สังคม

รปภ.สุดช้ำ! สาวหลอกให้รัก ก่อนขอเงินกว่า 1.7 หมื่นบาทแล้วชิ่ง ตร.ไม่รับแจ้งความ ชี้ให้ด้วยเสน่หา

โดย paranee_s

3 ส.ค. 2565

390 views

วันที่ 3 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีเรื่องราวดรามาชีวิตนายบุญชู อายุ 48 ปี อาชีพ รปภ. ได้ออกมาเปิดเผยว่าถูกหญิงสาวรายหนึ่งที่รู้จักกันในเฟซบุ๊กก่อนจะสานสัมพันธ์ความรักกัน แต่แล้วกลับถูกหลอกให้โอนเงิน 1.7 หมื่นบาท แล้วหายตัวไปติดต่อไม่ได้อีก เข้าแจ้งความกับตำรวจหวังได้เงินคืน แต่เจ้าหน้าที่บอกให้ด้วยความเสน่ห์หา ให้ด้วยความเต็มใจจึงไม่เป็นคดี


ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเช่า ของนายบุญชู ตั้งอยู่หมู่ 6 ตำบลตะพง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง พบว่าเป็นห้องแถว ภายในบ้านพบนายบุญชูใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เปิดดูในตู้เย็นพบมีแต่ไข่ เพราะได้ไปรู้จักกับหญิงสาวรายหนึ่งจากทางโซเชียล ได้ 20 วัน และได้มีการแลกไลน์ แลกเฟซบุ๊ก จนได้คุยกันและวิดีโอคอล เห็นหน้าเห็นตากัน ซึ่งหญิงสาว เรียกแทนตัวว่าชื่อมะลิ ไม่ทราบอายุ ได้พูดหวานเสน่ห์ คำพูดหวานๆ ทำให้ตนเองถึงกับอยากใช้ชีวิตด้วย


สำหรับเรื่องราวที่ต้องกินแต่ไข่ก็มาจากเมื่อวันที่ 28-29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นางสาวมะลิ ได้ทักมาหาว่า สร้อยทองคำ กำลังจะหลุดจำนำ ขอยืมเงินไถ่ จำนวน 17,000 บาท ตนรู้สึกสงสารได้บอกกับนางสาวมะลิว่า ยืมได้แต่ต้องคืนนะ เพราะต้องไปจ่ายค่าใช้จ่ายในบ้านเหมือนกัน จึงโอนเงินให้ไป หนึ่งหมื่นเจ็ดพันบาท พอโอนไปเสร็จ ก็ไม่สามารถติดต่อหญิงสาวได้


ต่อมาวันที่ 1 สิงหาคม ทางด้านนางสาว มะลิ ได้โทรติดต่อกลับมาหา นาย บุญชู ว่ากำลังเตรียมเก็บเสื้อผ้า ช่วงเช้าเตรียมเดินทาง ทำให้นาย บุญชู เชื่ออย่างสนิทใจ ตั้งหน้าตั้งตารอ รอแล้วรอเล่าจนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งวัน ทางนายบุญชู เห็นว่าขาดการติดต่อ และปิดเครื่อง


รุ่งเช้าตนจึงรีบไปแจ้งความ เอาผิดกับหญิงสาวมะลิ ที่หลอกให้โอนเงินจ่ายค่าสร้อยทอง และจะมาใช้ชีวิตอยู่ด้วย ซึ่งหายตัวไปติดต่อไม่ได้ แต่ทางตำรวจไม่รับแจ้งความ เนื่องจากเป็นคดีให้ด้วยเสน่ห์หา จึงไม่รับแจ้งความ ทำให้นายบุญชูรู้สึกเครียดอย่างมาก หันไปเพิ่งใครไม่ได้ รายจ่าย มีทั้งค่าไฟ และค่าเช่าห้อง รออยู่ตรงหน้า และเงินติดตัวมีไม่ถึง100บาท ตนจึงต้องอยู่อย่างอดอยาก ไปซื้อไข่ไก่ มาตุนไว้ เพื่อชีวิตต้องเดินต่อ


นายบุญชู ยังบอกอีกว่าต้นเหตุมาจากที่ตนอยากได้คนมาดูแล ไม่คิดว่านางสาวมะลิ จะมาหลอกให้มีความหวังและก็ทิ้งไปอย่างง่ายดาย แถมต้องเสียเงินกับคนไม่จริงใจอีกด้วย


ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อโทรไปสอบถาม นางสาวมะลิ เพื่อให้ความเป็นธรรม ซึ่งนางสาวมะลิรับสาย แต่ไม่พูดและก็บล็อกเบอร์โทรศัพท์หนีนักข่าวไปแล้ว


คุณอาจสนใจ

Related News