สังคม

สธ.ยันยาต้านไวรัสโควิดมีเพียงพอ สั่งซื้อเพิ่ม 30 ล้านเม็ด - ‘หมอธีระ’ ชี้ถ้าระบบดี ปชช.จะเข้าถึงยาอย่างเป็นธรรม

โดย petchpawee_k

5 ส.ค. 2565

39 views

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat" ระบุว่า ประเด็นที่ควรยอมรับและนำไปพัฒนา... หากดินแดนใดก็ตาม พบปรากฏการณ์ที่คนจำนวนมากต้องขวนขวายหายามารักษาตัวเองยามวิกฤติ  หลายคนยอมทุบกระปุก เพื่อซื้อยาจากนอกระบบ แม้จะเป็นช่วงเศรษฐกิจฝืดเคืองสาหัส  แถมการขวนขวายข้างต้น ก็ยอมแลกกับความเสี่ยงต่างๆ เช่น ของปลอม การโก่งราคา ผลิตภัณฑ์หมดอายุ เป็นต้น


หน่วยงานที่รับผิดชอบก็ควรฉุกคิด และมีคำถามถามใจตนเองว่า เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดมาได้อย่างไร?  เรื่องต่างๆ เหล่านั้น จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย หากระบบที่มีอยู่นั้นดีจริง มีประสิทธิภาพ ทั่วถึง และเป็นธรรมต่อทุกคนในสังคม


"เป็นธรรม" ในที่นี้ ไม่ใช่แปลว่า ได้เหมือนกันทุกคนแต่ได้สิ่งที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล อาทิ ยาที่ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ผลอย่างเพียงพอ หรือสมุนไพรผีบอกแต่โฆษณาเกินจริงอย่างเว่อร์วัง หรือเป็นความเชื่องมงายส่วนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่รับใช้อยู่วงอำนาจบริหารนโยบาย


ปรากฏเหตุการณ์ข้างต้น ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใด ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาระบบให้ตอบสนองต่อความต้องการจำเป็นของประชาชน เพื่อปกป้องสุขภาพ สวัสดิภาพ และความปลอดภัยในชีวิตของทุกคน

ไม่ด้อยค่าสถานการณ์

ไม่ tone down harm and risk perception

ไม่อวดอ้างว่าเอาอยู่ เพียงพอ ได้มาตรฐาน ทั้งๆ ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง

และยืดอกแสดงความกล้าหาญ ให้คำมั่นสัญญาว่าจะพัฒนาระบบบริการให้ตอบสนองต่อปัญหาให้ดีกว่าที่เป็นอยู่

ควบคุมป้องกันให้ดีกว่าเดิม


จัดหาสิ่งจำเป็น ได้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับ มาให้ได้อย่างเพียงพอ ทั่วถึง เข้าถึงได้ง่าย ทันเวลา และเป็นธรรม ไม่หลายมาตรฐาน

สำคัญที่สุดคือ ความโปร่งใส ไม่ปกปิด ไม่ปิดบัง ไม่เปิดเท่าที่อยากเปิด ไม่เปิดยามที่อยากเปิด

หากทำเช่นที่ระบุไว้ข้างต้นได้ ก็จะทำให้คนในสังคม...เชื่อมือ เชื่อมั่น และไว้ใจ...ในระยะยาว

--------------------------------------------------

ขณะที่ นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2565 มียาคงคลังในพื้นที่ เป็นยาฟาวิพิราเวียร์และโมลนูพิราเวียร์ รวม 11.2 ล้านเม็ด และยังมีสำรองที่ส่วนกลางอีกจำนวนหนึ่ง ปัจจุบันอัตราการใช้ยาเพียงพอต่อการใช้มากกว่า 14 วัน และมีการติดตามการใช้ยาด้วยระบบ VMI เมื่อมีการใช้ยาจะส่งไปทดแทนต่อเนื่องเพื่อให้ในพื้นที่มียาคงคลังสำหรับการใช้มากกว่า 14 วัน


นอกจากนี้ ส่วนกลางยังสำรองยาฟาวิพิราเวียร์และโมลนูพิราเวียร์กว่า 2 ล้านเม็ด และอยู่ระหว่างจัดซื้อเพิ่มเติมคือ ฟาวิพิราเวียร์ 10 ล้านเม็ด โมลนูพิราเวียร์ 20 ล้านเม็ด และเรมเดซิเวียร์ 8 หมื่นขวด เพื่อสามารถมียาใช้มากกว่า 30 วัน ทั้งนี้ยาแต่ละรายการมีข้อบ่งชี้ในการใช้แตกต่างกัน ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัสทุกรายแม้จะเป็นกลุ่ม 608 ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่จะพิจารณาจ่ายยาตามอาการ ข้อบ่งชี้ ซึ่งจะพิจารณาจากความเสี่ยงในกลุ่มที่มีอาการมากหรือควบคุมอาการไม่ได้ รวมทั้งยาต้านไวรัสรักษาโควิด-19 เป็นยาที่ขึ้นทะเบียนฉุกเฉิน ขณะนี้ อนุญาตให้ใช้ในโรงพยาบาลและคลินิกเวชกรรม ซึ่งต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น ประชาชนไม่ควรหาซื้อยามากินเองจะเป็นอันตรายได


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Xq151nvHE0s

คุณอาจสนใจ

Related News