สังคม

สาวอุทัยฯ โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเป็นสรรพากร ดึงเงินเกลี้ยงธนาคาร ซ้ำกู้เงินบัตรเครดิต สูญ 2.3 ล้าน

โดย thichaphat_d

3 พ.ย. 2565

365 views

วานนี้ (2 พ.ย. 65) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบชาวบ้านรายหนึ่งในพื้นที่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกโอนเงินในบัญชีธนาคารของตนเอง ไปจนเกลี้ยงบัญชี ซ้ำยังเข้าไปทำธุรกรรมกู้เงินของธนาคารอีกด้วย สูญเงินไปกว่า 2,263,778.55 บาท ทำให้ตอนนี้ทุกข์ใจหนักมาก สูญเงินหมดตัว และยังต้องมาเป็นหนี้ธนาคารอีกล้านกว่าบาท


โดย น.ส.ดวงพร อายุ 35 ปี เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา มีสายโทรศัพท์โทรเข้ามาว่า เป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากร แจ้งว่าร้านขายส่งเหล้า บุหรี่ ของพ่อตนเอง ที่อยู่ในพื้นที่ อ.ลานสัก ยังคาอยู่ในระบบ ซึ่งร้านดังกล่าวเป็นร้านเก่าที่พ่อของตนเองนั้นปิดไปแล้ว


ตนจึงแจ้งไปว่า ร้านนั้นปิดไปนานแล้วนะ แต่ทางนั้นยังยืนยันว่า 'ยังอยู่ในระบบ' ให้เข้าไปกรอกรายละเอียดในระบบ เพื่อให้ทางกรมสรรพากรดึงข้อมูลร้านค้าเก่าออกให้


ผู้เสียหายยังได้ถามกลับไปว่า แต่ร้านเป็นชื่อพ่อ ต้องให้พ่อเป็นคนดำเนินการไหม อีกฝ่ายบอกว่าสามารถทำแทนได้ เพราะเป็นคนเสียภาษีแทนพ่ออยู่แล้วใช่ไหม พอทางนั้นพูดมาแบบนี้ ตนจึงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากรตัวจริง เพราะปกติตนก็ไปดำเนินการเรื่องเสียภาษีแทนพ่ออยู่เสมอ


จากนั้น จึงได้สอบถามรายละเอียดขั้นตอนว่าต้องทำยังไง คอลเซ็นเตอร์บอกว่าให้แอดไลน์ ซึ่งพอแอดไปก็ขึ้นเป็นโลโก้ของกรมสรรพากร จึงยิ่งเชื่อไปอีก จากนั้นเขาก็ส่งลิงก์มาให้กดเข้าไปโหลดแอปที่อ้างว่าเป็นแอปของกรมสรรพากรสำหรับทำธุรกรรม ต่อไปไม่ต้องไปถึงสำนักงานแล้ว เป็นแอปที่คนในเมืองทำกัน เดี๋ยวนี้เป็นแบบนี้หมดแล้ว ซึ่งคำพูดดังกล่าวก็คล้ายกับที่เจ้าหน้าที่สรรพากรเคยแจ้งเมื่อครั้งไปเสียภาษีครั้งที่ผ่านมา


หลังจากโหลดแอปซึ่งเป็นโลโก้ของกรมสรรพากร ก็เข้าไปกรอกรายละเอียด ซึ่งมีชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ซึ่งเบอร์ที่กรอกไปก็ไม่ใช่เบอร์ที่ผูกกับบัญชีธนาคา รแต่เป็นเบอร์ที่แจ้งไว้กับกรมสรรพากร เวลาที่ไปจ่ายภาษี ทำให้นอนใจว่า ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะทางนั้นก็ไม่ได้ขอเลขบัตรประชาชนอะไรเพิ่ม


แต่พอกรอกข้อมูลเสร็จ ปรากฏว่าเกิดความผิดพลาดเข้าระบบไม่ได้ คอลเซ็นเตอร์ถามว่า “ยังอยู่หน้าจอไหม เข้าทำในระบบไม่ได้ใช่ไหม แคปหน้าจอมาให้ดูหน่อย” จากนั้นแจ้งกลับว่าให้ตั้งค่าภายในเครื่อง และอนุญาตให้เข้าถึงแอปที่ไม่รู้จัก และระบบของเครื่องมือถือ


