กำลังพลที่รอดชีวิตเผยเสื้อชูชีพมีไม่เพียงพอ เห็นเพื่อนลอยหายไปกับตา ด้าน ผบ.ทร.สั่งค้นหาผู้สูญหายและสั่งสอบปมเสื้อชูชีพ

             กำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่รอดชีวิตจากเหตุเรืออับปางกลางทะเลที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บางส่วนที่บาดเจ็บไม่มากนัก นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ อบต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน โดยหลายนายมีสภาพอิดโรย มีบาดแผลฟกช้ำตามร่างกาย

            พลทหารนายหนึ่งเล่านาทีชีวิตว่า ขณะเกิดเหตุ มีคลื่นสูงซัดเข้ามาที่เรือ ตอนแรกยังพอตั้งหลักได้  แต่หลังจากนั้นไม่ถึง 2 นาที ก็มีคลื่นลูกที่สองซัดเข้ามาที่เรืออีก ทำให้เสียหลักกันไปหมด  รู้ตัวอีกทีก็ลอยคออยู่กลางทะเล โดยไม่มีเสื้อชูชีพ  ต้องเกาะกันเป็นกลุ่ม ให้คนที่มีชูชีพพาลอยไปหาเรือหลวงกระบุรี ที่จอดรอช่วยเหลืออยู่  เพื่อนบางส่วนที่ไม่มีชูชีพก็ลอยห่างไปเรื่อยๆ  ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการบอกกันว่า ต้องมีบางคนที่ต้องเสียสละ เพราะเสื้อชูชีพไม่พอ  พลทหารนายนี้บอกว่า ต้องเห็นเพื่อนสนิทสองคนที่หายไปต่อหน้าต่อตา  และทั้งสองคนไม่ได้สวมเสื้อชูชีพ ตอนนี้ได้แต่ภาวนาขอให้เพื่อนรอดปลอดภัย

            ขณะที่พลเรือเอกเชิงชาย ชมเชิงแพทย์  ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อให้กำลังใจผู้รอดชีวิต  พร้อมกับเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังเร่งค้นกำลังพลอีก 31 คนที่สูญหาย  โดยใช้เรือหลวงอ่างทองและเรือหลวงกระบุรี  รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือและกองทัพอากาศแบ่งกำลังกันค้นหา  รวมทั้งในเวลา  18.00 น.วันนี้  เรือหลวงภูมิพลจะมาสมทบร่วมปฏิบัติการค้นหาด้วย โดยรัศมีการค้นหาเป็นไปตามโปรแกรมที่วางไว้  คือคาดว่าคลื่นลมจะพัดผู้ประสบภัยเข้าหาฝั่ง ตั้งแต่ทางใต้ของบางสะพานลงไป  แต่ก็มีอุปสรรคสำคัญ คือ สภาพลมกระโชกแรงที่คาดว่าจะต่อเนื่องไปจนถึงวันพรุ่งนี้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา รวมทั้งหากมืดก็จะค้นหาลำบาก  แต่ยืนยันจะค้นหาอย่างต่อเนื่อง

             ส่วนกระแสข่าวว่าพบผู้เสียชีวิตนั้น ยืนยันว่าไม่จริง  ส่วนสาเหตุที่เรืออับปาง เบื้องต้นได้รับรายงานว่า  เรือหลวงสุโขทัยมาถึงหาดทรายรีเมื่อเช้าวานนี้  แต่เจอคลื่นลมแรงทำให้เข้าเทียบท่าไม่ได้  ขณะนั้นมีน้ำเข้าเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์พัง 1 ตัว จึงประสานทัพเรือภาค 1 ขอกลับไปสัตหีบ แต่เมื่อประเมินสถานการณ์แล้วเห็นว่าไม่ปลอดภัย  จึงให้จอดที่บางสะพาน  ก่อนจะเกิดเหตการณ์ขึ้น

           ส่วนประเด็นเสื้อชูชีพนั้น  ผู้บัญชาการทหารเรือยอมรับว่า ไม่เพียงพอ เพราะวันเกิดเหตุ  มีการขอกำลังเสริมของนาวิกโยธินและศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง  อีก 30 นาย  ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบต่อไปว่า ทำไมจึงไม่มีการนำชูชีพขึ้นมาเพิ่มเติม