สังคม

ตร.ไซเบอร์รวบขบวนการลวงให้ลงทุน เตือนอย่าโลภเงินตอบแทนสูง 180%

โดย taweelap_b

1 ก.ค. 2565

901 views

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 65 พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แถลงผลปฎิบัติ “ตำรวจไซเบอร์เปิดยุทธการตัดวงจรความเสียหายขบวนการหลอกระดมทุน นอร์ทเทิร์น ลอว์เยอร์ (Northern Lawyer) โดยการชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนออนไลน์


สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์สืบสวนทราบว่า บริษัท นอร์ทเทิร์น ลอว์เยอร์ จำกัด มีพฤติการณ์การโฆษณาชักชวนให้ประชาชนทั่วไปทางสื่อสังคมออนไลน์ให้มาสมัครไปสมาชิกในลักษณะการระดมทุน ซึ่งอ้างว่าจะนำเงินของสมาชิก ไปลงทุนต่าง ๆ เช่น ซื้อขายทรัพย์สินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เร้นซี่ (Cryptocurrency), ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ หรือ ฟอร์เร็กซ์ (Forex), ซื้อขายทองคำ, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, ซื้อขายรถยนต์มือสอง และค้าอัญมณี โดยจะให้ผลตอบแทนแก่สมาชิกในอัตราสูงสุดถึงร้อยละ 180 ต่อปี พบว่าเปิดดำเนินการมาได้ 11 เดือนแล้ว อีกทั้งยังมีจัดสัมนาชักชวนหาสมาชิกทุก ๆ สัปดาห์


สำหรับการลงทุนจะแบ่งเป็นแพ็กเกจ คือ เริ่มต้นลงทุนที่ 4,000 บาท ครบ 10 เดือน รับผลตอบแทน 6,000 บาท ไล่เรียงไปตามจำนวนเงินลงทุน ไปจนถึงแพ็กเกจสุดท้าย ลงทุนสูงสุดที่ 400,000 บาท ครบ 10 เดือน ได้รับผลตอบแทนถึง 600,000 บาท จึงมีสมาชิกสนใจเข้าร่วมลงทุนในแพ็กเกจต่าง ๆ กว่า 90,000 คน มีเงินหมุนเวียนกว่า 1,400 ล้านบาท แต่ไม่ได้นำเงินของสมาชิกไปลงทุนหรือทำธุรกิจตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เป็นการหลอกลวงลงทุนในลักษณะของแชร์ลูกโซ่ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมาย จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนศาลจังหวัดเชียงใหม่อนุมัติหมายจับ


ในวันที่ 28 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา ตำรวจไซเบอร์ ได้เปิดปฏิบัติการเพื่อตัดวงจรความเสียหายของเครือข่ายนี้ โดยเข้าตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวม 5 แห่ง ประกอบด้วยอำเภอเมืองเชียงใหม่ 2 แห่ง และอำเภอสันทราย 3 แห่ง จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน คือ น.ส.ดารารัตน์ อายุ 46 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัท และน.ส.เกวรินทร์ อายุ 56 ปี ทำหน้าที่เป็นวิทยากรชักชวนสมาชิกมาร่วมลงทุน ทั้งหมดถูกดำเนินคดีข้อหา ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อีกทั้งจะดำเนินการตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ด้วย


จากการตรวจค้นได้มีการตรวจยึดทรัพย์สินหลายรายการ ประกอบด้วยโฉนดที่ดิน 7 แปลง, รถยนต์หรู 2 คัน, กระเป๋าแบรนด์เนมกว่า 10 ใบ และอายัดเงินในบัญชีของกลุ่มผู้ต้องหาได้กว่า 16 ล้านบาท รวมมูลค่ากว่า 49 ล้านบาท ซึ่งตำรวจไซเบอร์ จะขยายผลติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากยังมีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน คือ นายรอสลี อายุ 48 ปี ยังอยู่ระหว่างหลบหนี


พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. เปิดเผยว่า พฤติกรรมของเครือข่ายดังกล่าว เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่แน่นอน ซึ่งเป็นการหลอกลวงให้ลงทุน แล้วจะได้ค่าตอบแทนจากการฝากเงินถึง 180% ซึ่งเป็นอัตราที่มากเกินจริง เป็นไปไม่ได้ หากมีจริงธนาคารทั่วโลกคงต้องล่มสลาย เพราะจะไม่มีใครไปฝากเงินกับธนาคาร จึงขอเตือนประชาชนให้ไม่หลงเชื่อ ทั้งนี้ ขอเตือนกับผู้ที่คิดจะกระทำผิดลักษณะดังกล่าวในทุกแพลตฟอร์มด้วย หากกระทำจะต้องถูกจับกุมแน่นอน ถือเป็นภัยในโลกไซเบอร์ ที่ไปชักชวนคนที่อยู่ในภาวะอยากมัรายได้ อาจจะเป็นเงินก้อนสุดท้ายให้เอามาลงทุน สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรกลับคืน


ในกรณีนี้ ผู้ที่เข้าร่วมลงทุนส่วนมากก็มีฐานะดี แต่อาจเกิดจากความโลภ โดยมีการเช่าโรงแรมหรูทุกสัปดาห์เพื่อจัดสัมมนา อบรมให้ข้อมูล ทั้งนี้ ยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ แต่ตำรวจไซเบอร์ได้ตรวจสอบพบและดำเนินการจับกุมทันที ซึ่งหลังจากนี้ผู้เสียหายสามารถเข้ามาร้องทุกข์ต่อกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ หรือแจ้งผ่านช่องทางสายด่วน 1441 ทั้งนี้ ตนฝากเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อกลุ่มคน หรือบริษัทใดก็ตาม ที่อ้างว่าสามารถนำเงินไปบริหารจัดการลงทุน และให้เงินปันผลตอบแทนที่คุ้มค่า เพราะไม่มีธุรกิจใดที่จะทำให้ได้ผลกำไรตอบแทนมาโดยง่าย หากพบกลุ่มบุคคลหรือบริษัทใดที่มีพฤติการณ์ในลักษณะกล่าว ให้แจ้งมายังตำรวจไซเบอร์ได้ทันที เพื่อดำเนินการตรงจสอบต่อไป


พ.ต.อ.จิรัฏฐ์ จึงภัทรนิษฐ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.4 เปิดเผยเส้นทางการเงินของเครือข่ายนี้ว่า จากการตรวจสอบ พบว่าเมื่อสมาชิกหลงเชื่อโอนเงินมาลงทุนผ่านการโอนเข้าบัญชีธนาคาร หลังจากนั้นจะมีการนำเงินดังกล่าวตั้งโปรแกรมโอนอัตโนมัติให้สมาชิกคนเก่าบางส่วน ส่วนเงินที่เหลือ จะแบ่งไปจัดสัมมนา จัดอบรม และโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของ น.ส.ดารารัตน์ และน.ส.เกวรินทร์ ซึ่งพบว่านำไปซื้อทรัพย์สิน และอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ยังมีเงินอีกส่วนที่ถูกโอนเข้าบัญชีของนายรอสลี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาอีก 1 รายที่ร่วมขบวนการนี้ โดยขณะนี้ นายรอสลี ยังคงหลบหนีอยู่

คุณอาจสนใจ

Related News