สังคม

สลด หนูน้อยวัย 10 วัน จมน้ำในกะละมังดับ แม่เผย ตนพาลูกอาบน้ำแล้ววูบ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแทบขาดใจ

โดย kanyapak_w

2 พ.ย. 2565

17.9K views

เศร้าสลด หนูน้อยวัย 10 วัน จมน้ำในกะละมังดับ หลังผู้เป็นแม่ระบุเป็นลมวูบหลับไปไม่ต่ำกว่า 15 นาที ในระหว่างขณะกำลังอาบน้ำให้ลูก ก่อนจะรู้สึกตื่นพบลูกแน่นิ่งอยู่ในน้ำแล้ว รีบแจ้ง 1669 และปั้มหัวใจแต่สุดยื้อ



เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ 1 พ.ย. 65 ร.ต.ท.(หญิง) เกวลิน ชัยรัตน์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งจาก รพ.ตรัง ให้เข้าชันสูจน์พลิกศพร่างหนูน้อยวัย 10 วัน เสียชีวิตจากการจมน้ำ เหตุเกิดมาจากบ้านหลังหนึ่ง บ้านบางหมากน้อย ต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง เข้าพิมพ์ลายนิ้วมือ และร่วมกันชันสูจน์พร้อมด้วยแพทย์เวร เมื่อไปถึงพบร่าง ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 10 วัน นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง พบบรรดาญาติและครอบครัวอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ แพทย์พยาบาลได้ทำการตรวจร่างกาย น.ส.นวลจันทร์ อายุ 24 ปี แม่ของน้องพบค่าต่างๆของร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติดี



น.ส.นวลจันทร์ ผู้เป็นแม่ เล่าว่า ตนเองมีลูกสาว 2 คน คนโตอายุ 4 ขวบ ส่วนคนเล็กคือ ด.ญ. เอ อายุ 10 วัน ช่วงเช้าของวันนี้ (1 พ.ย.) ตนเองพร้อมกับครอบครัว ได้พาน้องเอไปส่งสามีขึ้นรถ เนื่องจากสามีต้องไปประจำการเป็นทหารเกณฑ์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจึงกลับมาที่บ้านโดยที่คนในครอบครัวไม่มีใครอยู่ มีเพียงตนและน้องโซเฟีย 2 คน โดยที่ก่อนหน้านั้นตนรู้สึกมึนหัว คล้ายจะเป็นลมมาตลอด ก่อนจะนำน้องเอไปอาบน้ำ ในห้องน้ำ โดยนำน้ำใส่กะละมัง ซึ่งระดับน้ำในกะละมังสูงประมาณสะเอวของน้องเอ หากน้องเอนั่งในกะละมัง โดยที่ตนนั่งยองๆและใช้มืออาบน้ำให้ลูก ได้ไม่ถึงประมาณ 2 นาที



น.ส.นวลจันทร์ เล่าว่า ตนวูบและหลับลงไปไม่รู้สึกตัว และไม่รู้ด้วยว่าหลับไปกี่นาที แต่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 15 นาที จนกระทั่งรู้สึกตื่นขึ้นมา ตนนอนอยู่ข้างกะละมัง ก็รีบลุกไปดูลูก พบว่านอนแน่นิ่งตะแคงอยู่ในกะละมังแล้ว จึงรีบยกลูกขึ้นมา พบว่าไม่หายใจ ตัวซีด ที่ท้องรวมทั้งเส้นเลือดเริ่มมีสีคล่ำ ท้องป่อง จึงรีบโทรแจ้งรถโรงพยาบาล (1669) พร้อมทั้งโทรแจ้งครอบครัว ก่อนที่ทางทีมหน่วยกู้ชีพจะแนะนำปั้มหัวใจ (ซีพีอาร์) และเป่าปากให้ลูก จนกระทั่งรถโรงพยาบาลมารับ และพยายามช่วยยื้อชีวิตน้องเอมาตลอด จนถึง รพ. แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้ ลูกได้เสียชีวิตลงแล้ว



น.ส.นวลจันทร์ เล่าอีกว่า ซึ่งตนยอมรับว่าวันนี้ที่ไปส่งสามีไปทหารอากาศร้อนมาก แถมตนเพิ่งคลอดลูกมา เกิดอาการเวียนศีรษะ ซึ่งทำให้วูบในครั้งนี้ ซึ่งไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้ เคสนี้จึงอยากฝากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคุณแม่ที่เพิ่งจะคลอดลูกขอให้ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีๆ หากมีอาการผิดปกติกับร่างกาย อย่าเก็บอาการ ให้บอกคนใกล้ชิดหรือไปพบแพทย์



ขณะที่ นายอนันต์ อายุ 60 ปี อาชีพวิน จยย.รับจ้าง พ่อของน.ส.นวลจันทร์ และเป็นตาของน้องเอ บอกว่า ปกติบ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่กันประมาณ 7-8 ชีวิต หลังจากไปส่งลูกเขยซึ่งเป็นพ่อของน้องเอ กลับมาที่บ้านแล้ว ตนกับภรรยาได้ออกไปธุระข้างนอก ส่วนคนอื่นๆ ก็ไปทำงานและไปโรงเรียนกัน มีเพียงลูกสาวและน้องเออยู่กัน 2 คน จนกระทั่งลูกสาวโทรมาบอกว่าวูบหลับไป ส่วนน้องเอนอนแน่นิ่งไปแล้ว ซึ่งในละแวกบ้านไม่มีบ้านของใครหากเลย มีก็อยู่ห่างไปกว่า 500 เมตร



นายอนันต์ กล่าวอีกว่า ลูกสาวก็บอกไม่ได้ว่าวูบหลับไปกี่นาที แต่เท่าที่ทราบเมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. ลูกสาวยังอ่านไลน์อยู่ และมาโทรแจ้งรถโรงพยาบาลเวลาประมาณ 15.30 น. โดยอยากฝากเตือนว่าถ้าคนมีลูกอ่อน หากมีอาการมึนหัวหรือผิดปกติ พยายามหลีกเลี่ยง การอยู่ในที่อันตรายเช่นใกล้น้ำ ให้ไปอยู่บนที่นอนหรือที่อื่นๆ เสียดีกว่า ซึ่งครั้งนี้หากลูกสาวเสียชีวิตไปด้วยจะทำใจกันยังไง



เบื้องต้นจากการชันสูจน์พลิกศพไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย ส่วนทางญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต จึงไม่ได้ส่งร่างไปชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.โดยทางพนักงานสอบสวนได้มอบร่างให้กับทางญาติ โดยทางญาติได้ติดต่อขอเก็บร่างน้องเอไว้ที่ รพ.ตรัง จำนวน 1 คืน เพื่อปรึกษากับทางญาติในการเตรียมบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป




คุณอาจสนใจ

Related News