สังคม

จบดรามา! ร้านหมูกระทะข้างโรงพัก เจ้าของร้านแจงชัด ขายมากว่า 19 ปี ได้รับอนุญาตผ่อนปรนอย่างถูกต้อง

โดย paranee_s

25 พ.ย. 2565

1.5K views

จบดรามา! เพจแฉร้านหมูกระทะข้างโรงพักขายบนทางเท้า ลูกสาวตำรวจ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านชี้แจงชัด ขายมาแล้วกว่า 19 ปี ได้รับอนุญาตผ่อนปรน จากเทศบาลเมืองกันตังอย่างถูกต้อง และปฏิบัติตามระเบียบทุกอย่าง


เรียกได้ว่ากำลังเป็นเรื่องราวที่มีการถกเถียงกันอย่างสนั่นบนโลกโซเซียล หลังจากที่เพจเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้มีการโพสต์ภาพร้านหมูกระทะแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง ได้เกิดขายและให้ลูกค้านั่งกินกันบนฟุตปาธติดกับรั้วหน้าโรงพักมากว่า 20 ปี อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย


ภายหลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตหลายคนพากันวิพากษ์วิจารณ์เสียงแตกสนั่น ออกเป็นสองฝั่งโดยบางกลุ่มมองว่า “เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านเมืองตรัง เพราะร้านริมทางเท้าเยอะมากและสะดวกสบายของกินอร่อย คนตรังอยู่กันได้มานานแต่ทำไมคนอื่นเข้ามาเดือดร้อนแทนกันด้วย”


นอกจากนี้ชาวเน็ตบางกลุ่มหลายคนมองว่า “เป็นการทำผิดจนเคยตัว พอบังคับใช้กฎหมายก็หาว่ารังแกคนหาเช้ากินค่ำ ทั้งที่เป็นเรื่องของระเบียบวินัย ความสะอาด ซึ่งวอนขอให้เทศบาลลงมาตรวจสอบโดยเร็วว่านี่เป็นพื้นที่ผ่อนปรนตามกฎหมาย หรือเป็นการละเลยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ”



ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ 25 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ร้านดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่บนทางเท้าติดกับรั้วข้างโรงพัก (ภายในเขตเทศบาลเมืองกันตัง) เปิดขายเวลา 17.00 น. ถึง 21.00 น. โดยพนักงานของร้านจำนวน 5 ชีวิต ต่างตระเตรียมขนย้ายข้าวของจากบ้านพักตำรวจภายในโรงพัก ออกมาจัดวางบนทางเท้า เพื่อเปิดรอรับลูกค้า และยังพบว่าบริเวณบนทางเท้า และด้านข้างยังคงมีร้านแผงลอยอื่น ๆ ตั้งขายอยู่ประมาณ 4-5 ร้าน อีกด้วย


โดยที่ผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.ภุชดาภรณ์ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน พร้อมด้วยเพื่อน ๆ พ่อค้าแม่ขายที่ค้าขายกันอยู่ได้นำใบเสร็จเบ็ดเสร็จ ที่ร้านต่างๆ รวมทั้งร้านหมูกระทะดังกล่าวจ่ายเป็นค่าที่และค่าบำรุงให้กับเทศบาลเมืองกันตัง ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ได้รับอนุญาตผ่อนปรน รวมทั้งนำใบทะเบียนพาณิชย์มาชี้แจงให้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบด้วยเช่นกัน


น.ส.ภุชดาภรณ์ กล่าวว่า ได้เห็นเรื่องราวของร้านที่มีการนำไปโพสต์กันในโลกโซเซียลแล้ว โดยร้านเปิดตรงนี้มากว่า 19 ปีแล้ว เมื่อก่อนพ่อซึ่งเป็นตำรวจในโรงพัก อายุ 56 ปี และแม่ซึ่งได้เสียชีวิตไปเป็นคนขาย


โดยตนมาร้านช่วงต่อเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตั้งแต่ต้นทางเราได้ขออนุญาตจากเทศบาลเมืองกันตังถูกต้อง ไม่ได้ตั้งร้านถาวร เป็นการผ่อนปรน อยู่ในระเบียบ เงื่อนไข และเวลาที่กำหนด และมีเจ้าหน้าที่เทศบาลและเทศกิจมาตรวจสอบ กวดขัน และดูแลอยู่ตลอด ทั้งการขายตามช่วงเวลาที่กำหนด


หลังร้านปิดก็เก็บอุปกรณ์และของทุกอย่างกลับ ทำความสะอาดพื้นที่ ซึ่งเราปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัดทุกอย่าง และมีการเก็บค่าที่และค่าบำรุงวันละ 20 บาท ซึ่งราคานี้เก็บมาตั้งแต่แม่ที่เสียชีวิตลงไปขายอยู่ หรือ 19 ปีที่ผ่านมาแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ร้านก็มีตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ ทั้งมาคู่ และมากันยกครอบครัว


น.ส.ภุชดาภรณ์ กล่าวอีกว่า ซึ่งภาพที่มีการนำไปลงในเพจต่างๆ ก็เป็นภาพที่ทางร้านถ่ายเอง หลังจากเห็นว่ามีเพจต่างๆ นำไปโพสต์จนกลายเป็นกระแส ก็รู้สึกท้อ เพราะคนโพสต์และคนคอมเมนต์ไม่ใช่คนในพื้นที่ ที่ไม่มีข้อมูล หรือรับรู้เรื่องจริงๆ เพราะนี่คือวิถีของคนที่นี่ และทุกอย่างก็ดำเนินตามระเบียบของเทศบาลฯ แต่ก็เข้าใจทุกคนว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์


น.ส.ภุชดาภรณ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนที่คุณพ่อเป็นตำรวจ คือเรื่องจริง เพราะตนก็คือลูกของพ่อที่มีอาชีพเป็นตำรวจ ทางผู้บังคับบัญชาของคุณพ่อก็ใจดี มีการแนะนำให้เก็บกวาดสถานที่ให้สะอาดเรียบร้อยมาโดยตลอด เพื่อทำมาหากิน ตามระเบียบของเทศบาลฯ หากจะให้ขยับขยายหรือย้ายที่เราก็ยินดี และไม่ใช่ว่าจะขายอยู่ตรงนี้ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน โดยมีการตั้งเป้าไว้ว่าหากพ่อเกษียณอายุราชการจากการเป็นตำรวจ ก็จะย้ายที่และพยายามหาที่หาทางอยู่ตลอด เพราะตอนนี้ก็อาศัยอยู่บ้านพักข้าราชการตำรวจอยู่


น.ส.ภุชดาภรณ์ กล่าวปิดท้ายว่า ส่วนตัวตนเรียนจบระดับชั้น ป. 6 เพื่อทำงาน ภาระความรับผิดชอบตอนนี้ก็ต้องส่งเสียเลี้ยงดูน้องสาวจำนวน 2 คน ซึ่งเรียนอยู่ระดับปริญญาตรี และต้องเลี้ยงดูลูกของตัวเองอีก 2 คน และค่าแรงของพนักงานในร้านอีก 5 ชีวิต


ร้านนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงครอบครัวและลูกน้องสุดท้ายก็อยากขอความเห็นใจโซเซียล ช่วยเอ็นดูหนูหน่อย เราทำถูกต้อง และต้องเลี้ยงหลายชีวิต และอยากให้ทุกคนมาลองกิน มาลองเที่ยว อ.กันตังดู จะได้รู้และได้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนที่นี่

คุณอาจสนใจ

Related News