เปิดใจหนุ่มลูกครึ่งไทย-สกอตแลนด์ ว่ายข้ามทะเลไปกลับกว่า 30 กม.

กรณีโลกโซเชียลมีเดีย แชร์ภาพหนุ่มรายหนึ่งจากเฟซบุ๊ก Psi Scott ขณะกำลังว่ายน้ำอยู่กลางทะเล พร้อมแผนที่เส้นทางว่ายน้ำ จากหาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ข้ามไปยังเกาะปอดะ ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากหาดอ่าวนาง ประมาณ 15 กม.

ล่าสุดวันที่ 31 ต.ค. 65 ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังนายสิรณัฐ หรือ ทราย สก๊อต อายุ 26 ปี หนุ่มชาว กทม. เป็นลูกครึ่งไทย-สกอตแลนด์ คุณพ่อเป็นชาวสกอตแลนด์ ส่วนคุณแม่เป็นคนไทย

นายสิรณัฐ เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนเริ่มว่ายน้ำจากหาดอ่าวนาง ไปยังเกาะปอดะ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ก่อนจะว่ายกลับเข้าถึงฝั่งหาดอ่าวนางในช่วงเย็นเวลา 16.30 น. ระยะทางที่ว่ายไปกลับน่าจะเกิน 30 กม. เพราะหากดูตามแผนที่จะเห็นว่าระยะทางประมาณ 15 กม. รวมไปกลับน่าจะ 30 กม. แต่ตนต้องว่ายหนีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้ระยะทางอาจจะเพิ่มขึ้น

ส่วนที่ตัดสินใจว่ายน้ำ ไม่ได้อยากจะให้เป็นกระแสแต่อย่างใด เพราะตนเป็นคนชอบกีฬาว่ายน้ำอยู่แล้ว ตั้งแต่เกิดก็เริ่มหัดว่ายน้ำจนช่วงหนึ่งได้เป็นนักกีฬาว่ายน้ำ แต่ไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อกลับมาอยู่เมืองไทย ก็ชอบเที่ยวทะเล จึงลองมาเที่ยวทะเลอันดามัน หลงรักเพราะที่นี่สวยงามมาก จึงลงมาทำกิจกรรมอนุรักษ์ทางทะเลร่วมกับชาวบ้านในชุมชน ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และกระบี่ ทำงานด้านอนุรักษ์อยู่นาน 3 ปีแล้ว ด้วยการร่วมกิจกรรมเก็บขยะใต้ทะเล หรือไปกู้ซากอวนต่าง ๆ เพราะตนมีความพร้อมด้านร่างกาย และว่ายน้ำแข็ง จนเพื่อน ๆ ที่ร่วมกิจกรรมอนุรักษ์ตั้งฉายาให้ว่า "มนุษย์เงือก"

น้องทราย เล่าอีกว่า การว่ายน้ำข้ามไปเกาะปอดะ ตนตั้งใจที่จะว่ายน้ำเพื่อทำลายสถิติตัวเอง เพราะเมื่อวันที่ 6 ส.ค.64 เป็นวันเกิด และตนเคยว่ายน้ำไปที่เกาะปอดะ มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนั้นไม่ได้ว่ายกลับ ครั้งนี้จึงอยากลองว่ายแบบไปกลับ และก็ทำได้สำเร็จ โดยมีเพื่อน ๆ คอยขับเรือเคียงข้างไปตลอดทาง ซึ่งการว่ายน้ำที่ตนทำ เพราะตนเป็นคนที่รักทะเล และรักสัตว์ทะเล เคยเห็นสัตว์ทะเลต้องตายลงเพราะไปกินขยะพลาสติก จึงอยากสมมัติตัวเองเป็นสัตว์ทะเล ที่ต้องว่ายน้ำอาศัยอยู่ในทะเลว่าเค้ามีความรู้สึกอย่างไร โดยเฉพาะช่วงฤดูที่มีขยะลอยในทะเลมาก ๆ อยากรู้ว่าสัตว์ทะเลต้องใช้ชีวิตลำบากแค่ไหนถ้ามีขยะลอยอยู่ในทะเล และส่วนหนึ่งอยากเชิญชวนให้ทุกคน ช่วยกันรักษาท้องทะเลไทยไว้ เพราะที่นี่สวยที่สุดแล้ว อยากให้ทุกคนได้ลองมาเที่ยว มาสัมผัสความสวยงามของท้องทะเลอันดามัน และช่วยกันรักษาไว้ด้วย ส่วนเป้าหมายต่อไปที่ตนอยากว่ายน้ำทำสถิติ อาจจะดูไกลไปหน่อย เพราะอยากว่ายไปเกาะพีพี หรืออาจจะเกาะห้อง ในทะเลกระบี่ แต่ก็ต้องเตรียมความพร้อมของร่างกายก่อน