สังคม

'แซน-กระติก' เปิดใจ ถูกเลื่อนครั้งที่ 3 ขอใช้สิทธิร้องอัยการสูงสุด เผยอยากเปลี่ยนจาก 'ผู้ต้องหา' เป็น 'จำเลย' แล้ว

โดย nattachat_c

8 ก.ค. 2565

65 views

กลุ่มผู้ต้องหาคดีแตงโม เข้ารายงานตัวกับอัยการจังหวัดนนทบุรีตามนัด อัยการพิจารณาแล้ว ขอเลื่อนสั่งคดีเป็นวันที่ 3 สิงหาคม ขณะที่บรรยากาศในห้องอัยการค่อนข้างตรึงเครียด


กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งกับคดี การเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม ภัทรธิดา ซึ่งเมื่อวานนี้เป็นวันที่ครบกำหนดที่อัยการจังหวัดนนทบุรี นัดผู้ต้องหา คือคนบนเรือและกุนซือ1 คนรวม 6 เข้าเพื่อฟังการสั่งคดี ตั้งแต่ช่วงเช้าบรรยากาศที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี


ต่อมา นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของแซน  เดินทางมาถึงสำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี พร้อมเปิดเผยว่า ในวันนี้ที่พนักงานอัยการนัดฟังคำสั่งทางคดีผู้ต้องหาทุกคนต้องมาตามนัด ซึ่งส่วนตัวอยากให้มีการยื่นคำสั่งฟ้องวันนี้ เลยเพราะหากมีการเลื่อนอีกมองว่าล่าช้าเป็นครั้งที่ 3 แล้ว


และหากมีการเลื่อนฟังคำสั่ง ตนได้มีการปรึกษาหารือกับแซนและกระติกว่า ทั้ง 2 คน จะใช้สิทธิของผู้ต้องหา ในการยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ซึ่งได้ร่างคำร้องขอความเป็นธรรมเอาไว้แล้ว โดยเหตุผลที่ต้องยื่นเพราะมองว่า “ความยุติธรรมที่ล่าช้า นั่นคือไม่ยุติธรรม”


ผู้เสียหายควรได้รับการชดเชยโดยเร็ว และผู้ต้องหาก็ควรได้รับโอกาสในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์โดยเร็ว ไม่ใช่ปล่อยให้โดนต่อว่าแบบนี้ ถ้าอัยการมีคำสั่งฟ้องจะได้ไปพิสูจน์กันต่อในชั้นศาล


ในระหว่างที่อยู่ในห้องกับอัยการ พบว่า สีหน้าและท่าทางของผู้ต้องหาทั้งหมด มีสีหน้าที่ตึงเครียด และไม่ค่อยใจ บางครั้งมีการพุดคุยเสียงดังผ่านออกมานอกห้อง ใช้เวลาขั้นตอนนี้ประมาณ 30นาที ก็มีการเซ็นเอกสาร จากนั้น แต่ละคนก็เดินออกนอกห้องทันที

-------------

จากนั้น ผู้ต้องหาทยอยเดินทางกลับออกมา กระติกและแซน ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน


กระติก กล่าวว่า “ตอนนี้ตนอยากเปลี่ยนสถานะไปเป็นจำเลยแล้ว เพราะจะได้เริ่มต่อสู้คดี เนื่องจากตอนนี้ ตนเป็นผู้ต้องหา ต้องโดนเรียกสอบสวน ต้องให้ความร่วมมือ พอไม่ให้ความร่วมมือ ก็โดนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม และการที่อัยการเลื่อนสั่งคดีออกไปอีก ก็ทำให้ทุกคนเดือดร้อน”เสียเวลา อีกทั้งยังทำให้กลายเป็นเรื่องของคนหิวแสงนอกสำนวน ที่พยายามจะแทรกแซงเข้ามาอยู่ในสำนวนตลอดเวลา โดยส่วนตัวมองว่า การที่อัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งทางคดีในวันนี้เป็นครั้งที่3  พวกตนก็จะใช้สิทธิให้เต็มที่ จะไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานอัยการสูงสุด เพราะมองว่ากระบวนการยุติธรรมต้องรวดเร็วและเป็นธรรมด้วย แต่นี่ผ่านมา 4 เดือนแล้ว มันไม่เร็วอย่างที่ตนคิดและไม่ยุติธรรมด้วย โดยตนรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ข้อกล่าวหาบางข้อก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงถูกแจ้ง ดังนั้น ช่องทางไหนที่ตนสามารถใช้สิทธิเพื่อตัวเองได้ ก็จะทำ


แซน ว่า การที่เลื่อนคดีออกไป ทำให้บุคคลที่อยู่นอกสำนวน พยายามจะเข้ามา ทำให้ทุกกระบวนการยุติธรรมปั่นป่วน ทำให้เป็นประเด็น ทั้งที่ไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย ปั้นน้ำเป็นตัว ตนอยากบอกคนนี้ว่า “ควรหยุดได้แล้ว และถ้าหาทางลงไม่ได้ ก็แค่ออกมาขอโทษ เป็นตัวอย่างให้คนรุ่นหลัง โดยตอนนี้มีอยู่คนเดียวที่เป็นปัญหา” ส่วนการยื่นร้องขอความเป็นธรรม ผู้ต้องหาทุกคนก็จะยื่นทั้งหมดเป็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยแซนย้ำว่า พวกเราสามัคคีกัน ไม่ได้ทำอะไรผิด และขอความยุติธรรมให้พวกเราด้วย

------------

ในฝั่งของอัยการจังหวัดนนทบุรี นางสาวสุภาภรณ์ นิปวณิชย์ หรืออัยการดาว อัยการจังหวัดนนทบุรี ซึ่งดูแลคดีนี้ ก็ออกมาแถลงต่อสื่อมวลชน ว่า  ได้เลื่อนฟังคำสั่งทางคดีออกไป  โดยนัดหมายผู้ต้องหา มาฟังคำสั่งในวันที่ 3 ส.ค. 65 เวลา 10.00 น. เนื่องจากคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาบางส่วน ซึ่งเป็นขั้นตอนตามส่วนของราชการตามปกติ


เพราะมีเหตุขัดข้องในการหาวันนัดที่ลงตัวกันทั้งสองฝ่าย จึงได้เร็วที่สุดเป็นวันที่ 3 ส.ค. พร้อมย้ำว่า อัยการมีกรอบระยะเวลาการทำงานชัดเจน ความรวดเร็วก็เป็นความยุติธรรมอย่างหนึ่ง และได้แจ้งข้อมูลให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วว่าจะเลื่อนไปเป็นวันดังกล่าว


เมื่อถามว่า เหตุผลของการเลื่อน เกี่ยวข้องกับประเด็น ที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไปยื่นหนังสือมาก่อนหน้านี้หรือไม่นั้น อัยการดาว ระบุว่า ขอไม่พูดถึงบุคคลภายนอก เพราะการพิจารณาสำนวน เป็นเรื่องของข้อเท็จจริง เหตุและผลในสำนวน ก็ขอให้คนที่รับฟังบุคคคลใช้วิจารณญาณด้วย


ตอนนี้ข้อมูลในสำนวน มีครบถ้วนบริบูรณ์แล้ว แต่ติดที่ขั้นตอนกระบวนการเท่านั้น แต่ในช่วงระยะเวลาที่มีการเลื่อนออกไป ก็ยังไม่รู้เหตุปัจจัยที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอีก จึงไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำฟ้องหรือไม่


ส่วนการขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมของคุณแม่แตงโม ซึ่งเป็นผู้เสียหายนั้น อัยการดาวชี้แจงว่า ถ้าผู้เสียหายถอนฟ้องในคดีอื่นเพื่อขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ตามบรรทัดฐานสามารถทำได้ แต่ต้องถอนฟ้องเพื่อขอเป็นโจทก์ร่วมก่อน ทั้งนี้ หากผู้เสียหายมีการใช้สิทธิฟ้องคดีไปแล้ว ก็ไม่สามารถเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้ โดยอัยการคงต้องไปดูว่ามีการถอนฟ้องในลักษณะไหนอีกครั้ง ซึ่งศาลจะใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาว่าจะอนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์ร่วมหรือไม่


ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาจะไปยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด มองว่า ตนเองได้ชี้แจงในรายละเอียดให้ผู้ต้องหารับทราบถึงเหตุผลในการเลื่อนแล้ว หากผู้ต้องหาไม่พอใจก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่อัยการมีคำตอบ อธิบายได้หมด พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ล่าช้า มีกรอบการทำงานที่ชัดเจน ส่วนอธิบายแล้วผู้ต้องหาจะเข้าใจหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ และเป็นดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อคำร้องดังกล่าว

-------------

ช่วงบ่าย กระติก และ แซน วิศาพัช  พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ที่สำนักงานอัยการสูงสุด แจ้งวัฒนะ


โดยมีนายกฤษฎา กสานติกุล รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนรับหนังสือ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที


จากนั้นทั้งหมดก็มาให้สัมภาณ์อีกครั้ง โดย นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ทนายความของกระติก  กล่าวว่า การยื่นหนังสือวันนี้ เป็นความประสงค์ของผู้ต้องหาทั้งหมด และเป็นสิทธิที่จะร้องขอความเป็นธรรม เพราะอยากให้คดีเข้าสู่ชั้นศาล เพื่อพิสูจน์ตัวเองต่อสังคม ให้ได้รับรู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดตามที่ถูกสังคมพิพากษา ซึ่งตั้งใจจะยื่นตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเมื่อช่วงเช้าก็ยังไม่ได้ทราบว่าจะมีการเลื่อนฟังคำสั่งทางคดีไปเป็นวันที่ 3 ส.ค. พอมีการเลื่อน ก็มองว่าเป็นเรื่องดีที่ได้ยื่นหนังสือเพื่อให้อัยการสูงสุดรับพิจารณา และให้เร่งรัดในการพิจารณาสำนวนเพื่อส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดโดยเร็ว


ทั้งนี้ หากไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด ก็ไม่กังวลหากอัยการสั่งให้แจ้งข้อหาอะไรเพิ่มเติม แต่อยากเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม


ด้านนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของแซน กล่าวว่า การร้องขอความเป็นธรรม เป็นสิทธิของผู้ต้องหาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้กระบวนการเดินไปอย่างความรวดเร็ว เที่ยงธรรม และที่ผ่านมาผู้ต้องหาถูกเรียกสอบเพิ่มเติมหลายครั้ง และถ้าปฏิเสธก็ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีก จึงมองว่าทำไมผู้ต้องหาจะต้องถูกกระทำแบบนี้ซ้ำๆ ควรให้โอกาสและให้สิทธิบ้าง ดังนั้น เมื่อมากระทบสิทธิ ผู้ต้องหาจึงต้องออกมาปกป้องสิทธิของตัวเอง


ด้าน กระติก กล่าวว่า การมายื่นร้องขอความเป็นธรรมในวันนี้ เป็นการที่ตนใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในการปกป้องตนเอง และไม่ได้ต้องการให้ใครมาเห็นใจ แต่มองว่าตนไม่ได้รับความยุติธรรม คดียังไปไม่ถึงชั้นศาล แต่ตนกลับถูกสังคมตัดสิน


ที่ผ่านมาหลักฐานมีอยู่ก็ให้ตำรวจไปหมดแล้ว ตำรวจแจ้งข้อหามาเท่านี้ แต่ก็มีคนพยายามจะทำให้ตนเป็นฆาตกรให้ได้ ซึ่งเป็นสิทธิของเขาที่จะคิดหรือแสดงความเห็นได้ แต่ก็ต้องยอมรับผลของการกระทำด้วยหากตนจะฟ้องกลับ โดยส่วนตัวอยากให้มีการคำสั่งฟ้องคดีโดยเร็ว เพราะเมื่อคดีเข้าสู่ชั้นศาลก็จะคือขั้นตอนการพิสูจน์ความจริง  เพราะยิ่งนาน คนนอกก็ยิ่งเข้ามาแทรกแซงอยากบอกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมากว่า 4 เดือน ก็เต็มที่แล้ว เต็มเหนี่ยวแล้ว และยังไม่หยุด ตนเลยขอใช้สิทธิในการร้องเรียนบ้าง


ส่วนเหตุผลที่พึ่งมายื่นร้องขอความเป็นธรรมนั้น เพราะที่ผ่านมา ไม่ได้คิดว่าอัยการจะเลื่อนไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่มาตามอัยการนัด ตนเองและทุกคน เตรียมตัวที่จะถูกสั่งฟ้งอมาตลอด แต่สุดท้ายก็เลื่อน และไม่เคยได้รับการชี้แจงสาเหตุ เพิ่งมีวันนี้ที่อัยการชี้แจง แต่ตนก็ทราบแค่เพียงส่วนหนึ่ง เพราะอัยการบอกทั้งหมดไม่ได้


ส่วนกรณีที่ คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน ไปยื่นขอถอนฟ้องคดีฆาตกรรม ที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ไปยื่นฟ้องตรงต่อศาลจังหวัดนนทบุรีไว้นั้น กระติก กล่าวว่า ตนทราบเรื่องนี้จากข่าว ซึ่งมองว่าก็เป็นสิทธิของคุณแม่ ตนมีหน้าที่วางแผนตั้งรับว่าจะเดินหน้าอย่างไร


นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามว่าเมื่อเช้า เกิดเหตุการณ์อะไรในห้องอัยการ ทุกคนถึงมีสีหน้าเครียด และพูดคุยเสียงดัง กระติก บอกว่า ผู้ต้องหาไม่ได้หงุดหงิดกับอัยการ แต่หงุดหงิดกับเรื่องกระบวนการหลายๆ อย่างเท่านั้นที่รู้สึกว่าล่าช้าและไม่เป็นธรรม


ผู้สื่อข่าวยังสอบถามว่า ประเด็นการตรวจสอบมือถือ และเรียกสอบปากคำนั้น กระติกบอกว่า ที่ผ่านมา ตนได้นำมือถือ และหลักฐานทั้งหมดที่มี ให้ตรวจสอบไปแล้วตั้งแต่แรก ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตำรวจขอมาก็ให้ตลอด ถ้าไม่บริสุทธิ์ใจคงไม่ให้  ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ดีตลอด แต่ประเด็นอะไรก็ตามที่มองว่าเป็นการทำซ้ำซ้อน ไม่เกิดประโยชน์ ตนก็มีสิทธิที่จะปฏิเสธ


แต่เรื่องโทรศัพท์มือถือ มาขอไปตรวจซ้ำ ตนขอขอสงวนไว้เลย เพราะโทรศัพท์คือชีวิต การไม่มีโทรศัพท์อยู่กับตัวแค่วันเดียวก็ทำให้ตนลำบาก เพราะตนต้องใช้ทำงาน จึงไม่สะดวกจะให้ หากไม่จำเป็น


ด้าน  แซน วิศาพัช  เปิดเผยว่า ตนก็มาเรียกร้องขอความเป็นธรรมเช่นกัน ที่ผ่านมา ก็ให้ความร่วมมืออกับตำรวจด้วยดีมาตลอด แต่กรณีที่อัยการสั่งให้พนักงานสอบสวน มาขอตรวจโทรศัพท์มือถือตนและคนบนเรือเพิ่มเติม ซ้ำอีกครั้ง โดยที่พนักงานสอบสวน ไม่ได้บอกเหตุผล ซึ่ง ตนปฏิเสธ เพราะเวลาผ่านมากว่า 4 เดือน ในโทรศัพท์มือถือมีแต่เรื่องส่วนตัวแล้ว และหลักฐานทั้งหมดตำรวจก็เคยเอาไปหมดแล้ว เป็นอดีตไปแล้ว ไม่เข้าใจว่าต้องการข้อมูลอะไรอีก


ส่วนตัวรู้สึกเบื่อกับการที่ถูกพยายามขุดเรื่องนี้ ไม่จบสักที การที่มีหน้าที่หาทั้งความบริสุทธิ์และความผิดของผู้ต้องหาแต่พอหาความผิดไม่เจอ ก็พยายามจะมาหาให้เจอให้ได้ ตนมองว่า จะเจอได้อย่างไร ในเมื่อพวกตนไม่ได้ทำอะไรผิด อยากให้ดำเนินการตามหลักการและเหตุผลไม่ใช่กระแสสังคม


