มอบตัวแล้ว! นายจ้างหื่นลวงขืนใจสาวลาว กร่างขู่เหยื่อ “กูเป็นคนไทย คนไทยก็ต้องเข้าข้างกูอยู่แล้ว”

ความคืบหน้า กรณีที่หญิงสาวชาวลาววัย 19 ปี ร้องเพจสายไหมต้องรอด ให้ช่วยเหลือหลังถูกชายเจ้าของร้านข้าวหมกไก่ ย่านบางบัวทอง นนทบุรี ลวงว่าจะให้งานทำ สุดท้ายทำร้ายร่างกาย แล้วข่มขืนแถมยังขู่ซ้ำว่าหากหนี หรือไม่ยินยอม จะยิงให้ตาย ขณะเดียวกันยังถ่ายคลิปเก็บเอาไว้ด้วย

ช่วงเย็นวานนี้ ทีมข่าวได้รับการยืนยันจากทางตำรวจ สภ.บางบัวทองแล้วว่า ผู้ก่อเหตุเข้ามามอบตัวแล้วในช่วงเช้าวานนี้ เบื้องต้นแจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น และได้คัดค้านการประกันตัว ก่อนจะนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดนนทบุรี

ขณะที่ความเคลื่อนไหวฝั่งผู้เสียหาย ช่วงบ่ายวานนี้ (29 ก.ย.65) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้พาสาวลาววัย 19 ปี ผู้เสียหาย พร้อมด้วยพี่ชาย เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) โดยมีนายปริญญ์วัฒน์ เปี่ยมปินวงศ์ ผอ.ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม เป็นตัวแทนรับเรื่อง

นายเอกภพ กล่าวว่า ที่เข้ามาร้อง ยธ. เพื่อให้ติดตามความคืบหน้าทางคดี และร้องขอค่าเยียวยาจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ขณะเดียวกัน เมื่อเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป พี่น้องชาวลาวล้วนเป็นกังวลในเรื่องของการดำเนินคดีเป็นอย่างมาก เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะเป็นต่างชาติ

ขณะเดียวกัน ผู้ก่อเหตุมีการข่มขู่ผู้เสียหายด้วยว่า “มึงเป็นคนลาว ตำรวจหรือกระบวนยุติธรรมของไทยไม่คุ้มครองมึงหรอก เพราะกูเป็นคนไทย ตำรวจก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว” จึงอยากฝากไปถึงพี่น้องชาวลาวว่าไม่ต้องเป็นกังวล ไม่ว่าใครก็ตามต้องที่อยู่บนผืนแผ่นดินไทยต้องได้รับการคุ้มครองตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีการแบ่งชนชาติ เพราะฉะนั้นครั้งนี้ต่อให้ผู้เสียหายเป็นคนลาว ผู้ก่อเหตุเป็นคนไทย คนไทยที่กระทำความผิดต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน

นายเอกภพ ยังกล่าวว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้เสียหาย มองว่าผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมที่ค่อนข้างชำนาญ และมีข้อเท็จจริงบางประการที่ไม่ตรงกัน เช่น ผู้ก่อเหตุทักมาบอกว่าประกอบอาชีพขายอาหาร แต่ภายหลังได้สอบถาม เพื่อนบ้านของผู้ก่อเหตุได้รับข้อมูลมาว่า ไม่ได้เป็นผู้ประกอบการขายอาหารในลักษณะนั้น แต่ขายผลไม้ในลักษณะรถเข็น

ด้านพี่ชาย ผู้เสียหาย บอกว่า รู้สึกสบายใจขึ้น ตอนแรกกลัวมากว่าน้องจะไม่ได้รับความเป็น และฝากไปถึงผู้ก่อเหตุว่าถ้าทำผิดจริงให้มารับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป

ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้น้องยังกลัว เนื่องจากผู้ก่อเหตุมาข่มขู่ว่าจะฆ่าให้ตายหากไปบอกคนอื่น “มึงเป็นคนลาว มึงไม่มีสิทธิ ยังไงกูเป็นคนไทย คนไทยก็ต้องเข้าข้างกูอยู่แล้ว”

โดยระหว่างนั้น มีรายงานว่า สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเกตุได้ ทีมข่าวจึงสอบถามไปยัง พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง ได้รับการยืนยันว่าผู้ก่อเหตุเข้ามามอบตัวตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ เบื้องต้นแจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น ซึ่งตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว และนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดนนทบุรีเป็นที่เรียบร้อย

หลังได้รับการยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ทีมข่าวได้พูดคุยกับพี่ชายและผู้เสียหาย พี่ชายบอกว่า สบายใจและรู้สึกดีขึ้น เพราะอีกฝ่ายก็ข่มขู่ไว้เยอะมาก ตอนนั้นน้องสาวตนเครียดมาก ถึงขั้นอยากจะผูกคอฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ เมื่อทราบว่ามีการดำเนินคดีแล้วก็รู้สึกดีขึ้น

ขณะที่ผู้เสียหายยังอยู่ในอาการสั่น และกลัว ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าสบายใจขึ้นหรือไม่ เธอไม่ตอบ มีแต่พยักหน้ารับเท่านั้น

ส่วนประเด็นที่น้องสาวเชื่อใจอีกฝ่าย ก่อนนั่งแท็กซี่เดินทางไปหานายจ้างเพียงเพื่อหวังว่าจะได้งานทำ พี่ชาย ระบุว่า เนื่องจากคนลาวส่วนใหญ่จะหางานในลักษณะนี้ ปกติก็ได้งานกันหมด ไม่เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นมาก่อน จึงเชื่อว่าจะได้งาน ขณะที่นายเอกภพ กล่าวเสริมว่า ตนก็ได้ถามผู้เสียหายในประเด็นนี้เช่นกัน ซึ่งน้องได้ตอบว่า “เชื่อใจและเข้าใจว่าคนไทยเป็นคนดี มีน้ำใจ” ไม่คิดว่าจะมีเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

ขณะที่ตัวแทนเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ กล่าวถึงเรื่องค่าเยียวยา ว่า เนื่องจากเหตุเกิดที่จังหวัดนนทบุรี ขณะนี้ทางเราได้มีการส่งเรื่องไปยังสำนักงานยุติธรรมจังหวัดนนทบุรีเรียบร้อยแล้ว

สำหรับการเยียวยานั้น กรณีมีค่ารักษาพยาบาล เราก็จะมีการจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาท และถ้ามีค่าขาดประโยชน์จากการขาดรายได้ เราก็จะจ่ายตามค่าแรงขั้นต่ำของจังหวัดนนทบุรี และจะมีค่าตอบแทนเสียหายอื่นสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท
------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/u0Xg9dkuP7A