สังคม

กล้วยหวีละ 24,000! แจ้งความ 8 เด็กประถม บุกรุกกินกล้วยในบ้าน พ่อแม่ซัดทำเกินกว่าเหตุ

โดย thichaphat_d

9 ธ.ค. 2565

419 views

สาวบุรีรัมย์ เดือด แจ้งความฐานบุกรุก-ลักทรัพย์ เด็กชาย 8 คน หลังแอบเข้ามากินกล้วยในบ้านหมดไป 1 หวี ตร. ออกหมายเรียกเด็กมารับข้อหา เรียกสินไหมรายละ 2 พัน เจ้าตัวเผยถูกกลั่นแกล้งมาหลายครั้ง แต่หาตัวคนทำไม่ได้ ด้านผู้ปกครองเด็กชี้ทำเกินกว่าเหตุ ชี้มีการอัดคลิปเพื่อเค้นความจริง เป็นข่มขู่เด็กเพื่อบีบให้ยอมรับ


วานนี้ (8 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่ามีเด็กนักเรียนอายุตั้งแต่ 5 ขวบถึง 12 ปี ถูกแจ้งความคดีอาญา โดยไม่เป็นธรรม เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็ก

จากการตรวจสอบที่บ้านโคกสำโรง หมู่ 7 พบชาวบ้านกำลังนั่งจับกลุ่มพูดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะหมายเรียกจากตำรวจ สภ.ประโคนชัย ระบุชัดว่า ได้กล่าวหาเด็กชายชั้น ป.1 อายุ 7 ขวบ ในข้อหา “ร่วมกันบุกรุก และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์”

โดยนางสิริมา กลีบสำโรง อายุ 53 ปี แม่ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 7 ปี นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.บ้านไทร เล่าว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น. น.ส.กุ้ง (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี คนในหมู่บ้านได้เรียกเด็กนักเรียนอายุตั้งแต่ 5 ขวบถึง 12 ปี รวม 8 คน ไปที่บ้าน แล้วถ่ายคลิปการสอบสวนเด็กทั้งหมด ที่เข้าไปในห้องครัว แล้วกินกล้วยน้ำว้าหมดไป 1 หวี และมีทรัพย์สินอื่นภายในบ้านเสียหาย

เมื่อมาสอบถามทราบว่าลูกชายตนกับเพื่อนรวม 8 คน ได้เข้าไปที่ห้องครัวของเจ้าของบ้านจริง เข้าไปกินกล้วยจริง แต่ไม่ได้ไปทำลายทรัพย์สินของเจ้าของบ้าน สาเหตุที่เข้าไปเพราะห้องครัวเป็นห้องครัวแบบโล่ง ไม่มีฝากั้น ประกอบกับเคยไปบ้านหลังนี้เป็นประจำ เนื่องจากเจ้าของบ้านเคยเรียกให้ลูกชายกับเพื่อนๆไปซื้อไก่ป๊อป ที่เหลือจากการขายในตัวอำเภอ อีกทั้งลูกชายเจ้าของบ้านเรียนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน

ต่อมาเมื่อวันที่ 30 พ.ย.เด็กแต่ละคนได้รับหมายเรียกลงนามโดย พ.ต.ท.ศิริชัย เจริญศิริ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย ให้ไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 4 ธ.ค.65 ตนกับผู้ปกครองคนอื่นรวม 8 คน ตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าเด็กวัยขนาดนี้จะต้องได้รับหมายเรียก

ต่อมาวันที่ 4 ธ.ค.ผู้ปกครองทุกคนเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนผู้กล่าวหา เบื้องต้นเรียกเงินค่าสินไหมรายละ 3,000 บาท แต่ลดให้เหลือคนละ 2,000 บาท ผู้ปกครองจำนวน 4 คนยอมจ่ายเพราะไม่อยากเรื่องมาก ส่วนอีก 4 คนที่เหลือเด็กปฏิเสธว่าไม่ได้ไปด้วย

ตนเป็นหนึ่งที่ยอมจ่ายค่าสินไหม 2,000 บาท แต่ที่แปลกใจคือมีเด็ก 5 ขวบ เรียนแค่ชั้นอนุบาลซึ่งไม่รู้เรื่องด้วย ผู้กล่าวหายังไม่ยอมลดราวาศอก ประกาศจะดำเนินคดีทั้งหมดหากไม่จ่ายเงิน

ด้านนายธรีภัทร์ อินทร์พันธ์ อายุ 48 ปี พ่อน้องไม้ อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.3 บอกว่า ตนจะไม่ยอมจ่ายเงิน 2,000 บาทเด็ดขาด เพราะลูกชายไม่ได้ไปด้วย วันที่ น.ส.กุ้ง เรียกเด็กทั้งหมดไปสอบสวนที่บ้าน ตนก็ไปด้วยจนต้องมีปากเสียงกัน เพราะทำเกินกว่าเหตุ เค้นถามเด็กเหมือนคดีฆ่าคนตาย

สิ่งที่ตนติดใจมากที่สุดคือ “หมายเรียก” ของตำรวจที่ส่งมาที่บ้าน ระบุชื่อเด็กชัดเจน เด็กอ่านหนังสือออกแล้ว ก็เกิดอาการหวาดผวากลายเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจเด็กเป็นอย่างมาก เพราะเริ่มเหม่อลอย ไม่ยอมไปเล่นเหมือนที่เคยไป

ด้านปุณญาพร บุตรแสง อายุ 40 ปี แม่เด็กชาย 12 ปี ที่จ่ายค่าสินไหมไปแล้ว 2,000 บาท ได้ออกมาระบุว่า น.ส.กุ้ง ชอบขับรถเร็ว เบิ้ลเครื่องรถใส่เป็นประจำตั้งแต่เกิดเรื่อง สร้างความวุ่นวายทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้านไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะเขาอ้างว่าเป็นเพื่อนกับตำรวจยศสารวัตร วันที่เขาเรียกเด็กไป เขาด่าและพยายามเค้นเด็กให้รับสารภาพ โดยที่ไม่มีการเรียกผู้ปกครองไปด้วย

น.ส.ปุณญาพร กล่าวด้วยว่า หลายครั้งที่สามีภรรยาคู่นี้ ที่ขับรถเร็วในหมู่บ้านจนฝุ่นตลบ วัยรุ่นในหมู่บ้านทักว่าให้ขับช้าๆ เมื่อเขาได้ยิน จะย้อนกลับมาว่า “มีอะไร” ถนนสาธารณะ ถ้าไม่พอใจให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น ยอมรับว่าทุกข์ใจมาก อยากให้ผู้มีอำนาจมาแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน

ด้านนายบุญยง บุตรแสง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.7 กล่าวว่า เท่าที่ทราบ น.ส.กุ้ง พาเรียกเด็กไปที่บ้านเพื่อเค้นเอาความจริง โดยไม่สนใจใคร คำพูดบางคำในคลิปเป็นการข่มขู่เด็กเพื่อบีบให้เด็กยอมรับ ส่วนการขับรถเร็วและเบิ้ลเครื่องรถในหมู่บ้าน ตนได้ทราบมาก่อน แต่เพิ่งมาเจอกับตัวเองเมื่อวันสองวันที่ผ่านมา ยอมรับฝุ่นตลบ ทั้งที่เป็นแหล่งชุมชน เคยมีการตักเตือนไปแล้ว ยอมรับว่าทำจริง แต่ยังไม่เลิกพฤติกรรม

ขณะที่ น.ส.กุ้ง เจ้าของบ้านที่ไปแจ้งความ บอกว่า ตนเองเพิ่งกลับมาอยู่บ้านที่ อ.ประโคนชัย ได้ประมาณ 6 เดือน ยึดอาชีพขายไก่ป๊อป จะออกบ้านตั้งแต่เช้า กลับเข้าบ้านประมาณ 17.00-20.00 น.ทุกวัน

ที่ผ่านมาตนได้รับความเดือดร้อนเหมือนถูกกลั่นแกล้งมาหลายครั้ง เคยถูกเอาไข่เน่ามาขว้างที่บ้าน เอกสารภายในบ้านถูกรื้อค้น เสียหายหลายรายการ นอกจากนี้ยังมีน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ถูกเอามาเททิ้งทั่วบริเวณ แต่หาตัวคนทำไม่ได้ ล่าสุดกล้วยน้ำว้าที่ซื้อมาเก็บไว้ในห้องครัวหวังจะเอามากิน หายไปทั้งหวี จนกระทั่งจับเด็กมาสอบจึงรู้ความจริงทั้งหมด

ยอมรับว่าได้เรียกค่าเสียหายคนละ 3,000 บาทจริง แต่เห็นใจลดให้ 2,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 4 รายหากไม่จ่ายจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด น.ส.กุ้ง กล่าว

ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุด น.ส.กุ้ง ได้เดินทางไปที่โรงเรียนที่เด็กเรียน จะไปขอรายชื่อของเด็กอีก 4 คน เพื่อจะให้ตำรวจออกหมายเรียกเหมือนกับ 4 คนก่อนหน้านี้ แต่โรงเรียนไม่ให้


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/XdqrE2BxhFU

คุณอาจสนใจ

Related News