สาวร้อง หนุ่มแอบถ่ายในห้าง แจ้งความกว่า 5 เดือน คดีไม่คืบ ตำรวจแจงออกหมายเรียกครั้งที่ 2 แล้ว

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า หญิงรายหนึ่ง โพสต์คลิป เตือนภัย หลังจับได้ว่าชายคนนี้ใช้โทรศัพท์มือถือแอบถ่าย ขณะที่เธอนั่งอยู่ในศูนย์การค้าในอ.เมืองเชียงใหม่ โดยชายคนดังกล่าวพยายามเดินหนีออกไปจากห้างและไม่ยอมให้ดูไฟล์ภาพในโทรศัพท์ เธอจึงเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เข้ามาช่วยเหลือและขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยดูภาพในโทรศัพท์ให้ แต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่ยอม ใช้เวลาคุยอยู่นานเกือบ 10 นาที ชายคนนี้ก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือ ก่อนจะเดินออกไปที่ลานจอด ซึ่งเธอก็ได้เดินตามไปพร้อมกับพลเมืองดี โดยบอกว่าหากไม่ยอมรับและไม่ให้ดูภาพในโทรศัพท์จะแจ้งความตำรวจ แต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่สนใจและขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปในที่สุด


ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ในห้าง ชายคนนี้ได้เข้ามานั่งใกล้ ๆ ซึ่งเธอก็ไม่ได้รู้ตัวว่าถูกแอบถ่าย กระทั่งมีชายพลเมืองดีคนหนึ่งที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเข้ามาสะกิดบอกว่ามีคนแอบถ่ายให้ลุกออกมาก่อน เธอจึงรีบลุกเดินออกไปกับพลเมืองดี


แต่ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวไม่ยอมเลิก กลับเดินตามเธอออกมา เธอจึงตัดสินใจเข้าไปถาม ทำให้ชายคนดังกล่าวเดินหนี เธอกับพลเมืองดีจึงเดินตามไปขอดูโทรศัพท์ ตอนแรกก็ไม่ยอม อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ แต่เธอไม่ยอม สุดท้ายชายคนดังกล่าวก็ยอมให้ดู และเห็นว่ามีภาพรูปที่เธอโดนแอบถ่ายจริง ๆ


จากนั้นชายคนดังกล่าวได้รีบลบไฟล์ภาพออกและพยายามเดินหนีไปและไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ก่อนจะขี่จักรยานยนต์หลบหนีออกไป


หลังเกิดเหตุในช่วงเย็นวันเดียวกัน เธอนำภาพถ่ายจักรยานยนต์พร้อมป้ายทะเบียนของชายโรคจิตเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.อภิสิทธิ์ สุนันต๊ะ พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก ให้ดำเนินคดีกับชายคนนี้


ต่อมาเจ้าพนักงานได้นัดเธอพร้อมพยานเข้าให้ปากคำเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบไป และชายคนดังกล่าวได้ติดต่อนัดขอเจรจาไกล่เกลี่ยที่โรงพัก แต่นัดแล้วก็ไม่มาถึงสองครั้ง ก่อนจะหายตัวไป จนถึงวันนี้ผ่านมานานเกือบ 5 เดือน ทราบเพียงแต่ว่าตำรวจมีการออกหมายเรียก แต่ยังไม่มีการจับกุมตัวมาดำเนินคดี


เธอจึงนำเรื่องนี้มาโพสต์เพราะไม่อยากให้เรื่องเงียบ เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่ปล่อยไว้ไม่ได้ และเตือนภัยสาว ๆ ให้ระมัดระวังตัวจากพวกโรคจิตเมื่อต้องไปอยู่ในที่มีคนพลุกพล่าน รวมทั้งเรียกร้องให้ตำรวจเร่งรัดจับกุมชายคนนี้มาดำเนินคดีโดยเร็วเพื่อจะได้ไม่ไปทำตัวเป็นภัยสังคมที่ไหนอีก


ด้าน พ.ต.ท.กรณ์ ศศิมณฑา รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.ช้างเผือก ชี้แจงเรื่องนี้ว่า คดีนี้ตำรวจไม่ได้นิ่งเฉย หลังผู้เสียหายแจ้งความ พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายและพยาน และเรียกตัวผู้ก่อเหตุมาแจ้งข้อหา “กระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคามหรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ” ไปแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาได้ประกันตัวไปสู้คดี


หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวน เมื่อถึงวันที่เรียกตัวมาพบเพื่อส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ ผู้ต้องหาไม่ยอมมา พนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียกไปตามภูมิลำเนา แต่ออกหมายเรียกครั้งแรกก็ยังไม่มา ล่าสุดได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ไปแล้ว และหากภายใน 12 วันยังไม่มาพบ จะออกหมายเรียกตามขั้นตอน


ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายมองว่าตำรวจไม่ทำงาน พ.ต.ท.กรณ์ บอกว่า พนักงานสอบสวนดำเนินการไปตามขั้นตอน แต่เนื่องจากเป็นคดีลหุโทษ ทำให้พนักงานสอบสวนไม่มีการติดต่อสื่อสารกับฝั่งผู้เสียหายอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าตำรวจทำงานช้า ยืนยันว่าตำรวจให้ความสำคัญในทุกคดี