จับแล้ว แก๊งเงินกู้ใช้โทรโข่งทวงหนี้ พบเป็นคลิปเก่าส่งขู่หากเบี้ยวเงิน

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งในจังหวัดลำพูนได้โพสต์ข้อความว่า “ตัวอย่าง รอดูของจริง” พร้อมโพสต์คลิปวิดีโอซึ่งเป็นแก๊งเงินกู้นอกระบบได้ใช้โทรโข่งประกาศทวงหนี้ได้ถ้อยความอันไพเราะอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งซึ่งคาดว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่บ้านโดยเนื้อหาของคลิปดังกล่าวพอสรุปได้ว่าขอให้ลูกหนี้ชำระเงินจะเป็นการแบ่งจ่ายร้อยสองร้อยก็ได้แต่ขอให้จ่ายมาแต่อย่าหลบหน้าเพราะถ้ามาประกาศแบบนี้ก็จะทำอับอายและยังถามว่ายังมียางอายอยู่ไหมซึ่งคำพูดที่ใช้ทวงหนี้นั้นสุภาพอย่างที่ได้ฟังและถือว่าเป็นมุกใหม่ของการทวงหนี้ของแก๊งเงินกู้


ต่อมา น.ส.ก้อย (นามสมมุติ) อายุ 49ปี ชาวจังหวัดลำพูนได้นำมาโพสต์ในเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่าตนเองได้กู้เงินจากแก๊งเงินกู้นอกระบบรายดังกล่าวโดยเป็นทั้งคนค้ำให้กับเพื่อนและก็ใช้ชื่อตนเองกู้ โดยกู้เงินมาจำนวนหนึ่งหมื่นบาท แต่ต้องถูกหักค่าสมุด500 บาท ค่ารายวันล่วงหน้า 1วันจำนวน 500 บาทรับเงินจริงแค่ 9,000 บาท และต้องผ่อนชำระวันละ 500 บาท อีก 23 วัน เมื่อวานนี้ (17 ส.ค.) ตนเองขาดส่งรายวันไปหนึ่งวัน แก๊งเงินกู้ก็ส่งคลิปดังกล่าวมาให้ดูเหมือนคล้ายจะเป็นการเตือนว่าหากค้างหนี้ก็จะถูกทำแบบในคลิป จึงนำคลิปดังกล่าวโพสต์ลงโซเซียลเพื่อเตือนให้กับกลุ่มเพื่อน ให้ระวังการทวงหนี้แบบนี้ ซึ่งตนเองมองว่าการกระทำดังกล่าวเหมือนเป็นการประจานลูกหนี้ทำให้อับอายและเสียชื่อเสียง


ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.เมืองลำพูน ได้ติดตามจับกุมชายคนดังกล่าวได้แล้วทราบชื่อนายบอย (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ นำตัวส่ง พ.ต.ต.บวรรชต (บะวอนรัดชะตะ) มายะลา สารวัตรสอบสวน สภ.เมือง ลำพูน ดำเนินคดี จากการสอบสวน นายบอยให้การว่าคลิปวิดีโอดังกล่าว ถ่ายไว้ขณะที่ตนกับเพื่อนอีกคนหนึ่งเดินทางไปทวงหนี้กับลูกหนี้รายหนึ่งที่ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เมื่อปี 2563 แต่ไม่มีใครอยู่บ้าน ตนเก็บคลิปวิดีโอนั้นไว้ ก่อนจะส่งไปให้ลูกหนี้ที่เหนียวหนี้ รายอื่นใน จ.ลำพูน ซึ่งตนไม่ได้มีเจตนาในการข่มขู่ลูกหนี้แต่อย่างใด


ด้าน พ.ต.อ.ฐิติพล อรุณสกุล ผู้กำกับการ สภ.เมืองลำพูน เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำทราบว่านายบอย ไม่ได้ก่อเหตุในท้องที่ สภ.เมืองลำพูน ก็จริงแต่พฤติกรรมของนายบอยฯ ได้ส่งคลิปวิดีโอดังกล่าวไปให้ลูกหนี้และมีข้อความแชตลักษณะว่าหากไม่จ่ายเงินให้จะโดนลักษณะดังกล่าว ซึ่งคำพูดในคลิปของนายบอยฯ ทำให้ลูกหนี้เกิดความกลัวและอับอายจึงเข้าค่ายความผิด พ.ร.บ.ทวงหนี้ ด้วยการข่มขู่เกิดความหวาดกลัวและอับอาย และอีกข้อหาหนึ่งตามพ.ร.บ.ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด