย และไม่ได้ตกใจกับภาพต่างๆ ที่ถูกสองคนนั้นนำออกมาปล่อย เพราะรู้อยู่แล้วว่า ถ้าหาเรื่องทำร้ายกันได้ ภาพต่างๆ เรื่องต่างๆ ก็จะตามมาอีกเรื่อยๆ และยังยืนยันว่า ภาพที่ระบุว่าเป็นของลับของตัวเองนั้นไม่ใช่อย่างแน่นอน”


ครูบาไก่ กล่าวอีกว่า เรื่องการถ่ายภาพในลักษณดังกล่าว หากมองถึงความเหมาะสม ในทางพระสงฆ์ก็ต้องยอมรับว่าไม่เหมาะ แต่ก็ไม่ได้ผิดมากมาย เพราะทุกอย่างที่ถ่ายออกมาก็อยู่กับลูกหลานที่มาอยู่ในวัด บางคนก็เป็นสายเลือดเดียวกันเพราะเป็นลูกพี่สาวที่มาอยู่ดูแลในวัด จึงไม่ได้ตกใจ และไม่มีอะไรที่ปิดบังซ่อนเร้น โดยส่วนตัวจึงไม่มีความเคียดแค้นกับสองคนนั้น


ส่วนทางกฎหมายนั้น ก็ให้เป็นหน้าที่ของทนายความที่จะดำเนินการ จึงอยากจะบอกว่า ยังมีภาพอะไรเรื่อง อะไรที่ยังไม่พูด ให้รีบนำออกมาพูด จะได้ชี้แจงจะได้เคลียร์ให้มันจบๆ

-------------

ด้าน แพรรี่ ไพรวัลย์ หรือ อดีตพระพระมหาไพรวัลย์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีของครูบาไก่ ระบุว่า


“สำหรับดิฉัน ปัญหาเรื่องครูบาไก่ ไม่ได้อยู่ที่ว่าท่านจะไปนอนแช่น้ำตกที่ไหน ขี่เจ็ตสกีซ้อนท้ายหนุ่มหล่อยังไง ดิฉันไม่สนใจค่ะ ต่อให้เห็นภาพเหล่านี้แล้วจะรู้สึกว่า สิ่งที่ท่านทำอยู่นั้น เป็นเรื่องเสียอาจาระ และไม่ควรแก่สมณสารูปแค่ไหนก็ตาม


ดิฉันจะไม่สนใจเลยนะคะ ถ้าครูบาไก่ ไม่ใช่พระที่ถูกยกย่องให้เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นเกจิอาจารย์ มีหูทิพย์ตาทิพย์ (หนักเข้าถึงกับบางคนบอกว่าเป็นพระอรหันต์) ให้เป็นพระที่มีสตอรี่ หรือเรื่องเล่าในทางวัตรปฎิบัติมากมายไปหมด


ดิฉันจะไม่สนใจค่ะ ถ้าครูบาไก่ เป็นเพียงพระหนุ่มทั่วๆ ไปรูปหนึ่ง พระซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ได้พยายามด้วยตนเอง (หรือมีคนอื่นพยายาม) ทำให้ชาวพุทธบางส่วนเข้าใจว่า ท่านมีคุณวิเศษ ท่านมีวัตรปฎิบัติที่ดี เป็นพระซึ่งควรแก่การที่ฆราวาสจะกราบไหว้บูชาได้อย่างสนิทใจ


ปัญหาของดิฉัน หรืออาจของใครหลายคนในตอนนี้ด้วย อยู่ที่ว่า ตกลงแล้ว ภาพลักษณ์ที่ครูบาไก่สร้างขึ้นเพื่อต้องการให้ชาวบ้านเข้าใจ กับภาพลับที่มีคนขุดออกมาแฉ เป็นภาพเดียวกันหรือเปล่า ครูบาไก่เบื้องหน้า กับครูบาไก่เบื้องหลัง สะอาดบริสุทธิ์เหมือนกันหรือไม่


นี่คือสิ่งที่ดิฉันสนใจและตั้งคำถามค่ะ


นักบวชบางพวกประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อความเจริญงอกงามแห่งไตรสิกขา แต่นักบวชบางพวกแสร้งประพฤติพรหมจรรย์เพื่อหวังลาภสักการะ เลี้ยงปากท้อง พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้


ครูบาไก่ เป็นนักบวชอย่างไหนเจ้าคะ ดิฉันอยากถาม


ในสังคมพุทธ ที่คนพุทธจำนวนไม่น้อย กระสันเสี่ยนอยากกราบไหว้พระอรหันต์ อยากทำบุญบูชากับพระที่มีอะไรมากกว่าวัตรปฎิบัติที่เรียบง่ายงดงาม เราก็คงจะเห็นพระแบบครูบาไก่อยู่เรื่อยๆ


พระที่เบื้องหน้าแสร้งสงบเสงี่ยมชวนให้ศรัทธา แต่เบื้องหลังกลับไม่เคยปฎิบัติเพื่อการละตัณหาหรือกามคุณจริงๆ พระที่สวมแค่เครื่องแบบจีวร แต่ความจริงกลับรักษาศีลได้เท่าฆราวาส


ก็คงจะมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ นะคะ ตราบใดที่สังคมพุทธ ยังคงมองพระว่า ใส่จีวร = ศักดิ์สิทธิ์ จบ”
-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/B_KxorceRZ8

คุณอาจสนใจ

Related News