สังคม

"ชัชชาติ" ลั่นขยะไม่ใช่ของวิเศษที่หายเองได้ ย้ำประชาชนให้แยกขยะ

โดย paranee_s

15 ก.ค. 2565

123 views

วันนี้ (15 กรกฎาคม) ที่ ศูนย์เยาวชนวัดคลองเตยใน เขตคลองเตย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับกลุ่มเด็กที่อาศัยในชุมชนคลองเตย ซึ่งอุปกรณ์ที่นำมามอบวันนี้มาจากภาคประชาชนที่เป็นรุ่นน้องได้ติดตามการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ซึ่งชัชชาติเคยระบุว่าต้องการหาอุปกรณ์กีฬามามอบให้เด็กๆ ในชุมชน


ชัชชาติ กล่าวว่าสำหรับ กทม.เองต้องเข้ามาช่วยเหลือดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่อยากให้หลายฝ่ายได้มีส่วนร่วมกัน อาจจะไม่ต้องให้แต่สิ่งของ แต่ช่วยเข้ามาดูแลมาทำกิจกรรมต่างๆ สร้างแรงบันดาลใจ เพราะความจริงแล้วอุปกรณ์ไม่ได้สำคัญที่สุดเท่ากับการสร้างแรงบันดาลใจ การมีส่วนร่วมให้กับเด็ก


ส่วนการลงพื้นที่ติดตามการเก็บขยะของเจ้าหน้าที่กทม.ตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ชัชชาติ กล่าวว่า ขยะสำหรับประชาชนเหมือนของวิเศษที่ตอนเช้าทิ้ง ตอนกลางคืนหายไป เมื่อวานจึงอยากลองไปดู ส่วนตัวรู้กระบวนการ แต่ไม่เคยติดตามไปกับรถเก็บขยะ ทั้งนี้จากที่เห็นรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่จะต้องเสียเวลามากกับการคัดแยกขยะที่ท้ายรถ ฉะนั้นแล้วหากเป็นไปได้ก็อยากให้ขยะต้นทางมีการแยกขยะเปียกและแห้งให้เรียบร้อย ส่วนแห้งก็แบ่งเป็นพวกรีไซเคิล ส่วนเปียกก็แบ่งเป็นเศษขยะ สำหรับข้อดีที่จะเกิดขึ้นคือรถขยะจะสามารถวิ่งทำรอบได้เร็วขึ้น และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานจะปลอดภัยขึ้นด้วย


ฉะนั้นจากนี้ต้องพิจารณาว่าจะแยกขยะได้ไหม จัดการขยะรีไซเคิลได้อย่างไร รวมไปถึงอุปกรณ์ สวัสดิการสำหรับดูแลสวัสดิภาพที่เหมาะสมในการปฏิบัติงาน เพราะหลายคนทำงานหนัก มีความเสี่ยง จากที่ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวานนี้อยากสะท้อนให้เห็นว่าขยะไม่ใช่ของวิเศษที่จะหายไปเอง แต่ต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ มากมาย ส่วนตัวมองว่าการพยายามลดขยะ รีไซเคิลขยะตั้งแต่ต้นทางยังเป็นวิธีที่ดีในการจัดการปัญหาขยะ


ชัชชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับกรุงเทพปัญหาเยอะ แต่เป็นปัญหาที่ซ้ำ ฉะนั้นถ้ามีการทำได้ที่เขตได้เขตหนึ่ง นำร่องจะเป็นต้นแบบให้พื้นที่อื่นๆ ได้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่เก็บขยะวานนี้ (14 ก.ค.) ขยะจำนวนมากมาจากคอนโด และโรงแรมขนาดใหญ่ แต่สำหรับห้างสรรพสินค้าส่วนมากผ่านการขายขยะแล้วจึงไม่เยอะมาก


ส่วนเรื่องค่าตอบแทนที่เคยมีการหารือร่วมกันเป็นหน้าที่ของจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่รับมอบหมายดูแลเรื่องนี้อยู่ คาดว่าจะเป็นการพิจารณาตั้งแต่ส่วนของพนักงานกวาด พนักงานขับรถ และเก็บขยะ เจ้าหน้าที่จัดการระบายน้ำ เพราะทุกหน้าที่นี้มีความเสี่ยงในการทำงานทั้งหมด จึงต้องดูแลให้เหมาะสมที่สุด


ชัชชาติกล่าวว่า ที่ผ่านมากทม.ให้บริการประชาชนอย่างละเอียด อย่างเจ้าหน้าที่เก็บขยะเองจะเดินเข้าไปตามหน้าบ้านเพื่อเก็บขยะ แต่จากนี้จะเจอกันครึ่งทางเป็นไปได้ไหม เช่นทุกคนนำขยะมารวมกันที่จุดทิ้งตรงกลาง อย่างน้อยเป็นการช่วยประหยัดเวลา แต่ต้องมีการพิจารณาต่อไป เพราะปัญหาทั้งหมดต้องแก้ตั้งแต่ต้นทางไปถึงปลายทาง


สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ของกทม.ขณะนี้ ชัชชาติกล่าวว่า เห็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากที่พูดคุยกับทีมแพทย์ตัวเลขยังไม่เพิ่มขึ้นเหมือนสถานการณ์ก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่ผู้ที่ติดเชื้อจะหายเอง แต่กลุ่มเดียวที่ต้องกังวลและเฝ้าระวังพิเศษคือกลุ่ม 608



คุณอาจสนใจ

Related News