สังคม

คดีบุกรุกป่าเขาใหญ่ของ “สุนทร” หมดอายุความแล้ว อสส. แจง ศาลต้องจำหน่ายคดี

โดย paranee_s

13 มิ.ย. 2565

430 views

จากกรณีที่ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ได้บุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดปราจีนบุรี ในช่วงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ - 12 กรกฎาคม 2545 จากนั้นได้มีผู้ร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. และ ได้รับเรื่องไว้เมื่อ 27 มกราคม 2563 จากนั้น ป.ป.ช.มีมติชี้มูลเมื่อ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา


ทั้งนี้นายสุนทร ถูกกล่าวหา จำนวน 3 ข้อหา คือ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำ ซื้อรักษาทรัพยากรโดยใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ มาตรา 15, สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และ สนับสนุนเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำเอกสาร ซึ่งมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นเท็จตามมาตรา 162 ประกอบมาตรา 86


โดยเมื่อ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล ได้ส่งสำนวนมายังสำนักงานอัยการปราบปรามคดีทุจริตภาค 2 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา แต่วันที่ 3 - 5 มิถุนายนเป็นวันหยุดราชการ ก่อนที่เรื่องได้ถูกส่งมาที่อัยการสูงสุดในฐานะผู้มีอำนาจในวันที่ 6 มิถุนายน และได้พิจารณาสั่งคดีวันที่ 7 มิถุนายน พร้อมส่งเรื่องกลับไปยังอัยการปราบปรามทุจริตภาค 2 เพื่อประสานงานกับ ป.ป.ช. นำตัวผู้ถูกกล่าวหามาฟ้อง


โดยวันที่ 9 มิถุนายน ผู้ต้องหาได้มารายงานตัวกับอัยการ 4 คน และวันที่ 10 มิถุนายน นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นลูกของนายสุนทร ก็ได้มารายงานตัวกับอัยการเพิ่มอีก 1 คน โดยนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า สรุปว่าในคดีนี้ ได้มีการสั่งฟ้องผู้ต้องหาไปทั้งหมด 5 คน จากจำนวนทั้งหมด 10 คน ยังเหลืออีก 5 คน ที่ยังไม่มาพบอัยการ รวมถึงนายสุนทรด้วย


สำหรับในส่วนของนายสุนทร ซึ่งถูกแจ้ง 3 ข้อหา พบว่าคงเหลือเพียงข้อหา เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำ ซื้อรักษาทรัพยากรโดยใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ มาตรา 151 ซึ่งหมดอายุความแล้ววันนี้ เมื่อเวลา 16.30 น. ส่วนอีก 2 ข้อหาได้หมดอายุความตั้งแต่ในชั้นพิจารณาของป.ป.ช.


โดยตามหลักการนับการขาดอายุความ ก็จะต้องนับภายในเวลาที่จะสามารถส่งฟ้องต่อศาลได้ทันเวลาทำการ คือไม่เกิน 16.30 น. เพราะหากว่าได้ตัวมาหลังจากนั้น แต่ศาลปิดทำการแล้ว ก็ไม่สามารถส่งตัวผู้ถูกกล่าวหาฟ้องได้ทันภายในวันนี้อยู่ดี และหากไม่ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหามา กฎหมายก็ระบุไว้ชัดเจนว่า จะไม่สามารถดำเนินคดีอาญาได้ เพราะศาลจะไม่รับฟ้องและสั่งจำหน่ายคดี


ส่วนเรื่องคดีของนายสุนทร วิลาวัลย์ ที่หมดอายุความแล้วนั้น เลขา ป.ป.ช. ระบุว่า ตอนนี้ ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจดำเนินคดีอาญาแล้ว ต้องเป็นหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ และกรมป่าไม้


นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า คดีที่หมดอายุความของ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นพ่อของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นคดีอาญาข้อหาสนับสนุนเจ้าหน้าที่กระทำความผิด ซึ่ง ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้อัยการแล้ว จึงหมดหน้าที่ในที่ดินแปลงนี้


แต่เนื่องจากตอนนี้นายสุนทร และ นางกนกวรรณ ยังครอบครองที่ดินดังกล่าวอยู่ จึงถือว่ายังมีการบุกรุกครอบครองอยู่ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพรรณพืช และกรมป่าไม้ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ จึงสามารถไปแจ้งข้อกล่าวหาบุกรุกได้ เท่าที่ทราบเคยมีการไปแจ้งความแล้ว แต่ไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนว่าใครเป็นคนบุกรุก แต่หลังจาก ป.ป.ช. ชี้มูลไปแล้ว หากทางหน่วยงานต้นสังกัดเห็นว่ามีความผิดก็สามารถไปแจ้งความได้


อย่างไรก็ตาม นายนิวัติไชย ระบุว่า ป.ป.ช. ยังมีอำนาจและกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบที่ดินของนายสุนทรและนางกนกวรรณอีกหลายแปลงที่อยู่ข้างเคียง เนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ ซึ่งอาจเข้าข่ายการบุกรุกป่าเช่นกัน


ขณะที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากร เปิดเผยกับทีมข่าวการเมืองว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้แจ้งความ นายสุนทร และนางกนกวรรณ ไปแล้ว เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2563 ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่า


ส่วนกระบวนการหลังจากป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้วจะดำเนินการอย่างไรนั้น ยืนยันว่าเราได้ดำเนินการตามกรอบกฎหมายเต็มที่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นลักษณะเดียวกับนางสาวปารีณา เมื่อแจ้งความไปแล้ว ก็ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดำเนินการ


และทีมข่าวยังได้ข้อมูลเรื่องการดำเนินคดีข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่ากับนายสุนทรและนางกนกวรรณเพิ่มเติมมาจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ว่า ตำรวจได้ส่งสำนวนฟ้องให้อัยการไปแล้ว และต่อมาอัยการได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง แต่ตำรวจได้ทำความเห็นแย้งไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการอีกครั้ง


อย่างไรก็ตาม สำหรับเลขที่โฉนดที่ดินที่มีการเข้าไปปรับพื้นที่จนนำมาสู่การแจ้งความดำเนินคดี กับนายสุนทรและนางกนกวรรณ ดังกล่าวนั้น ตามที่อธิบดีกรมอุทยานฯ ระบุคือ เลขที่ 28676 จะเป็นเลขาโฉนดคนละแปลงกับที่ ป.ป.ช.ชี้มูลไป


คุณอาจสนใจ

Related News