สังคม

ร้องทนายดังช่วย! สามีภรรยาถูกกระบะปริศนาขับไล่ยิง ต้องกอดลูกหลบกระสุน ที่แท้เป็นตำรวจ

โดย paranee_s

10 มิ.ย. 2565

365 views

จากกรณีที่มีผู้ใช้งาน tiktok รายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 1 นาที 20 วินาที ระบุว่า โดนไล่ยิง ขณะขับรถกลางดึก ซึ่งในรถมีเด็ก 2 คน เป็นเด็กชาย อายุ 1 ขวบ 3 เดือน และเด็กหญิง อายุ 7 ขวบ อยู่ด้วย


ต่อมาผู้เสียหายได้โพสต์คลิปเพิ่มเติม ความยาว 4 นาที เป็นช่วงเวลาที่ขับรถหนีการไล่ล่าของรถยนต์ปริศนา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับตามประกบไม่ห่าง และมีเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด ซึ่งเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา


นางสาววาเศรษฐี ส่งเสียง และนายธนยศ ทองมี สองสามีภรรยา ผู้เสียหายกรณีดังกล่าว ได้เข้าปรึกษา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โดย เล่าว่า วันเกิดเหตุมีอยู่ด้วยกัน 5 คน เป็นผู้ใหญ่ 3 คน และเด็ก 2 คน 


เหตุเกิดขณะขับรถตู้กลับจากขายมันสำปะหลังที่อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อกลับบ้านที่ อ.ปราณบุรี ระหว่างทางเมื่อถึง อ.สามร้อยยอด มีชาย 4 คน ขับรถยนต์สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้จอดรถแล้วนำไฟฉายมาส่องรถของตนเองเพื่อให้จอดรถ แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นที่เปลี่ยวและมืด เกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงขับรถหนี


จากนั้นกลุ่มชายดังกล่าว ก็ได้ขับรถไล่ตามปาดหน้า และใช้อาวุธปืนยิงใส่ประมาณ 6 นัด จึงพยายามขับรถหนีสุดชีวิต ก่อนจะไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจที่ป้อมตำรวจสายตรวจลุ่มโพธิ์ ในอ.ปราณบุรี แต่ไม่มีตำรวจอยู่


กลุ่มชายดังกล่าว ยังขับรถตามมาจนถึงป้อมดังกล่าว แล้วหยิบอาวุธปืนลงมาข่มขู่ อ้างว่าเป็นตำรวจ พร้อมถามว่าตนเองหนีทำไม ด้วยความกลัวจึงบอกให้กลุ่มชายดังกล่าวไปพบกันที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. นาห้วย แต่ไม่ยอมขับตามไป จึงฉวยโอกาสขับรถหนี จนไปเฉี่ยวชนรถของกลุ่มชายดังกล่าว ก่อนไปที่ปั๊มน้ำมัน


จากนั้นจึงได้แจ้งตำรวจ สภ.ปราณบุรี ให้มาตรวจสอบ เพราะเกรงว่ากลุ่มชายดังกล่าวอาจเป็นมิจฉาชีพ อ้างตัวเป็นตำรวจ เพื่อก่อเหตุกับผู้ที่ขับรถสัญจรไปมาในบริเวณดังกล่าว


จากการไปตรวจสอบของตำรวจ สภ.ปราณบุรี พบชิ้นส่วนรถของกลุ่มชายดังกล่าวตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนนายธนยศ ได้ไปแจ้งความทันทีหลังจากเกิดเหตุ แต่จนถึงขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า


ต่อมาหนึ่งในผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นตำรวจยศจ่าสิบตำรวจ สังกัด สภ.สามร้อยยอด ได้ติดต่อมาเข้าพบผู้เสียหาย เพื่อขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าในวันเกิดเหตุ ได้ร่วมกับอาสาฯ เพื่อขอตรวจค้นแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย


จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดความตกใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบุตรสาว อายุ 7 ขวบ ที่ยังหวาดผวาเวลาได้ยินเสียงแตรรถ ส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก จึงยืนยันจะเอาผิดให้ถึงที่สุด


ด้านนายษิทรา ระบุว่า จากการสอบถามข้อเท็จจริงพบว่า ทางผู้เสียหายไม่ได้มีพฤติการณ์อันน่าสงสัยที่จะต้องขอตรวจค้น หรือแม้ว่าตำรวจจะขอตรวจค้น ก็ไม่ควรใช้วิธีการเช่นนี้ ที่ทำให้เกิดความตกใจกลัว ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ , ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต , ยิงปืนและใช้อำนาจโดยมิชอบ และหน่วงเหนี่ยวกักขัง โดยจากนี้จะพาผู้เสียหายไปยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งรัดคดีที่ไม่มีความคืบหน้า


คุณอาจสนใจ

Related News