สังคม

สาวร้อง บช.น. ถูกตำรวจหลอกคบ สูญเงินนับล้าน

โดย paranee_s

28 มิ.ย. 2565

804 views

แม่ค้าย่านหลักสองเดินทางนำเอกสารสลิปการโอนเงินกว่า 300 ครั้ง รวมถึงตั๋วจำนำเครื่องเพชร เครื่องทอง มูลค่ารวมกว่า 3 แสนบาท และเอกสารการสนทนาทางไลน์กับตำรวจนายหนึ่ง ยศสิบตำรวจโท งานจราจร ของสน.หลักสอง มาทำการเดินเรื่อง พร้อมติดตามการร้องทุกข์


หลังจากที่เคยเดินทางร้องกับหน่วยงานต้นสังกัดหลายหน่วยงาน ทั้งสน.และกองบังคับการ รวมถึงจเรตำรวจ แต่กลับได้รับการตอบกลับว่าเป็นโทษวินัยไม่ร้ายแรง และยังไม่ได้รับการชดใช้เกี่ยวกับทรัพย์สิน ที่ตนนำไปใช้หนี้สินแทนนายตำรวจคนดังกล่าว มูลค่ารวมกันแล้วกว่า 1 ล้านบาท จึงรู้สึกไม่เป็นธรรม


เมื่อมาเจอสื่อมวลชนที่อยู่ระหว่างการเฝ้ารอการทำข่าวที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงนำหลักฐานเข้าปรึกษา เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยผู้เสียหาย ระบุว่า รู้จักกับตำรวจนายนี้เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 เนื่องจากจอดรถขายของอยู่ย่านหลักสอง จึงถูกล็อกล้อรถยนต์ จากนั้นตำรวจนายนี้ได้เข้ามาตีสนิท ก่อนที่จะคบหากัน และขอยืมเงิน โดยอ้างว่าจะนำไปใช้หนี้พนันออนไลน์ ด้วยความเชื่อใจว่าเป็นตำรวจ จึงโอนเงินไปให้ครั้งละ 3 พัน - หลักหมื่นบาท


ซึ่งตำรวจนายนี้ได้มาขอยืมเงินอยู่ตลอด รวมจำนวนการโอนกว่า 2-300 ครั้ง จนตนขาดสภาพคล่องด้านการเงิน จึงต้องนำเครื่องเพชร เครื่องทอง ไปจำนำ 13 ครั้ง โดยแต่ละครั้งตำรวจนายนี้จะเป็นคนเข้าไปจำนำ ก่อนนำตั๋วจำนำคืนมาให้ ก่อนที่จะเอาเงินไป กระทั่งเมื่อปีที่แล้วได้ทวงถามขอเงินคืน เพราะต้องการนำเงินไปจ่ายค่าเทอมให้กับลูก แต่ก็ถูกปฏิเสธมาโดยตลอด


อีกทั้งที่ผ่านมาได้เห็นพฤติกรรมของตำรวจนายนี้เสพยาเสพติด ซึ่งตนเคยเห็นทั้งอุปกรณ์การเสพอยู่ในห้อง แต่ไม่มีภาพหลักฐานการเสพของตำรวจนายนี้ เพราะไม่กล้าถ่ายเก็บเอาไว้ นอกจากนั้น ตำรวจนายนี้ยังเคยให้โอนเงินจากบัญชีตัวเองไปให้กับเพื่อนตำรวจในสน.อีก 5 คน ครั้งละหลักพัน ถึงหมื่นบาท โดยอ้างว่าเป็นส่วนแบ่งจากการล็อกล้อรถ และใช้หนี้ที่ติดไว้ แต่ก็ไม่มีการคืนเงินจำนวนดังกล่าว ซึ่งรวมกันแล้วมีมูลค่ากว่า 1 หมื่นบาท จนเมื่อปลายปี 2564 ได้มีการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเข้าร้องทุกข์เพื่อขอความช่วยเหลือกับผู้บังคับบัญชาของกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 และกองบัญชาการตำรวจนครบาล รวมทั้งจเรตำรวจแห่งชาติ แต่หน่วยบังคับบัญชา ได้ลงความเห็นว่าเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนไปตามระเบียบแล้ว และยังเห็นว่าตำรวจนายนี้ยังคงออกมาปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามปกติ


ส่วนเงินที่ยืมไปก็ยังไม่ได้คืนแม้แต่บาทเดียว รวมถึงตนเองยังเคยได้รับหนังสือตอบกลับจากทางผู้บังคับบัญชาของนายตำรวจรายนี้ว่า ผลการรับความผิดของนายตำรวจดังกล่าวมีการระบุชัดเจนว่ามีการเล่นการพนันออนไลน์และเสพยาไอซ์ แต่ก็ยังสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้


นอกจากนั้นยังมีหลักฐานว่าตำรวจนายนี้ได้นำรถบรรทุกมาขนของใช้ที่อยู่ในบ้านบางส่วนไปตกแต่งที่บ้านของตัวเองในจังหวัดสกลนคร โดยอ้างว่าเป็นการซื้อขาย แต่ไม่มีการทำสัญญา หรือจ่ายเงิน และมีชีวิตที่สุขสบาย ซึ่งก็ต่างกับตัวเองที่ต้องมาแบกรับหนี้สินของที่ตำรวจนายนี้ได้ทำเอาไว้ และอยากขอให้ออกมารับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง ทั้งอยากขอให้ผู้บังคับบัญชาลงโทษตำรวจนายนี้ที่มีหลักฐานพบว่ากระทำผิดดังกล่าว

คุณอาจสนใจ

Related News