สังคม

เปิดใจผู้ค้าย่านเยาวราชโอดกฎหมายเอื้อชาวต่างชาติ ชี้คนจีนทำทำธุรกิจด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว

โดย phusit_p

13 ม.ค. 2566

77 views

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กร้าน "อาม่ง หม่าล่าหม้อไฟ" โพสต์ประเด็น ผู้ค้ารายย่อยย่านเยาวราชไม่ได้รับความยุติธรรม เนื่องจากมีกฎหมายในประเทศเอื้อกับทุนต่างชาติ ชี้ประเด็นคนจีนที่ถือวีซ่านักท่องเที่ยว สามารถมาจดทะเบียนลงทุนเปิดกิจการร้านค้า ผ่านการจ้างหุ่นเชิดคนไทยมาทำสัญญา


วันนี้ (13 ม.ค. 66) ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ คุณทอฝัน อายุ 32 ปี เจ้าของธุรกิจหม่าล่าหม้อไฟ เล่าว่า  จุดเริ่มต้นในการออกโพสต์ คือ ต้องการที่จะเป็นกระบอกเสียงสำหรับผู้ค้ารายย่อย เรียกร้องให้รัฐเข้ามามีส่วนในการพัฒนาธุรกิจร้านค้าเล็ก ให้สามารถแข่งกับทุนต่างชาติได้ เนื่องจากปัญหาเรื่องการเสียภาษีรายได้ ที่มีความเหลื่อมล้ำกันอยู่ จากช่องว่างทางกฎหมาย นักท่องเที่ยวจีนจ้างตัวแทนคนไทยมาเป็นหุ้นส่วน เพื่อให้สามารถเปิดร้านค้า ด้วยวีซ่าของนักท่องเที่ยวได้ จึงเป็นช่องว่างสำคัญที่จะทำให้เงินไหลออกไปนอกประเทศ


ทั้งนี้ ยังสะท้อนอีกว่า ธุรกิจรายย่อยของไทยเสียเปรียบ เนื่องจากต้องแบกรับต้นทุนที่สูงกว่าทางด้านภาษี และต้นทุนวัตถุดิบ จึงอยากให้เกิดการส่งเสริมสินค้าของผู้ประกอบการไทย ในย่านเยาวราช-สำเพ็งมากขึ้น เพื่อให้กลายเป็นแหล่งค้าขายสินค้าสำคัญของคนไทย ท่ามกลางธุรกิจการค้าที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป


จากนั้นทีมข่าวได้ลงพื้นที่ สอบถามผู้ประกอบการร้านค้าย่านเยาวราช ถ.แปลงนาม คุณโรจณ์ยกรณ์ (เจ้าของร้านจ้อปูทอง) เล่าว่า ไม่เห็นด้วยการที่คนจีนถือวีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามาเปิดกิจการร้านค้า แล้วมีช่องว่างที่จะเสียภาษีน้อยกว่า เพราะจะส่งผลต่อร้านค้าในพื้นที่ แม้ขณะนี้พื้นที่ชุมชนเยาวราชที่อยู่กันมาหลายรุ่น ยังคงอาศัยอยู่กันอย่างเหนียวแน่น ไม่ปล่อยขายพื้นที่เพราะเป็นที่ดินของครอบครัว ทุนจีนใหม่จึงเข้ามาพื้นที่นี้ได้ยาก แต่ทราบถึงปัญหาที่มีกลุ่มทุนจีนมาลงทุนด้วยวีซ่าของนักท่องเที่ยว


เห็นได้อย่างชัดเจน ที่คนจีนเข้ามาเปิดกิจการร้านค้าที่เสือป่า พลาซ่า และ สำเพ็ง ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายปลีก-ส่ง ข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีเจ้าของร้านเป็นคนจีน สามารถนำสินค้าเข้ามาด้วยราคาที่ถูกกว่า จึงสร้างความเดือดร้อนให้กับธุรกิจคนไทยในพื้นที่ ที่ถูกขายตัดราคา เพราะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายจากต้นทุน และภาษีแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงเป็นการเสียเปรียบทางการค้า วอนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยสอดส่องช่องว่างดังกล่าว

คุณอาจสนใจ

Related News