พ่อวัย 84 ป่วยมะเร็งระยะที่ 4 รอพบลูกชายที่จากกันนานกว่า 30 ปี ตามจนพบเป็นเจ้าอาวาส

วันที่ 18 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า พ่อวัย 84 ปี อดีตทหารพราน นอนป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่ 4 อยากพบหน้าลูกชายที่หายจากกันนานกว่า 30 ปี ร้องขอให้ นางสาวฐิตารี เศียรเจริญพร ผู้แทนหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร ทภ.2 รุ่นที่ 2 (พสบ.ทภ.2 รุ่นที่ 2) จ.เลย ช่วยตามหา สุดท้ายได้เจอหน้าลูกชาย บวชเป็นพระและเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ที่ อ.เมือง จ.ยโสธร หลั่งน้ำตาออกมาไม่คิดว่าจะเจอหน้าลูกชาย



นางสาว ฐิตารี เศียรเจริญพร เล่าว่า ได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจากญาติของคุณตานงค์ ปัญญะ อายุ 84 ปี อยู่ ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย (อดีตเคยเป็นอาสาสมัครทหารพราน สังกัดกรมทหารพรานที่ 21 ค่ายศรีสองรัก จ.เลย อดีตเคยร่วมสมรภูมิบ้านร่มเกล้า หรือ ยุทธการบ้านร่มเกล้า เป็นการเผชิญหน้าช่วงสั้น ๆ ระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว ณ บริเวณบ้านร่มเกล้า ตรงชายแดนไทย–ลาว ในปี พ.ศ.2527) ปัจจุบันนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเลย ด้วยโรคมะเร็งลำไส้ ระยะที่ 4 ญาติๆ ต่างมารอเฝ้าอาการทั้งหมด แต่เนื่องจากคุณตายังมีลูกชายอีกคน และคิดถึงลูกชายตลอดเวลา ที่พลัดพรากจากกันมานานไม่ได้ติดกันมากกว่า 30 ปี อีกคน



คุณตานงค์ บอกกับทางญาติว่า อยากเจอหน้าลูกชายที่หายไปอีกครั้ง ที่ผ่านมาทางญาติก็พยายามออกตามหาแต่ไม่เจอ จึงขอความช่วยเหลือ จึงได้ประสานไปยังทุกช่องทางทั้งหน่วยงานทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ช่วยกันกระจายข่าวในการตามหา ซึ่งทางญาติบอกว่าลูกชายคุณตานงค์ ในอดีตเคยรับราชการทหารเป็นนายสิบ ปฏิบัติงานในพื้นที่ของกองพลทหารราบที่ 6 ออกปฏิบัติราชการสนามในพื้นที่ของกองกำลังสุรนารี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2526 จึงเริ่มการค้นหาตั้งแต่เริ่มต้น และทราบว่าลูกชายคุณตานงค์ ชื่อจ่าสิบเอก สุรพล ปัญญะ อดีตเคยเป็นทหารกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ อุบลราชธานี ปี พ.ศ.2524-2526 และสอบบรรจุรับราชการเป็นนักเรียนนายสิบทหารบกโรงเรียนนายสิบทหารบก ประจำปีการศึกษา 2526 หลักสูตร 1 ปี ค่ายธนะรัชต์ ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากศึกษาจนจบได้บรรจุรับราชการครั้งแรก ติดยศสิบตรี สังกัดหน่วยพาะกิจกรมทหารราบที่ 6 กองกำลังสุรนารี ในสมัยนั้นได้กลับมาเยี่ยมคุณพ่อเพียง 1 ครั้ง ก่อนที่จะออกปฏิบัติราชสนามสู้รบกับขบวนการคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) และสู้รบกับประเทศเพื่อนบ้านในพื้นที่มาโดยตลอด



จนชีวิตรับราชมาจนถึงช่วงติดยศ จ่าสิบเอก มีครอบครัวและมีบุตร จำนวน 1 คน และจุดเปลี่ยนของชีวิตคือ ครอบครัวประสบอุบัติเหตุสูญเสียภรรยาและลูก ทำให้ตัวเองทำใจไม่ได้ จึงตัดสินใจลาออกจากการรับราชการทหาร รับเงินบำนาญและหันหน้าเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ก้าวแรกสู่ถนนสายธรรม ครั้งแรกเป็นเวลา 3 เดือน ก่อนจะลาสิขาและบวชอีกครั้ง เพื่อค้นหาหนทางดับทุกข์ให้ตัวเอง จนพบแสงสว่างของพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า จนถึงปัจจุบันเป็นเวลาได้ 11 พรรษา ได้รับฉายาพระครูสมุห์ ธรรมคุปต ฐานวโร เจ้าอาวาสวัดจิตตวิโสธนาราม (วัดหนองหัวหมู) เจ้าคณะตำบลน้ำคำใหญ่ อ.เมือง จ.ยโสธร และเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดยโสธร ปัจจุบันจำพรรษาประจำอยู่ที่วัดจิตตวิโสธนาราม (วัดหนองหัวหมู) จึงได้ไปพบและเล่าให้ฟังถึงเรื่องคุณตานงค์



จนกระทั่งพระครูสมุห์ ธรรมคุปต ฐานวโร เจ้าอาวาสวัดจิตตวิโสธนาราม รีบเดินทางเพื่อเข้าเยี่ยมอาการ คุณพ่อที่ รพ.เลย เมื่อทั้งสองเจอหน้ากัน น้ำตาแห่งความรอคอยก็ไหลออกมาสร้างความดีใจและประทับใจต่อครอบครัว เพราะที่ผ่านมาสองพ่อลูกไม่ได้พบเจอกัน และตัดขาดจากการติดต่อกันกว่า 30 ปี เพื่อให้คุณตามีกำลังใจให้ต่อสู้กับอาการป่วยและมีสุขภาพที่แข็งแรงเพื่ออยู่เป็นร่มโพธิ์ใหญ่ให้ลูกหลานไปนานๆ ถือเป็นการช่วยเหลือที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดในครั้งนี้ และญาติๆต่างดีใจและยกมือไหว้ขอบคุณที่ช่วยตามหาจนพ่อลูกกลับมาพบหน้ากันอีกครั้งด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นและมีความสุข