สังคม

แม่แตงโม อ้าง ไม่รู้ในไทยมีคนกู้ข้อมูลมือถือได้ ยัน ไม่เคยรับเงินบังแจ็ค

โดย paranee_s

7 มิ.ย. 2565

52 views

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และนางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของ นางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นิดา เข้าพบ พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อชี้แจงกรณีที่บังแจ็ค ปล่อยภาพที่กู้คืนมาได้จากโทรศัพท์มือถือของแตงโม


หลังจากสอบปากคำนางภนิดานานกว่า 3 ชั่วโมง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า สาเหตุที่นางภนิดายอมส่งโทรศัพท์มือถือให้บังแจ็ค เพราะอ้างว่าสามารถช่วยปลดล็อกโทรศัพท์มือถือของแตงโมได้ โดยยืนยัน ไม่มีเรื่องเงินค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการซื้อโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า ได้หารือกับนางภนิดาแล้ว เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล พร้อมที่จะเปิดข้อมูลหลักฐานสำคัญทุกอย่าง


นายอัจฉริยะ ยังบอกอีกว่า ขณะนี้ ทราบว่า นาฬิกา กับสร้อยคอของแตงโม หายไป และอยู่ระหว่างการติดตามข้อมูลสิ่งของที่สูญหายนี้มากกว่าที่จะให้น้ำหนักกับพยานหลักฐานต่างๆ ที่บังแจ็คกล่าวอ้าง


นอกจากนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน จะไปร้องเรียน แพทยสภา ให้ตรวจสอบจริยธรรม แพทย์คนหนึ่งที่ให้คำแนะนำกับพนักงานสอบสวนคดีนี้ จากนั้นจะเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดกับเอกชนรายหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องคราบเลือดที่พบบนเรือ ที่กองบังคับการปราบปราม


นางภนิดา ยืนยันว่า ไม่ทราบว่าในประเทศไทย มีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถกู้โทรศัพท์มือถือได้ เพราะก่อนหน้านี้ได้ติดต่อกับบริษัทซึ่งเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้กู้โทรศัพท์มือถือแล้ว แต่ในขณะเดียวกันมีผู้สื่อข่าวสำนักข่าวหนึ่ง แนะนำให้รับโทรศัพท์ของบังแจ็ค ที่ก่อนหน้านี้พยายามติดต่อมาตลอด จนแม่ตัดสินใจพูดคุยด้วย ซึ่งบังแจ็คอ้างว่าทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือทุกอย่าง โดยมีผู้มาสารภาพกับบังแจ็ค ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือทั้งหมดเป็นเช่นไร จึงทำให้แม่ตัดสินใจส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็ค


ส่วนการที่บังแจ็คอ้างว่าได้โอนจำนวน 300,000 บาท ให้นั้น ไม่ได้เป็นการจ่ายค่าโทรศัพท์ให้กับนางภนิดา แต่เป็นการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านเวสเทิร์นยูเนี่ยนให้กับพยานคนหนึ่งในคดี ที่ได้มาเล่าความจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทราบ แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดว่าเป็นใคร


นางภนิดา ยังยอมรับว่า บังแจ็ค บอกว่า มีการสำรองข้อมูลโทรศัพท์ของแตงโมไว้แล้ว และยืนยันว่าจะส่งโทรศัพท์มือถือคืนกลับมาให้ โดยในโทรศัพท์มือถือไม่มีภาพโป๊ หรือข้อมูลที่ไม่เหมาะสม จึงไม่กังวลในประเด็นนี้


ด้านพลตำรวจโทกรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยภายหลังเข้าสอบปากคำนางภนิดาว่า สำหรับทั้ง 30 ประเด็นที่ได้สอบปากคำนั้น ก็ได้ตอบเคลียร์ชัดเจนในทุกประเด็น ซึ่งนางภนิดาก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟังในการติดต่อกับบังแจ็คตั้งแต่แรก ส่วนความจำเป็นที่ต้องส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็คนั้นก็เป็นเพราะอยากจะรู้ความจริง ซึ่งขอเปิดเผยเท่านี้เพราะอยู่ในสำนวน โดยภายในสัปดาห์นี้บังแจ็คจะส่งโทรศัพท์กลับคืนมา ซึ่งบังแจ็คต้องส่งกลับมาเพราะเป็นทรัพย์สินของทางคุณแม่


ทั้งนี้ ข้อมูลที่อยู่ในโทรศัพท์ว่าจะอยู่ครบหรือถูกเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น ก็ต้องบอกว่าขอดูตัวเครื่องก่อน เพราะยังไม่มั่นใจในตัวของบังแจ็ค ซึ่งควรต้องส่งโทรศัพท์กลับมา ส่วนจะมีการซื้อขายโทรศัพท์หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบในเรื่องนี้ แต่ถ้ามีการซื้อขายก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องคดี


ส่วนโทรศัพท์มือถือที่บังแจ็คจะส่งคืนมาให้นางภนิดา ก็ได้รับการยินยอมจากนางภนิดาว่า ทันทีที่ได้โทรศัพท์มือถือคืนมา จะส่งโทรศัพท์ให้กับตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบทันที และในวันนี้นางภนิดาได้มอบโทรศัพท์มือถือส่วนตัวให้กับตำรวจไซเบอร์เพื่อเก็บข้อมูลไว้แล้วเช่นกัน


พลตำรวจโทกรไชย ยังย้ำว่า ตำรวจไซเบอร์ สอบเฉพาะในประเด็นที่มีการนำภาพในโทรศัพท์มือถือของแตงโม มาเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เท่านั้น ส่วนสำนวนคดีหลักเป็นอำนาจการสอบสวนของตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งเป็นคนละคดีกัน


ขณะที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ หรือ ส.ส.เต้ ซึ่งเดินทางตามมาหลังการสอบปากคำนางภนิดาแล้วเสร็จ เปิดเผยว่า วันนี้ได้มาให้กำลังใจนางภนิดาและนายอัจฉริยะ รวมทั้งพูดคุยสอบถามในรายละเอียดของเอกสารราชการ และเอกสารทางธุรกรรมต่างๆ ที่เป็นหลักฐานเตรียมไว้ฟ้องตรงในคดีฆาตกรรม โดยจะยื่นฟ้องศาล ภายในวันที่ 23 มิถุนายนนี้


ตอนนี้ตนเองยังมีกำลังใจยังดีอยู่ แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมถึงมีความพยายามจะสกัดกระบวนการพิสูจน์ความจริง เหมือนกลัวว่ากระบวนการยุติธรรมจะเป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้น


ส่วนบังแจ็คถือเป็นคนที่นางภนิดาไว้ใจ ก็ต้องรักษาน้ำใจกัน แม้ว่าอัจฉริยะจะไม่ให้ราคาก็ตาม ซึ่งการรักษาน้ำใจเป็นยุทธวิธี เพื่อให้บังแจ็คส่งโทรศัพท์มือถือของแตงโมคืนมา


คุณอาจสนใจ

Related News