สังคม

แม่ค้าไข่ไก่ ร้อง ถูกรถลัมโบร์กินีชน เสียหายเกือบ 2 แสน โยนประกันเยียวยา ซ้ำเปลี่ยนตัวคนขับรับผิด

โดย paranee_s

21 ก.ย. 2565

1.3K views

จากกรณีที่คุณกำไลทอง อายุ 33 ปี แม่ค้าส่งไข่ไก่ ผู้เสียหาย ถูกรถลัมโบร์กินี ชนรถกระบะขนไข่ไก่ของเธอ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 05.25 น. ของวันที่ 10 กันยายน 65 เป็นช่วงหลังเกิดเหตุ พบว่า ชายที่เป็นการ์ดสวมเสื้อสีดำ เป็นคนเปิดประตูลงมาจากด้านหน้าฝั่งซ้ายของรถ ก่อนที่อีกเกือบนาที จะมีชายชาวต่างชาติ ที่คาดว่าเป็นคนขับตัวจริง จะเดินลงมาจากฝั่งขวาของรถ


คุณกำไลทอง เล่าเหตุการณ์ว่า ตอนนั้นเธอกับแฟน กำลังขับรถขนไข่ไก่ จำนวน 1,385 แผง มูลค่ากว่า 1 แสน 9 หมื่นบาท จากจังหวัดปทุมธานี ไปส่งที่จังหวัดตรัง เมื่อมาบนถนนเพชรเกษม เลยโรงพยาบาลกรุงเทพเพชรบุรีมาไม่กี่ร้อยเมตร จู่ ๆ มีรถลัมโบร์กินี่ป้ายแดง สีฟ้า ขับมาด้วยความเร็วสูง ก่อนพุ่งชนรถของเธอ บริเวณล้อหลังด้านขวา ทำให้รถของเธอพลิกคว่ำ และไปชนรถอีกคันเสียหาย


เธอบาดเจ็บชาไปทั้งตัว แขนและขาซ้ายยกไม่ขึ้น ก่อนถูกส่งรักษายังโรงพยาบาล และรีบกลับไปเคลียร์คดี ที่ สภ.เมืองเพชรบุรี ต่อมาทราบภายหลังว่า ชายที่เป็นการ์ดสวมเสื้อดำ ยอมรับกับตำรวจว่าเป็นคนขับรถ และจบที่จ่ายเงินค่าปรับ ซึ่งทางคู่กรณีจ่ายค่ารักษาพยาบาลคืนให้ 6,023 บาท และจ่ายเงินไข่ไก่เสียหายมาให้ 100,000 บาท และแจ้งว่าถ้าคุณกำไลทอง ได้เงินที่เบิกจากประกันภัยรถยนต์เมื่อไหร่ ให้โอนเงินก้อนนี้คืนกลับมา


หลังจากนั้นคู่กรณีก็เงียบหายไป เธอพยายามติดต่อเนื่องจากที่เธอไม่สามารถทำมาหากินได้ รวมถึงรถยนต์เสียหาย แต่ทางคู่กรณีกลับบอกเธอว่า ให้ไปเรียกร้องค่าเสียหายกับบริษัทประกันเอง เธอบอกว่า อยากให้คู่กรณีรับผิดชอบเยียวยา 2 แสนบาท แต่คู่กรณีกลับบ่ายเบี่ยง จึงอยากให้ออกมารับผิดชอบ


ขณะที่นายเพชร แฟนของคุณกำไลทอง ยอมรับว่า หลังเกิดเหตุ เห็นว่าชายชาวต่างชาติลงมาจากฝั่งขวา ส่วนชายที่เป็นการ์ดเสื้อดำ ลงมาจากทางด้านซ้าย ก่อนที่ชายรายนี้ จะมาคุยกับตนแทนชายชาวต่างชาติ ว่าเดี๋ยวตนจัดการทุกอย่างให้เอง ไม่ต้องพูดอะไร กระทั่งมาทราบว่าการ์ดคนนี้ สมอ้างว่าเป็นคนขับ ด้วยความกลัวว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับการเบิกจ่ายประกันจึงทำให้ไม่กล้าสอบถาม แต่เรื่องนี้กลับล่วงเลยมานาน จึงทำให้กังวลใจ และตัดสินใจมาร้องทุกข์ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์


ขณะที่ตัวแทนสำนักงาน ทนายคลายทุกข์เปิดเผยว่า จะรับว่าความคดีนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย เบื้องต้นได้ทำหนังสือร้องทุกข์ และนำคลิปวิดีโอที่ ระบุตัวตนคนขับในขณะเกิดเหตุให้ผู้เสียหาย เอาไปยื่นต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ข้อหาแจ้งความเท็จกับบุคคลที่สวมรอยเป็นคนขับต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News