สังคม

มองหลายมุม! สาวร้องบุกบ้านอดีตแฟนตีตัวออกห่าง เจอรปภ.กีดกัน พูดจาหยาบคาย ฝ่ายชายเผย สาวลักษณะเหมือนคนไม่ปกติ ตนจึงตีตัวออกห่างมานานแล้ว

โดย kanyapak_w

5 ต.ค. 2565

4.8K views

สาวร้องหลังบุกบ้านจะเข้าไปหาแฟนหนุ่ม แต่ถูก รปภ.กีดกัน ไม่ให้เข้าหมู่บ้าน ขณะรปภ.ยืนยัน ทำตามหน้าที่ อดีตแฟน ยืนยันที่ตีตัวออกห่างเพราะทนพฤติกรรมของฝ่ายหญิงไม่ไหว



จากกรณี มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อว่า นางสาวเอ ได้ส่งคลิปไปร้องที่เพจสายไหมต้องรอด ให้ช่วยเหลือเรื่องคดี เนื่องจากเธอไปหาแฟนชื่อเฮียวัตร อายุ 56 ปี ที่หม่บ้านแห่งหนึ่ง ในจังหวัดปทุมธานี แต่กลับถุก รปภ.ของหมู่บ้านกระชากตัวเองไว้ ไม่ยอมให้เข้าไปเจอแฟนของเธอ



โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเธอได้ถ่ายคลิปเอาไว้หลังถูก รปภ.ทำร้ายร่างกาย โดยเธออ้างว่าถูกกระชากลงบนที่พื้น ขู่จะเอาสนับมือชกหน้าเธอหากไม่เชื่อฟัง



โดยคลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่ รปภ.ท้าให้นางสาวเอ ถ่ายภาพไปที่หน้า ยกนิ้วกลางให้ ทั้งยังพยายามยืนขวาง ไม่ให้เข้าไปที่บ้านของสามี กระทั่งเมื่อนางสาวเอ พยายามจะลุกขึ้น แต่กลับถูก รปภ.เหวี่ยงลงไปกับพื้น แล้วพยายามไล่เธอออกจากหมู่บ้าน อ้างว่านางสาวเอ จะเข้าไปทำลายข้าวของของลูกบ้าน และใช้คำพูดหยาบคาย




ด้านนางสาวเอ เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา ตนเองตั้งใจจะไปหา เธอตั้งใจที่จะไปตามหาแฟนของเธอที่ชื่อเฮียวัตร เนื่องจากแฟนของเธอได้บล็อกเบอร์ แต่พอไปถึงหมู่บ้านที่เกิดเหตุ กลับถูก รปภ.ที่ได้รับคำสั่งจากแฟนของเธอกระชากตัวเธอลงไปกองกับพื้น และพยายามยกสนับมือที่มือ ชี้หน้าขู่ว่าอย่าขยับตัว ยอมรับว่าตกใจมาก ได้แต่พุดกับ รปภ.คนดังกล่าวว่าอย่าแตะตัว จะโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ แต่กลับถุกรปภ.พุดด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย และโชว์บัตรพนักงาน พร้อมกับบอกว่าไม่ต้องแจ้งตำรวจ ตัวเขานี่และเป็นตำรวจ



จากนั้นเมื่อเธอลุกขึ้น รปภ.พยายามเหวี่ยงตัวเธออีกหลายครั้ง ไล่ให้เธอออกไปจากหมู่บ้าน ซึ่งเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง แล้วก็ใส่ร้ายกล่าวหาว่าเธอเองจะเข้าไปทำลายข้าวของในหมู่บ้าน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาแล้ว 1 ครั้ง เดือนมีนาคม ปีที่แล้ว เป็นเหตุการณ์คล้ายกัน แล้วก็เป็น รปภ.คนเดียวกัน ครั้งนั้นตนเองถ่ายคลิปตอนนั้นไม่ทัน เนื่องจากถูก รปภ.ดึงคลิปจากมือไป พร้อมยืนยันเหตุการณ์ทุกอย่างในคลิป มีนิติบุคคลของหมู่บ้านอยู่ด้วยทุกครั้ง และให้ท้าย รปภ. และเอาแต่ยืนมองไม่ได้ห้ามปราม



