"ชัชชาติ" เล็งลดค่าจัดเก็บขยะ จูงใจปชช.คัดแยกตั้งแต่ต้นน้ำ

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 65 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมผู้บริหารกทม. เปิดตัวโครงการ “ไม่เทรวม” โดยมีน.ส.แอนนา เสืองามเอี่ยม Miss Thailand Universe 2022 ทีมผู้ชนะการประกวด Miss Earth Thailand 2022 รวมถึงบุคคลผู้มีชื่อเสียง อาทิ นายวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล, นายอวัช รัตนปิณฑะ, นางปิยาภรณ์ แสนโกศิก หรือ ปุ้ย TPN และนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา หรือ ท็อป Bitkub ร่วมกิจกรรม ณ บริเวณศูนย์อาหาร สวนลุมพินี เขตปทุมวัน

ทั้งนี้ นายชัชชาติ ได้เปิดตัวรถขยะนำร่องของโครงการใน 3 เส้นทาง 3 เขต ซึ่งเป็นรถขยะแบบใหม่ที่มีพื้นที่จัดเก็บเศษอาหาร 2 ประเภท ได้แก่ รถอัดท้ายที่ต่อเติมส่วนจัดเก็บขยะเศษอาหาร และรถขยะเปิดข้าง จัดเก็บขยะเศษอาหาร เพื่อแยกขยะเศษอาหารออกจากขยะประเภทอื่น ๆ

นายชัชชาติ กล่าวว่า ขยะเป็นปัญหาใหญ่ของ กทม. ปัจจุบันใช้หลุมฝังกลบ 70-80% แต่ไม่ยั่งยืน และการแยกขยะที่ผ่านมาประชาชนพูดมานานแล้ว เกี่ยวกับการแยกขยะซึ่งสร้างมูลค่าได้มากขึ้น แต่ กทม. ก็ถูกพูดถึงว่า แยกขยะแล้วก็นำมารวมกันที่รถอยู่ดี จึงถึงเวลาแล้วที่จะจัดกระบวนการจากต้นน้ำถึงปลายน้ำอย่างจริงจัง คือ ประชาชนแยกที่ต้นน้ำ กทม. จัดเก็บที่กลางน้ำ และกำจัดอย่างเป็นระบบที่ปลายน้ำ

"วันนี้จึงเป็นวันประวัติศาสตร์ และที่ผ่านมาเสียเงินค่าขยะเป็นหมื่นล้าน จึงทำให้ขยะเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินให้ได้ โดยจะเริ่มทำแบบจำลอง 3 เขต คือ ปทุมวัน พญาไท หนองแขม ซึ่งแต่ละพื้นที่จะเป็นทั้งชุมชน ตลาดสด คอนโดฯ อยู่กลางเมือง เพื่อมาดูว่าทำดีหรือไม่" นายชัชชาติ กล่าว

ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าถ้าแยกขยะเปียกมาแล้วจะง่ายขึ้น และหากดำเนินการในเส้นทางนำร่อง 3 เขต 10 เส้นทางแล้ว ถ้ามั่นใจใน 10 เส้นทาง ก็จะขยายผลได้ และเชื่อว่าการแยกขยะจะทำให้ค่าใช้จ่ายงบประมาณลดลง พร้อมย้ำด้วยว่า ไม่ได้ทำแค่เอาหน้าจัดอีเวนต์ แต่ต้องทำต่อเนื่อง และติดตามความก้าวหน้าอย่างจริงจังด้วย ส่วนแรงจูงใจที่จะทำให้ประชาชนมาเก็บขยะนั้น หลังจากนี้จะมีการออกแบบแรงจูงใจให้เหมาะสม อาจจะมีแรงจูงใจในการลดค่าจัดเก็บขยะ และไปแจกปุ๋ยหมักให้ หรือมีสติกเกอร์ไปติดหน้าบ้าน เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจว่าได้เป็นส่วนร่วมในการทำเมืองให้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการไม่เทรวม แบ่งออกเป็น 3 ระยะ เพื่อติดตามประเมินและปรับปรุงแก้ไข โดยระยะที่ 1 (ก.ย.-ต.ค. 65) ช่วงนำร่อง กำหนดเส้นทางเขตละ 1 เส้นทาง จากนั้นระยะที่ 2 (พ.ย.-ธ.ค. 65) จะขยายเป็นเก็บทุกเส้นทางในระดับแขวง และระยะที่ 3 (ม.ค.- มี.ค. 66) จะขยายทั่วทั้งพื้นที่ 3 เขตนำร่อง