พอทำตามที่แจ้งมา ในหน้ามือถือก็ขึ้นรหัสแอปดังกล่าวมา 6 หลัก ให้แจ้งอีกฝ่ายไป ตนได้แจ้งไป จากนั้นคอลเซ็นเตอร์บอกให้รอ กำลังทำการดึงข้อมูลออกระบบให้ ประมาณ 20 นาที แล้วให้เข้าไปเช็กว่าเรียบร้อยไหม หลังจากนั้นมือถือของตนก็ทำอะไรไม่ได้อยู่สักพัก ค้างอยู่หน้าแอปนั้น ซึ่งขึ้นว่า 'กำลังตรวจสอบ'


ผู้เสียหาย เผยต่อว่า ตอนนั้นเริ่มใจไม่ดีแล้ว คิดว่าไม่ใช่เงินหายไปหมดบัญชีนะ แล้วพยายามกดมือถือจนกลับมาใช้ได้ ปรากฏว่า เมื่อเข้าไปดูในแอปธนาคารที่ 1 ซึ่งมียอดเงินอยู่ 932,801 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ใช้หมุนเวียนขายของนั้น หายไปเกลี้ยงบัญชี


จากนั้นก็พบว่า เงินในบัญชีธนาคารที่ 2 ซึ่งเป็นเงินที่ใช้กู้ลอยไว้ผ่านบัตรเครดิต เพื่อเอาไว้ใช้ฉุกเฉิน เวลาลงของ ซึ่งตนเองไม่ค่อยได้ดึงมาใช้ เพราะเสียดอกเบี้ยค่อนข้างสูง ก็ถูกเปลี่ยนจากเงินกู้ โอนมาเป็นเงินสด โอนเข้ามาภายในบัญชีของตนเอง ก่อนทำการโอนไปที่บัญชีอื่นทันที ด้วยกัน 2 ยอด ยอดแรกจำนวน 994,977.4 บาท และยอดที่สองอีกจำนวน 336,000 บาท ซึ่งทั้ง 2 ยอดนั้น ไม่เคยมีการแจ้งเตือน หรือมีเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรศัพท์มาสอบถามตนเองเลยว่า ได้เป็นคนทำธุรกรรมดังกล่าวนี้ไหม


หลังรู้ตัวว่าถูกหลอก ตั้งสติได้ ก็รีบโทรศัพท์ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ให้ช่วยอายัดบัญชีดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ทำการตรวจสอบข้อมูล และแจ้งว่า เงินในบัญชีดังกล่าวถูกโอนย้ายไปบัญชีต่างธนาคารจนหมดแล้ว ซึ่งเกินอำนาจหน้าที่ของธนาคารที่จะไปทำการอายัดบัญชีต่างธนาคารให้ได้ และแนะนำให้ตนเองไปแจ้งความเพื่อดำเนินการแทน


จากนั้นตนก็ไปแจ้งความที่ สภ.ลานสัก ทันที ทางตำรวจก็รับแจ้งความ และช่วยดูข้อมูลบัญชีเบื้องต้น ซึ่งหลังจากตรวจสอบบัญชี ที่ถูกโอนเงินไปนั้นพบว่า เป็นบัญชีม้าของเด็กหญิงอายุ 16 ปี อยู่ใน จ.สระบุรี


ทางตำรวจ สภ.ลานสัก ก็ได้แนะนำให้ตนเองไปแจ้งความยัง สภ.ที่เกิดเหตุ เพื่อให้การดำเนินการรวดเร็วกว่า ตนเองจึงไปแจ้งความที่ สภ.บ้านไร่ ทางตำรวจก็รับเรื่องแจ้งความ โดยทำการลงเรื่องแจ้งความออนไลน์ เพราะต้องผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ ให้เข้ารับเรื่องดังกล่าว


โดยตนเองได้คิวรับเรื่องวันที่ 8 พ.ย.65 เวลา 08.00 น. ที่ สภ.บ้านไร่ ซึ่งตอนนี้ก็ร้อนใจมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามช่องทางการเงินดังกล่าวให้เร็วที่สุด ยังมีความหวังน้อยนิดว่า จะได้เงินคืนมาบ้าง ทุกข์ใจมากที่ตอนนี้เงินก็หมดตัว และยังต้องมาเป็นหนี้ธนาคารอีกกว่า 1 ล้านบาท ตนเองก็เป็นโรคหัวใจ ต้องใช้เงินซื้อยานอกกินรักษาตัว ตอนนี้ทุกข์ใจมากๆ

-------------




คุณอาจสนใจ

Related News