นางสาวเอ บอกอีกว่า เหตุการณ์ทั้ง 2 ครั้ง เธอเองโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจให้ไปในที่เกิดเหตุ แต่ตำรวจก็เข้าข้าง รปภ.ในหมู่บ้าน และไม่เคยดำเนินคดี จนทำให้เธอต้องส่งคลิปไปร้องเพจสายไหมต้องรอด เพราะไม่รู้จะกันหน้าไปพึ่งใคร



พร้อมอยากถาม รปภ.ว่าทำไมไม่พูดจากันดีดี หากตนเองทำอะไรผิด ก็พร้อมให้ตำรวจดำเนินคดี ไม่ใช่มาทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ และอีกอย่างไม่เคยพบเคยเจอ รปภ.ที่มีพฤติกรรมต่ำๆแบบนี้ ยืนยัน เธอมีการศึกษาไม่ได้เป็นโรคจิต อย่างที่ถูกกล่าวอ้าง



ส่วนความสัมพันธ์กับเฮียวัตร แฟนหนุ่มนั้น เราคบกันมา ประมาณ 5 ปีแล้ว โดยเฮียวัตรเป็นรุ่นพี่ ที่ทำงานเซลล์ของ เหมือนกัน ทุกครั้งที่คบกัน ก็จะมีปากเสียง ทะเลาะกัน ตลอดอยู่แล้ว สักพักง้อกันก็คืนดีกัน แต่ยืนยันที่ไปหาเฮียวัตร ที่บ้านเพราะเฮียวัตร บล็อกเบอร์โทรศัพท์ และมีพฤติกรรม เหมือนไปมีผู้หญิงอื่น ตนต้องการเคลียร์จึงไปหาที่บ้าน ก้เท่านั้นเอง



อย่างไรก็ตาม ตนและเฮียวัตร ได้ตกลงกันจบกันด้วยดีแล้ว เมื่อต้นเดือน มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งผ่านมา 4 เดือนแล้วที่ไม่ได้ติดต่อกัน



ต่อมาทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ หมู่บ้านย่าน จังหวัดปทุมธานี ลักษณะหมู่บ้านขนาดใหญ่ มีป้อม รปภ.อยู่ด้านหน้าหมู่บ้าน รปภ. จากการสอบถาม นายบอล ซึ่งเป็น รปภ.ที่อยู่ในคลิป บอกว่า เรื่องที่ตนไม่ให้ นางสาวเอ เข้าหมู่บ้าน เนื่องจาก นิติบุคคลมีหนังสือห้ามไม่ให้ นางสาวเอ เข้ามาในหมู่บ้าน โดยเด็ดขาด ตั้งแต่ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว โดยมีการติดป้ายพร้อมรูปถ่ายเป็นบุคคลต้องห้า



ในวันที่เกิดเหตุนางสาวเอ ได้นั่งรถวินจักรยานยนต์โดยปิดหน้าปิดตาสวมหมวกใส่แมสเข้ามาในหมู่บ้าน บังเอิญว่าตนเองเห็นแล้วจำได้จึงปั่นจักรยานตามเข้าไปจึงเห็นว่าเป็นนางสาวเอ จริง โดยนางสาวเอ กำลังเดินไปถึงบ้านของเฮียวัตร แล้วถามว่า มาทำอะไรครับ คุณเป็นบุคคลต้องห้าม ไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่ของหมู่บ้านได้ ทางเจ้าของบ้านสั่งไม่ให้คุณเข้ามาที่นี่



ตนเองจึงพยายามเดินต้อนให้นางสาวเอ ออกจากหมู่บ้านไป ยืนยันไม่ได้แตะต้องตัว นางสาวเอเลย แต่นางสาวเอ ก้มลงไปนั่งกับพื้นแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิป แล้วตะโกนขึ้นว่า ช่วยด้วยๆ อย่ามาโดนตัวฉัน แล้วด่าบุพการีของตนเอง ทำให้คำด่าดังกล่าวมันจี้ใจดำของตน เนื่องจากพ่อของตนเองเพิ่งเสียไปเมื่อเดือนที่แล้ว จึงทำให้ตนเองเกิดอารมณ์โมโห




