หนุ่มขโมยแป้งเย็น 35 บาท ตำรวจจะพาไปโรงพัก ก่อนหนีจากรถ กระโดดลงเจ้าพระยา ว่ายน้ำข้ามอีกฝั่ง

วันนี้ (29 พ.ค.) พ.ต.ท.พลประชา ธรรมาโชติวงศ์ สารวัตรปราบปราม สภ.พระประแดง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสภพระประแดง มีเหตุลักทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อโลตัส ท่าน้ำพระประแดง พนักงานของร้านควบคุมตัวไว้ จึงได้เดินทางไปที่เกิดเหตุเพื่อรับตัวผู้ก่อเหตุนายพิชิตชัย อายุ 32 ปี อยู่ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลางแป้งเย็น 1 กระป๋องมูลค่า 35 บาท

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้คุมตัวขึ้นรถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางมาที่ สภ.พระประแดง พอมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุทางลงท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองพระประแดง ผู้ก่อเหตุได้กระโดดลงจากรถไปพร้อมกุญแจมือที่ใส่ไว้และวิ่งหนีลงไปที่บริเวณท่าเทียบเรือและขึ้นเรือเพื่อไปหยิบห่วงยางชูชีพ ที่อยู่ติดกับเรือข้ามฟาก แล้วกระโดดลงในแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่ตามมาอย่างกระชั้นชิด พยายามเรียกพูดคุยให้ขึ้นมาจากแม่น้ำ แต่นายพิชิตชัย ไม่ยอมขึ้นมาจากแม่น้ำจึงลอยคออยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา จนมีเรือหางวิ่งมาเจอ จึงได้ช่วยเหลือขึ้นมาบนเรือและนำไปส่งที่บริเวณศาลปู่เจ้าสมิงพรายริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งปู่เจ้าสมิงพราย เพื่อไปหาแฟนสาว ที่พักอาศัยอยู่ในอาคารพักของโรงพยาบาลพระประแดงหรือสถาบันราชประชา

จากนั้นนายพิชิตชัย จึงได้หลบหนีเข้าไปที่อาคารพักของผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลพระประแดง(สถาบันราชประชา)จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สำโรงใต้ ไล่ติดตามและสามารถจับกุมตัวนายพิชิตชัย ได้บริเวณในอาคารราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นอาคารปูนสูง 5 ชั้น พบซ่อนอยู่ชั้นล่างใต้บันได

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปสภ.พระประแดง จึงได้คุมตัวนายพิชิตชัย ผู้ก่อเหตุมาที่สภ.พระประแดง เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และแจ้งข้อกล่าวหา 1.ลักทรัพย์ผู้อื่น 2.หลบหนีการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ จากนั้นชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายมานิตย์ อายุ 51 ปี คนขับเรือข้ามฟากผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนกำลังขับเรือเข้าฟากจู่ๆมีผู้ก่อเหตุวิ่งมาและกระโดดขึ้นเรือพร้อมกับหยิบห่วงชูชีพ และวิ่งไปด้านหน้าของเรือ จากนั้นมีเจ้าหน้าตำรวจวิ่งตามลงมา ทางผู้ก่อเหตุจึงได้กระโดดลง แม่น้ำเจ้าพระยา ตนจึงพยายามที่จะเข้าไปช่วย แต่ทางผู้โดยสารไม่ยอม ตนจึงปล่อยให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

นายพจนา อายุ 71 ปี คนขับรถที่ไปช่วยขึ้นมาจากน้ำ เล่าว่า ตนขับเรือมาจากฝั่งสะพานกาญจนาภิเษก จนมาถึงใกล้จุดเกิดเหตุ เห็นมีห่วงยางและคนกำลัง คล้ายจะจมน้ำ แต่จังหวะนั้นมีเรือข้ามฟาก ที่อยู่ใกล้เคียง เหมือนจะเข้าไปช่วย แต่จากที่ดูก็ไม่ได้เข้าไปช่วย และมีชาวบ้านแถวนั้นตะโกนให้ตนเข้าไปช่วย ตนจึงรีบขับเรือเข้าไป และมีผู้โดยสารมาด้วยกันประมาณ 7 ถึง 8 คน จึงได้กันช่วยเหลือ นำตัวขึ้นมา ซึ่งที่แรกไม่เห็นว่าผู้ก่อเหตุสวมกุญแจมือ หลังจากนำตัวขึ้นมาจากน้ำ ผู้ก่อเหตุก็นั่งนิ่งไม่พูดคุยกับใคร หลังจากนั้น ทางผู้ก่อเหตุ ขอให้ตนพาไปส่งที่อีกฝั่ง ซึ่งเป็นฝั่งปู่เจ้าสมิงพราย จากนั้นทางผู้ก่อเหตุ ได้กระโดดลงเรือไปและว่ายน้ำขึ้นไป ตนจึงพาผู้โดยสารที่เหลือเข้าฝั่งพระประแดง และมาทราบทีหลังว่า คนที่ตนไปส่งนั้นเป็นผู้ก่อเหตุหลบหนีคดี