สำหรับการดำเนินคดีของกลุ่มผู้ต้องหาบนเรือ ที่จะฟ้องร้องและดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำให้เสียหาย นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ทนายความของแซน กล่าวว่า การเตรียมฟ้องกลับในคดีฆาตกรรมที่มีผู้ไปฟ้องตรงต่อศาลนั้น แม้ผู้เสียหายจะมีการถอนฟ้องไป แต่มองว่า เมื่อผู้ต้องหาถูกดำเนินการยื่นฟ้องที่เป็นเท็จหรือไม่เป็นความจริง แต่ ความผิดเกิดขึ้นแล้ว ฝั่งผู้ต้องหาก็ต้องปกป้องสิทธิ กรณีนี้คุณแม่แตงโมจะถอนฟ้องไปแล้ว แต่สิทธิยังมีอยู่ ซึ่งฝั่งผู้ต้องหาก็ต้องฟ้องกลับกับคนที่ฟ้องเท็จ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใคร

-----------

และขอยืนยันว่า  หลังจากอัยการจังหวัดนนทบุรี มีคำสั่งฟ้องแล้ว หลังจากนี้ คนบนเรือจะออกมาฟ้องร้องดำเนินคดี กับทุกคน ทุกการกระทำผิด ต่างกรรมต่างวาระ ในสิทธิที่คนบนเรือถูกโดนละเมิด โดยหากสั่งฟ้องวันที่ 3 ส.ค. / วันที่ 4,5,6 ส.ค. ก็จะยื่นฟ้องทันที


โดยในส่วนของ กระติก บอกว่า ตนได้เริ่มดำเนินคดีไปแล้วเกิน 10 คดี ซึ่งเป็นบุคคลที่มาตามด่าในโซเชียลทั้งหมด เพราะตนไม่ได้ใจดีแบบแซน โดยคนที่ตนดำเนินคดีเป็นคนเดิมๆ ที่มาตามด่าซ้ำๆ ไม่ยอมเลิกสักที ส่วนบุคคลอื่นๆ ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นของการพิจารณา บางอย่างก็ต้องรอให้ข้อเท็จจริงนิ่งก่อน แต่อะไรที่ทำได้ก่อนก็จะทำเลย ส่วนใครที่จะมาขอโทษตนไม่คุยทั้งนั้น


ส่วน แซน บอกว่า ตอนนี้ตนเริ่มดำเนินคดีไปแล้ว 4 คดี ถ้าจะมาขอโทษ ก็ไม่รับคำขอโทษเหมือนกัน เพราะตอนทำทำไมไม่คิด แต่ในส่วนชาวโซเชียลที่เข้ามาด่า  ก็มีมาขอโทษบ้าง ซึ่งตนไม่โกรธชาวโซเชียลเพราะเชื่อตามสื่อ ตามกระแส ตนโกรธแค่คนเดียว
------------

วานนี้ 7 ก.ค.65 จากกรณีที่ "แม่แตงโม" ได้ยื่นหนังสือถอนฟ้อง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้ถอนฟ้องเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ในขณะที่ "อัจฉริยะ" ระบุว่า "ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว คดีแตงโม ถอนฟ้องไปแล้ว หมดหน้าที่ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ทั้งนี้ศาลจังหวัดนนทบุรี มีการนัดไต่สวนคำฟ้อง ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ ก็ยุติลง เมื่อมีการถอนฟ้อง


ขณะที่เพจ Happy Melon official หรือบังแจ็คนั้น ได้ออกมาเคลื่อนไหวแล้ว โดยระบุว่า...ถอนฟ้องอัจฉริยะที่ฟ้องไว้กับห้าคนบนเรือแต่คุณแม่ตามสัญญาว่าจะฟ้องการทำร้ายร่างกายทำให้ผู้อื่นแก่ความตายแต่ถ้าคุณแม่ไม่ทำตามอย่ามาว่าผมแล้วกัน


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/waTHvVPhq1w

คุณอาจสนใจ

Related News