"ชัชชาติ" ร่วมเวทีส่งเสริมการอ่าน ย้ำ 3 นโยบายใช้งบไม่เยอะได้คุณภาพ

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 65 เวลา 13.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ร่วมเสวนาเวที พัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายสวัสดิการหนังสือเพื่อเด็กประถมวัย สานพลังร่วมหยุดวิกฤติ Learning Loss จากปฏิบัติการทางสังคมสู่ข้อเสนอเชิงนโยบาย เพื่อช่วยเพิ่มทักษะพัฒนาเด็กไทยลดปัญหาการเรียนรู้ทดถอยด้วยพลังกันอ่าน โดยเครื่อข่ายรักการอ่านยกกำลังสอง ที่มีการขับเคลื่อนนโยบายให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองรักการอ่านมาอย่างต่อเนื่อง 11 ปี

นายชัชชาติ ระบุว่า จากประสบการณ์ส่วนตัวเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก มีทุกวันนี้ได้เพราะการอ่าน อ่านเก็บวันละนิด สะสมมาเป็นความรู้ ซึ่งการอ่านหนังสือทำได้หลากหลาย ไม่ใช่แค่หนังสือเรียน โดยเริ่มจากหลักการง่าย ๆ คือ อ่านสิ่งที่เรารัก กระทั่งเรารักในสิ่งที่เราอ่าน ด้านโยบายเกี่ยวข้องกับการอ่าน 3 เรื่องหลัก ดังต่อไปนี้

เรื่องแรก การลงทุนน้อยแต่ได้เยอะ ทำได้อย่างไร นายชัชชาติ อธิบายว่า ในกลุ่มเด็ก 0-8 ปี เป็นช่วงที่เด็กจะมีการเรียนรู้และมีพัฒนาการ การลงทุนซื้อหนังสือสำหรับเด็กช่วงวัยนี้ราคาไม่ได้แพง กทม.จะหันมาดูแลเด็กก่อนวัยเรียนให้เพิ่มมากขึ้น

เรื่องที่สอง บทบาทของพ่อแม่มีความสำคัญ จากประสบการณ์ของตนที่มีลูกบกพร่องทางการได้ยิน ก่อนระหว่างที่จะผ่าตัดที่ต่างประเทศ ทีมแพทย์แนะนำการฝึกพ่อแม่ ให้รักการอ่าน เพราะพ่อแม่อยู่กับลูกมากที่สุด ดังนั้น หากพ่อแม่รักการอ่านและอ่านหนังสืออย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง ก็จะสามารถนำกลับไปฝึกให้ลูกอ่านได้ ประกอบกับการมีหนังสือประจำบ้านจะช่วยให้มีความอยากอ่าน เพราะเป็นกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกับพ่อแม่

เรื่องที่สาม เรื่องทรัพยากรสำหรับการอ่าน กทม.ต้องเข้ามาช่วยตรงนี้ เพราะมีคนจำนวนมากที่ยังมีรายได้น้อย การหาหนังสือไว้สำหรับให้บุตรหลานได้อ่านจะทำไม่ได้ ดังนั้นอาจทำให้มีโครงการลักษณะหนุนเวียนหรือส่งต่อ เชื่อว่าหลายบ้านมีหนังสืออย่างน้อย 3-5 เล่ม หากเรานำมาเข้าสู่ระบบการหมุนเวียนการอ่านของ กทม. แต่ละบ้านสามารถนำหนังสือมาส่งต่อหรือสลับกันอ่าน และตั้งเป้าให้เด็กอ่านจนครบ 100 เล่ม แบบนี้ก็จะทำให้เด็กมีหนังสืออ่านที่หลากหลายไม่ซ้ำ โดยไม่กระทบรายจ่ายครอบครัวนอกจากนั่น

ทั้งนี้ กทม. มีห้องสมุด 36 แห่ง บ้านหนังสืออีก 117 แห่งที่ต้องเข้าไปดูแล เพิ่มคุณภาพ จองพื้นที่เหล่านี้ เพราะในชุมชน พื้นที่เหล่านี้มีความสำคัญสำหรับเด็กที่จะเข้ามาอ่านหนังสือ มีอาสาสาสมัครเข้ามาช่วยสนับสนุนการอ่านกับเด็ก ๆ เสาร-อาทิตย์ ก็มีกลุ่มอาสาสมัครมาอ่านหนังสือกับเด็ก ตนต้องเรียนว่า การอ่านเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ กทม. ต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง เป็นเรื่องที่ไม่ได้ใช้งบประมาณเยอะ เพราะหากมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นอย่างดี แต่ประชากรไม่มีคุณภาพ การพัฒนาก็ไม่เกิด