กลุ่มธรรมาภิบาล ยื่น ป.ป.ช.สอบ “ชัชชาติ” ปมจ่ายหนี้ BTS ล่าช้า เสียดอกเบี้ยมหาศาล ผิด ม.157 หรือไม่

เครือข่ายธรรมาภิบาล ประชาชนต้านทุจริตและคอรัปชั่น ยื่นหนังสือให้ ป.ป.ช.สอบ “ชัชชาติ” พร้อมพวก ปม จ่ายหนี้ BTS ล่าช้า ทำเสียดอกเบี้ยกว่า 5,000 ล้าน ผิด ม.157 หรือไม่  

เวลา 10.30 น. วันนี้ (14 พ.ย.68) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ นายสุนทร บุญยิ่ง หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น นำเครือข่ายภาคประชาชนชาวกรุงเทพมหานครผู้เสียภาษี เข้ายื่นหนังสือให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.เพื่อตรวจสอบการกระทำของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและฝ่ายบริหาร ว่าได้มีพฤติกรรมในการบริหารงาน ในลักษณะยื้อเวลาในการแก้ปัญหาภาระหนี้สินรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี จนเป็นเหตุให้ยอดหนี้ที่กรุงเทพฯต้องจ่ายให้กับเอกชนเพิ่มขึ้นโดยไม่มีเหตุอันควร และทำให้มีดอกเบี้ยเป็นจำนวนเงินหลายพันล้านบาท ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อกรุงเทพมหานครและประชาชนผู้เสียภาษีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือไม่

โดยนายสุนทร ระบุว่า ทางกลุ่มธรรมาภิบาลได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นและได้รับข้อเท็จจริงคือ กรุงเทพมหานครมีปัญหาหนี้สินในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวกับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC จำนวนเงินประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท และเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 นายชัชชาติได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และประกาศว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว แล้วจะเร่งรัด หาข้อสรุป เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ภายใน 1 เดือน แต่ปรากฏว่านายชัชชาติไม่ได้แก้ไขปัญหาได้จริง จึงเป็นเหตุให้บริษัท BTSC ดำเนินการฟ้องคดี เพื่อให้กรุงเทพมหานคร และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ชำระหนี้ ต่อมาเมื่อมีการชำระหนี้ ครั้งแรกในจำนวน 11,068 ล้านบาท ครั้งที่ 2 จำนวนเงิน 36,44 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินต้น 31,482 ล้านบาทและดอกเบี้ยจำนวน 4,962 ล้านบาท

นายสุนทร กล่าวิกว่า เการกระทำดังกล่าว ของนายชัชชาติและผู้บริหารกรุงเทพมหานคร จึงเข้าข่าย การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเป็นเหตุให้กรุงเทพมหานครต้องเสีย ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เกือบ 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเสียเงินจำนวนมากโดยไม่จำเป็น ทำให้ประชาชนผู้เสียภาษีได้รับความเสียหาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการดำเนินการที่ขัดต่อธรรมาภิบาลที่ดีจนเป็นเหตุให้สิ้นเปลืองภาษีและเงินของแผ่นดิน

ทั้งนี้กลุ่มธรรมาภิบาลฯ จึงเรียกร้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดในเรื่องดังกล่าวว่าการกระทำของนายชัชชาติและฝ่ายบริหารของกรุงเทพมหานครเกี่ยวข้อง ว่าเป็นการกระทำผิดที่ปฏิบัติหรือเราเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเป็นการกระทำผิดก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป