'อนุทิน' ยันรับมือไหว นทท.จีนเข้าไทย - 'พิพัฒน์' คาดไตรมาสแรกทะลักไทย 3 แสนคน

วานนี้ (5 ม.ค. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวฯ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร และกระทรวงการต่างประเทศ ว่า

การประชุมในวันนี้เป็นการเตรียมการเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวโดยไม่เจาะจงว่าเป็นประเทศใด ซึ่งขณะนี้ ไทยมีความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวในทุกมิติ ซึ่งมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นมาตรการที่มีความเหมาะสมอยู่แล้ว

ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย

• นักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนป้องกันโควิดอย่างน้อยสองเข็ม
• หากมีอาการป่วยทางเดินหายใจควรเลื่อนการเดินทางและรักษาให้หายก่อนเพื่อลดการแพร่ระบาด

ขณะอยู่ในประเทศไทย

• ต้องสวมหน้ากากอนามัย + ล้างมือบ่อยๆ
• มีอาการทางเดินหายใจ ต้องตรวจ ATK
• มีอาการป่วยรุนแรงขึ้น ให้ไปโรงพยาบาล
• ฉีดวัคซีนโควิด ต้องจ่ายเงินเอง (รอกำหนดราคา)

ประเทศใดมีข้อกำหนดพิเศษขึ้นมา เช่น ต้องตรวจ RT-PCR ให้กับนักท่องเที่ยวก่อนเดินทางกลับประเทศต้นทาง นักท่องเที่ยวต้องซื้อบัตรประกันสุขภาพก่อนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งต้องครอบคลุมการรักษาโรคโควิด ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่เท่าเทียม เป็นธรรมทั้งประเทศที่เปิดรับนักท่องเที่ยวและประเทศต้นทาง

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวในช่วงเริ่มต้น ซึ่งมาตรการต่างๆ จะมีการปรับเปลี่ยนและลดหลั่นได้ตามความเหมาะสม พร้อมกันนี้ในที่ประชุมได้มีการนำเสนอ ขอความร่วมมือ ให้โรงแรมที่เปิดรับนักท่องเที่ยวจัดซุ้มอำนวยความสะดวกสำหรับตรวจ RT-PCR ด้วย

อย่างไรก็ตาม วันที่ 9 มกราคมนี้จะมีนักท่องเที่ยวไฟลท์แรกมายังประเทศไทย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศจีน โดยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคมกระทรวงการท่องเที่ยว จะเดินทางไปตรวจความพร้อมและเยี่ยมการปฎิบัติงานตรวจสอบสถานการณ์เพื่อให้เกิดความสะดวกปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวและคนไทยทุกคน ในวันที่ 12 มกราคม ยืนยันทุกฝ่ายมีความพร้อมและกรุงเทพมหานครก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ส่วนโรงแรม, ร้านอาหารที่ได้รับมาตรฐานsha และSha+พนักงานเสริมและเชฟยังต้องสวมหน้ากากอนามัยอยู่ โดยยึดถือตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อ ยืนยันมาตรการที่ออกมาเป็นไปตามความคิดเห็นของทีมแพทย์ที่มองว่าเชื้อ โควิด-19 อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ เพราะคนไทยและคนต่างชาติมีภูมิคุ้มกันอยู่บ้างแล้ว ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะนี่เป็นโอกาสได้เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจจากความสูญเสียต่างๆที่ได้รับมากว่า 3 ปีจากการให้ระบาดของโควิด

ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นรายได้สำคัญอย่างมากต่อประเทศ และยังมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอีกมากมายและน่าจะเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะพลิกฟื้นซ่อมแซมเสริมสร้างความเสียหายให้กับประเทศในโอกาสต่างๆก็จะกลับมา

