สิ้น “หลวงปู่รอด อาภสฺสโร” เกจิดังแห่งอีสานใต้

              “หลวงปู่รอด อาภสฺสโร” เกจิดังแห่งอีสานใต้ เจ้าอาวาสวัดโคกกรม ต.จีกแตก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์  มรณภาพแล้ว เมื่อเวลา 23.15 น. วานนี้ (10 พ.ย.)  ที่โรงพยาบาลพนมดงรัก  จ.สุรินทร์ ด้วยอาการวูบจากพักผ่อนน้อยและโรคประจำตัว คืออาการเส้นเลือดหัวใจโป่งพอง  สิริอายุได้ 77 ปี 55 พรรษา โดยลูกศิษย์นำสรีระสังขารกลับมาที่วัดโคกกรมแล้ว และมีประชาชนที่ทราบข่าว พากันมกราบไว้อาลัยหลวงปู่ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า

         พระครูปริยัติบุญญาทร รองเจ้าคณะตำบลโคกกลาง และเจ้าอาวาสวัดโนนสมบูรณ์ เปิดเผยว่า ทราบจากพระลูกศิษย์ที่ดูแลหลวงปู่ ว่าเมื่อคืนนี้ หลวงปู่ตะโกนร้องเรียก พระลูกศิษย์จึงไปหาท่านในห้องที่อยู่ใกล้กัน  แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไป พบหลวงปู่ล้มอยู่กับพื้น จึงเข้าไปประคองและนำหลวงปู่ส่งโรงพยาบาลพนมดงรักทันที  เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แพทย์ได้พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่  จนเวลาประมาณ 22.44 น. เท้าหลวงปู่เย็นไม่มีอาการตอบสนอง  จึงบอกแพทย์ให้หยุดการรักษา เนื่องจากหลวงปู่จากไปแล้ว  จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ถอดสายต่างๆ และเครื่องช่วยหายใจออก

           หลวงปู่ป่วยด้วยอาการเส้นเลือดหัวใจโป่งพองมากว่า 10 ปี  เคยไปรักษาอยู่หลายโรงพยาบาล แต่หลวงปู่ท่านไม่นอนโรงพยาบาล  เอาแต่ยามากิน  ประกอบระยะหลัง หลวงปู่มีกิจนิมนต์เยอะ พักผ่อนน้อย

          สำหรับบรรยากาศที่วัดโคกกรม  ทางลูกศิษย์และคณะกรรมการวัดกำลังประชุมเตรียมจัดพิธีศพของหลวงปู่  โดยมีประชาชนที่ทราบข่าว ทยอยเดินทางมากราบลาหลวงปู่ที่วัดด้วย

           “หลวงปู่รอด อาภสฺสโร”  มีชื่อเดิมว่า บุญรอด ทะลัยรัมย์ เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2488   ที่บ้านระกาไกรสร ตำบลเพี้ยราม อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์  หลวงปู่เป็นลูกคนโตในจำนวนพี่น้อง 3 คน  ในวัยเด็กหลวงปู่สุขภาพไม่แข็งแรง แม่จึงตั้งชื่อให้ว่าบุญรอด  บวชเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 13 ปี ก่อนจะบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อปี พ.ศ.2510 ที่วัดศิรินทราราม จ.สุรินทร์

            หลวงปู่รอดเป็นที่เคารพศรัทธาจากชาวบ้าน ทั้งในด้านความเมตตา ด้านตำรับยาสมุนไพร  ด้านวัตถุมงคลของขลัง โดยเฉพาะรุ่นที่ทำไว้แจกทหาร-ตำรวจที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ในภาคใต้   ท่านจึงมีลูกศิษย์มากมาย ทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และนักการเมืองชื่อดังหลายคน  ท่านยังทำงานช่วยเหลือสังคมและพระพุทธศาสนา เช่น สร้างวัด สร้างอาคารโรงพยาบาล จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์  และช่วยเหลือโรงเรียน

                ก่อนที่ท่านจะมาเป็นเจ้าอาวาสวัดโคกกรมนั้น ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดระกาไกรสร และมักธุดงค์ไปตามป่าลึก  แต่มีการลักลอบตัดไม้พะยูงที่วัดโคกกรม ชาวบ้านจึงนิมนต์ท่านมาเป็นเจ้าอาวาส เพื่อดูแลรักษาวัดโคกกรม ซึ่งท่านได้พัฒนาวัดจนมีความเจริญขึ้นมาก