ส่วนที่นางสาวเอ บอกตนเองไปทำร้ายเธอนั้น ยืนยันไม่ใช่ ตนเองแค่จับแขนเพื่อให้นางสาวเอ ออกไป หลังจากจับแขนเขาก็ล้มลงกับพื้น ตนจึงปล่อย ส่วนที่เขาบอกว่าตนใส่สนับมือนั้น ยืนยันไม่จริง เพราะความจริงแล้วตนเองใส่เป็นแหวนพระ ยืนยันถ้าคิดว่าทำร้ายร่างกายก็ให้เอาหลักฐานมาโชว์ พร้อมที่ทำลงไป เพราะเป็นหน้าที่




พร้อมอยากให้เห็นใจ รปภ.บ้าง เพราะทนไม่ไหวจริงๆกับพฤติกรรมของนางสาวเอ เพราะแอบลักลอบเข้ามาตลอด บางทีก็นั่ง วินจยย.เข้ามา บางครั้งก็นั่งแท็กซี่ บางทีถึงขนาดเอาเหล็กรถไปกรีดรถ เฮียวัตร และสเอาสีสเปรย์ไปฉีดด่าแม่ของเฮียวัตรด้วย



สุดท้ายอยากให้เห็นใจตนบ้าง ถ้าไม่ทำหน้าที่ก็จะถุกพักงาน ตัดเงินเดือนได้



จังหวะที่ทีมข่าวพยายามยืนรอบริเวณหน้าบ้าน เพื่อรอถามลูกบ้านว่าได้รับผลกระทบเกี่ยวกับนางวีรยาที่เข้ามาภายในหมู่บ้านหรือไม่ กลับกลายเป็นว่ารถที่ขับมา คนที่เปิดกระจกรถมาคือเฮียวัตร โดยทีมข่าวขออนุญาติสัมภาษณ์เฮียวัตรจึงยอมพูดคุยด้วย



นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวของเรา ได้พูดคุยกับเฮียวัตร ขณะขับรถเข้ามาในหมู่บ้าน โดยเฮียวัตร บอกว่า ตนเองได้เลิกรากับนางสาวเอ ตั้งนานแล้ว เนื่องจากนางสาวเอ มีลักษณะเหมือนคนไม่ปกติ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่คบหากัน นางสาวเอ มักจะระแวงว่าตนเองจะมีผู้หญิงคนอื่น ตลอดเวลา และนางสาวเอจะเข้ามาในหมู่บ้าน และทำลายข้าวของตลอดเวลา ใช้เหล็กกรีดรถ เขียนเป็นชื่อแม่ของตน งัดขโมยทะเบียนรถของตนไป จ้างไรเดอร์เข้ามา เป็น 10-20 รอบ เพื่อมาสังเกตุการณ์พฤติกรรมของตน



นอกจากนี้ ฝ่ายหญิงยังให้ตนกราบเท้าเพื่อขอเลิกด้วย มีบางครั้ง ทำให้ลูกสาวของตนเองทนไม่ไหว เคยเอามีดไล่แทงนางสาวเอ เพื่อให้นางสาวเอออกจากหมู่บ้านไป จึงทำให้อยู่ด้วยกันไม่ได้ สุดท้ายต้องเลิกกัน



ซึ่งที่ผ่านมาระหว่างคบกัน โดยตนเองได้บอกนางสาวเอ ตั้งแต่ครั้งแรกว่า ตนเองมีภรรยาอยู่แล้ว มีภรรยา 2-3 คน แต่นางสาวเอ ก็จะไปตามราวี ภรรยาของตนทุกคน อย่างไรก็ตามระหว่างที่คบกัน ตนจะให้เงินเดือนนางสาวเอ เดือนละ 5 พันบาท



เฮียวัตร บอกอีกว่า ที่นางสาวเอตามราวีตัวเอง เพราะตัวเองตีตัวออกห่าง หลังจากนี้ตนเองจะให้นิติหมู่บ้านและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลกันไป จะไม่ดำเนินคดีใดๆ กับนางสาวเอ เนื่องจากสงสาร พร้อมเรียกร้องให้นางสาวเอ ออกมาพูดความจริง




คุณอาจสนใจ

Related News