ส่วนการเตรียมความพร้อมในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว ได้สั่งการสาธารณสุข เพิ่มศักยภาพภาพเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น ทั้งสถานพยาบาล Hospitel เพื่อรองรับผู้ที่มีผลตรวจพบเชื้อ โควิด-19 พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนและผู้บริการและอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวและคมนาคมให้ปฎิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล ไม่รวมกลุ่มจำนวนมากในพื้นที่แออัด หากป่วยมีอาการทางเดินหายใจ เช่นไอ เหนื่อย เป็นไข้ ให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่กับผู้อื่น และยังคงเน้นย้ำให้เข้ารับวัคซีนป้องกัน โควิด-19 เข็มที่ 4 เพื่อความปลอดภัย

---------

เมื่อวานนี้ (5 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา​ กล่าวถึงการ เตรียมการรับนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมาจากประเทศจีน​

โดยเชื่อว่า จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างแน่นอน​ คาดว่า​ ในไตรมาสแรก จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 3 แสนคน โดยเฉพาะ​ จ.ภูเก็ต​ เชียงใหม่​ รวมถึงภาคอีสาน​ ซึ่งจะพยายามให้สายการบินต่างๆ กระจายไปทุกภูมิภาค เพื่อกระจายการเจริญเติบโตทางการท่องเที่ยวไทยอย่างทั่วถึง​ โดยกระทรวงคมนาคม จะมีการไปตรวจความพร้อมรับนักท่องเที่ยว​ ที่​ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ​ ในวันที่ 12 ม.ค.นี้​

ทั้งนี้​ จะมีการเพิ่มสายการบิน​สำหรับรับนักท่องเที่ยวจีน​ แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งเบื้องต้น​ วันนี้ตัวแทนสำนักงานการบินพลเรือน ได้มีการขอสล๊อตไปแล้ว​ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ที่จะค่อยๆ​ เพิ่มเที่ยวบิน​ และช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้น​ ถือว่าเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว​ แต่เชื่อว่า​ ยังอยู่ในกรอบ 3 แสนคน

---------

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า หลังจีนเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม

ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (เอฟไอที) เริ่มออกเดินทางแล้ว ล่าสุดได้รับรายงานว่ามีสายการบินเริ่มทยอยกลับมาทำการบินอีกครั้ง มีเที่ยวบินแรกวันที่ 9 มกราคมนี้ สายการบินเซียะเหมินแอร์ไลน์ ทำการบินเส้นทาง เซียะเหมิน-กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) มีผู้โดยสารเดินทางมาเต็มลำประมาณ 200 คน คาดว่าในไตรมาส 1/2566 จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาประมาณ 3 แสนคน
---------

วานนี้ (5 ม.ค. 65) นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ มีสายการบินของจีน จำนวน 15 สายการบิน ยื่นขอสลอตบินเข้าไทย ใน 3 ท่าอากาศยานหลัก คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ , ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูเก็ต รวม 15 เที่ยวบินต่อวัน

ซึ่งจากข้อมูลการบิน ในเดือนมกราคมนี้ จะมีเที่ยวบินจากจีน เข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณ 98 เที่ยวบิน , เดือนกุมภาพันธ์ 144 เที่ยวบิน และเดือนมีนาคม 96 เที่ยวบิน

ส่วนท่าอากาศยานภูเก็ต จะมีเที่ยวบินเข้าทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 15-17 กุมภาพันธ์ วันละ 1 เที่ยวบิน จากนั้นตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ถึง 25 มีนาคม จะมีวันละ 4 เที่ยวบิน

ขณะที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จะเริ่มมีเที่ยวบินตรงจากจีนเข้าตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม โดยเดือน มกราคมจะมี 42 เที่ยวบิน , กุมภาพันธ์ 84 เที่ยวบิน และ มีนาคม 74 เที่ยวบิน

โดยเที่ยวบินแรกนำนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย จะมาในวันที่ 12 มกราคมนี้ จำนวน 3 เที่ยวบิน คือ จากหนานจิง ถึงไทยเวลา 0.50 น. จากเทียนจิน ถึงเวลา 12.50 น และจากคุณหมิง ถึงเวลา 14.55 น. ลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

---------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/6sMYxlKJdM8