พ.ต.ท.พลประชา กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุพระประแดงว่ามีชาวบ้าน แจ้งมาว่า เมืองเด็ดหลักทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อ ภายในตลาดพระประแดง ตำรวจจึงรีบเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งทางพนักงานร้านสะดวก สามารถจับกุม ผู้ก่อเหตุได้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงรับมอบตัวและได้นำตัวมาที่ สภ.พระประแดง ระหว่างการเดินทาง ทางผู้ก่อเหตุได้ใช้กลอุบายในความหลอกล่อเจ้าหน้าที่ จนเจ้าหน้าที่หลงเชื่อ และวิ่งหลบหนีไปทางโป๊ะเรือท่าน้ำพระประแดง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้พยายามวิ่งตาม จนผู้ก่อเหตุจนตัว จึงได้กระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมห่วงยางของเรือข้ามฟาก และให้ลอยคอไปจนถึงกลางแม่น้ำเจ้าพระยาและมีเรือหางยาวรับจ้างผ่านมาพอดี ทางผู้ก่อเหตุจึงได้ขอขึ้นเรือ และข้ามไปอีกฝั่งซึ่งเป็นฝั่งปู่เจ้าสมิงพราย จึงได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรอีกฝั่งเพื่อรอจับกุมตัว และใช้ระยะเวลาอยู่สักพักนึงในการค้นหาตัวและสามารถจับกุมตัวได้ ซึ่งผู้ก่อเหตุ แอบอยู่ใต้บันไดอาคารพักอาศัย โดยนำถังขยะมาปิดบังตัว ผู้ก่อเหตุได้ก่อคดีขโมยแป้งเย็น 1 กระป๋อง จากที่จะต้องโดนเพียงแค่คดีลักทรัพย์ คราวนี้จะต้องโดนคดีเพิ่มเป็น พยายามหลบหนีในการควบบคุมตัวของเจ้าหน้าที่

นายพิชิตชัย เล่าให้ฟังว่า ที่ตนเองก่อเหตุเนื่องจาก ตนเองอยากเจอเมีย ซึ่งไปซื้อแป้งเย็นจำนวน 2 กระป๋องในราคา 55 บาทแต่ไม่มีตัง แต่เขาบอกว่าถ้าไม่มีตังจ่ายก็โดนจับ ผมไม่มีตังมีอยู่แค่ 10 บาท ซึ่งจะซื้อไปทาตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึง ได้ใส่กุญแจมือและนำตัวขึ้นรถจักรยานยนต์ CBR เพื่อที่จะนำตัวมาสถานีตำรวจ ตนเองทำตัวแกล้งตกรถ รอบแรก แต่ไม่ตก และ รอบ 2 ตกรถจริงจึงหนีวิ่งมาทางท่าน้ำพระประแดง จึงขึ้นไปบนแพและนำเสื้อชูชีพ ใส่ตัวและกระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยาข้ามฝั่งจากปู่เจ้ามาฝั่งท่าน้ำพระประแดง แต่ก็มีเรือมาช่วยซึ่งไม่รู้ว่าตนเองตกน้ำหรือว่ายน้ำหนี พอขึ้นไปบนเรือมีคนเห็นถูกใส่กุญแจมือเขาก็เลย กลัวว่าผมจะทำร้ายเขาจากนั้นเรือก็เลยหนีไป ตนเองจึงมาขึ้นฝั่งที่ศาลพ่อปู่ฝั่งท่าน้ำพระประแดง ซึ่งยอมรับว่ายน้ำข้ามฟากเหนื่อยมาก เหตุผลที่หนีเพราะเขาแจ้งว่าถ้าไม่มีตังจ่ายก็ถูกจับ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองก็เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับข้อหาปืน และถูกพ้นโทษมา 3 ปี นี้แล้ว หลังจากพ้นโทษมาไม่เคยก่อคดีอีกเลย จนมากระทั่งครั้งนี้ก็ขโมยแป้งเย็น ซึ่งตนเองก็ยอมรับผิดว่าได้ไปขโมยแป้งจริง ซึ่งตนเองก็ยอมรับว่ากลัวตายที่ว่ายน้ำข้ามฟากเจ้าพระยาแต่ถ้าอยู่ หรือหนีก็ถูกจับอยู่ดีจึงตัดสินใจว่ายน้ำข้ามเจ้าพระยาเพื่อมาหาแฟน และก็เจอแฟนสาว และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้