ด.ญ.วัย 14 ผวาโดนอดีตทหาร ยิงปืนใส่หน้าบ้าน กระทบจิตใจหนัก ซ้ำผู้ก่อเหตุได้ประกันตัว

วานนี้ (14 พ.ย. 65) เวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านดังแห่งหนึ่ง ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจาก นายณัฐนัย อายุ 45 ปี ถึงการทำงานของตำรวจที่ไม่ชอบมาพากล

จากกรณี เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุถูกอดีตทหารอายุประมาณ 58-60 ปี ใช้ปืนลูกโม่ขนาด .357 แบบหัวระเบิดยิงใส่บริเวณหน้าบ้านระยะ 3 เมตร จำนวน 2 นัด ซึ่งในขณะเกิดเหตุมีเด็กอายุ 9-14 ปี จำนวน 5 คน ซึ่งเป็นลูกและหลานกำลังเล่นอยู่พอดี โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่เพื่อนลูกสาวมีอาการหวาดผวา และจะร้องไห้ทุกครั้งที่มีคนพูดถึงเหตุการณ์นี้ จนผู้ปกครองต้องพาตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการทางจิตใจ

โดยนายณัฐนัย เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.40 น.วันที่ 12 พ.ย. ตนเลิกงานกลับมาก็ได้ออกมาเล่นกับลูกและหลานบริเวณหน้าบ้านของตน ต่อมาเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นอดีตทหารได้ออกมาพร้อมกับถือปืนลูกโม่ขนาด.357 และทำการยิงใส่ตนทันที

โดยกระสุนนัดแรกยิงผ่านตนเข้าไปในบ้าน โดนกำแพงบ้านจนทะลุเข้าไปด้านในตัวบ้าน นัดที่สองเข้าไปที่บริเวณคานหลังคาบ้าน กระสุนแตกกระจายไปกระทบส่วนอื่นๆ ของบ้าน โชคดีที่ไม่โดนเด็กๆ ที่กำลังเล่นอยู่หน้าบ้าน

ตอนที่โดนยิงนัดแรก เด็กๆ วิ่งแตกตื่นกันไปคนละทิศคนละทาง ตอนนั้นไม่รู้ว่ามีใครโดนยิงไหม เพราะลูกของตนและเพื่อนล้มอยู่บริเวณหน้ารถ ส่วนเด็กๆ อีก 3 คนวิ่งไปทางข้างหลัง แล้วไปสลบอยู่บริเวณหน้าบ้านข้างๆ

ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีปัญหากัน เรื่องที่คู่กรณีชอบให้อาหารแมวจรจัด แล้วแมวชอบมาขี้มาเยี่ยวหน้าบ้านของตน ถ้าแมวตัวสองตัวก็ไม่ว่าอะไร แต่นี่แมวเกือบ 10 ตัว เขาให้อาหารทุกวัน พอแมวไปขับถ่ายใส่หน้าบ้านคนอื่น เขาก็ไม่รับผิดชอบ จนเคยมีปากเสียงกันมาแล้วครั้งหนึ่ง กระทั่งล่าสุด ถึงขนาดเอาปืนออกมายิง แถมยังมีเด็กๆ เล่นอยู่หน้าบ้านอีก หลังเกิดเหตุได้เดินทางเข้าไปแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง

และสามารถตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทันทีในคืนวันเดียวกัน โดยทางตำรวจได้ทำการแจ้งข้อหาทั้งหมด 2 ข้อหา คือ พยายามฆ่าและยิงปืนในที่สาธารณะ ก่อนจะให้ประกันตัวในชั้นโรงพักออกไป ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก

เนื่องจาก หลังจากแจ้งความแล้วตำรวจไม่ได้ให้เอกสารทางราชการอะไรกับตนมาเลย ไม่ว่าจะเป็นบันทึกประจำวัน หรือเอกสารการแจ้งความดำเนินคดี มีแต่ให้ตนเซ็นเอกสารอะไรก็ไม่รู้ จะขออ่านรายละเอียดก็ไม่ให้อ่าน จะให้เซ็นอย่างเดียว

แถมตอนนี้ คู่กรณีเก็บของออกจากบ้านไปแล้ว ไม่รู้ว่าหนีรึเปล่า ก็อยากให้ตำรวจช่วยทำงานอย่างตรงไปตรงมา อย่าเข้าข้างใครใครทำผิดก็ว่ากันตามผิด ดำเนินคดีไปตามกฏหมาย

ด้านนายอวิรุธ อายุ 39 ปี ผู้ปกครองของ ด.ญ.โปกัส อายุ 14 ปี ซึ่งตอนนี้มีอาการทางจิตจนต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล กล่าวว่า ตอนนี้ตนรู้สึกแย่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนมองว่าเรื่องบางเรื่องมันสามารถคุยกันได้

และเหตุการณ์นี้ ถ้าหลานของตนต้องถึงขนาดเป็นเด็กจิตตก หรือถึงขนาดเสียสติไป หรือขั้นร้ายแรงอาจจะเสียชีวิตใครจะรับผิดชอบ จริงๆแล้วตนก็อยากรู้ว่าสิ่งที่เขาทำถูกต้องไหม เด็กผิดก็ว่าไปตามผิดก็ลงโทษ ว่ากล่าวตัดเตือนกันไป แต่ถึงขนาดเอาปืนออกมายิงถึงแม้เขาจะหวังผลกับคนอื่น แต่บริเวณนั้นมีเด็กๆ อยู่ด้วย แถมอยู่กันหลายคน และระยะมันใกล้มาก ถ้าโดนเด็กไป อนาคตเขาจะเป็นยังไง เขาเป็นอดีตทหารเขาน่าจะมีสามัญสำนึกที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะยกปืนขึ้นมาเล็งใส่ประชาชนแบบนี้

ส่วนอาการ ด.ญ.โปกัส ตอนนี้พาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาแล้ว เบื้องต้น เมื่อคืนที่ผ่านมาน้องยังมีอาการผวาขั้นรุนแรง ถ้าพูดถึงเรื่องปืน หรือพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะมีอาการร้องไห้ ผวา และหวาดกลัวมาก

เมื่อช่วงเช้าก่อนจะพาไปหาหมอ น้องมีอาการซึมๆ เหม่อลอย กินข้าวได้น้อย ไม่ค่อยพูด ทั้งที่แต่ก่อนน้องเป็นเด็กที่ร่าเริงมาก ซึ่งวันนี้หลังจากน้องกลับจากโรงพยาบาลแล้วอาการไม่ดีขึ้นตนก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดี
-------------